เอ็นไวโรเซล (ไทยแลนด์) เปิดไลฟ์สไตล์ คนเมียนมาร์ ยุคปี 2559 เปิดรับสิ่งใหม่ด้วยกระแสจากภายนอก เปลี่ยนจากทานาคาสู่มอยส์เจอร์ไรเซอร์ จากรถมือสองสู่รถนำเข้า จากกาแฟชงแบบซองสู่กาแฟสด
สรินพร จิวานันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นไวโรเซล ประเทศไทย จำกัด ที่ไม่ใช่เพียงแค่ที่ปรึกษาด้านการทำวิจัยเท่านั้น แต่เน้นการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค ในเครือของบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองของเมียนมาร์ ที่เป็นที่จับตามองของนักลงทุนจากทั่วโลก เอ็นไวโรเซลเดินหน้าศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
โดยครั้งนี้ได้มีการสำรวจข้อมูลใน 2 หัวเมืองใหญ่ของประเทศพม่า คือ ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็น 2 เมืองหลัก ที่เป็นตัวขับเคลื่อนประเทศพม่า และมีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจด้วยกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิง อายุ 18 ปีขึ้นไป และมีรายได้ ในระดับล่างถึงบน (A, B, C และ D) พบว่าสังคมพม่ามีการเปลี่ยนอย่างมาก และมีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปอย่างน่าจับตามอง ดังนี้
1.เปลี่ยนรสนิยม
ชาวเมียนมาร์ยุคนี้ ยอมใช้จ่ายเงินมากขึ้นเพื่อประสบการณ์ใหม่ๆ เห็นได้จากตัวบ่งชี้หลายอย่าง เช่น ชาวเมียนมาร์บางกลุ่มนั้นเริ่มจะเปลี่ยนจากร้านกาแฟริมถนนที่อยู่คู่กับชาวเมียนมาร์มาอย่างยาวนาน แต่มายอมจ่ายแพงขึ้นถึง 10 เท่าโดยเฉลี่ยเพื่อทานกาแฟในคาเฟ่ที่สมัยใหม่ ส่งผลให้ปัจจุบันในย่างกุ้งนั้นมีร้านกาแฟสดเพิ่มมาขึ้นราว 30 ร้านใน 2-3 ปีที่ผ่านมา
ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอิทธิพลมาจากการเสพสื่อที่เห็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต รวมทั้งละครเกาหลี ถึงแม้บางคนอาจจะยังสั่งไม่ถูก ยังไม่เข้าใจความแตกต่างของกาแฟสดแต่ละชนิด แต่อย่างไรก็ตาม กาแฟสดก็ได้เข้ามามีบทบาทกับไลฟ์สไตล์ของชาวพม่ามากยิ่งขึ้น เปลี่ยนวิถีชาวเมียนมาร์จากนั่งยองกินกาแฟเป็นนั่งเก้าอี้มากขึ้น
2.ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ไม่เพียงแค่ชาวต่างชาติสนใจเมียนมาร์ ชาวพม่าก็สนใจโลกภายนอกเช่นกัน กำลังซื้อที่มีมากขึ้นจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและค่าเงินที่แข็งขึ้นกว่า 30% นั้นทำให้ชาวพม่าสนใจไปเที่ยวนอกประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะประเทศในเอเชียแปซิฟิกอย่าง ไทย เวียดนาม กัมพูชา เป็นต้น โดยมีอัตราส่วนการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่เดินทางออกนอกประเทศมากกว่า 200% ตั้งแต่ปี 2011 ทั้งนี้ ตัวเลขนี้ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากเพราะประเทศต่างๆ เริ่มใช้นโยบายลดหย่อนวีซ่าเพื่อชาวพม่าบ้างแล้ว
3.เสพสื่อออนไลน์
ไม่ว่าจะเป็นสื่อโทรทัศน์ หรือสื่อออนไลน์ ชาวเมียนมาร์มีทางเลือกและโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ มากขึ้น คนพม่ามีสัดส่วนการติดจานดาวเทียมเพื่อรับสื่อนอกประเทศมากขึ้นกว่า 200% จากปีที่แล้ว และกว่า 95% มีโทรศัพท์ใช้ โดย 80% ของโทรศัพท์ทั้งหมดเป็นสมาร์ทโฟน นอกจากนั้น 60% ของผู้ใช้โทรศัพท์ยังใช้บริการบนโลกออนไลน์ ซึ่งเติบโตขึ้นจากปี 2012 ซึ่งในขณะนั้น มีตัวเลขเพียงแค่ 2% เท่านั้น รวมทั้งเทรนด์การใช้ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟน ยังเติบโตขึ้นถึง 200% ซึ่งเป็นตัวเลขการเติบโตสะท้อนถึงพฤติกรรมการเสพข้อมูลของชาวพม่าที่เพิ่มสูงมากขึ้นได้เป็นอย่างดี
4.นิยมแบรนด์เนม
เมื่อคนพม่าเสพสื่อและเปิดรับกับสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากขึ้น คนพม่ายังมีทางเลือกในแง่ของความหลากหลายของสินค้ารวมถึงแบรนด์มากขึ้นด้วยเช่นกัน เช่นตลาดเครื่องใช้อุปโภคบริโภค (FMCG)ในเมียนมาร์นั้นเติบโตราว 14% ใน 4 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยส่วนหนึ่งเกิดจากการแข่งขันทางการตลาดในพม่านั้นเพิ่มขึ้นทุกๆ ปีทั้งแบรนด์ในประเทศและแบรนด์ต่างชาติ งบโฆษณาของแบรนด์ต่างชาติเพิ่มขึ้นราว 3 เท่าจากปี 2010 เช่นเดียวกับแบรนด์ท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้นราว 2.3 เท่าเช่นกัน หากย้อนกลับไปเปรียบเทียบกับปี 2001 งบโฆษณาโดยรวมนั้นเพิ่มขึ้นกว่า 13 เท่า ซึ่งสามารถชี้ชัดได้ว่าตลาดที่กำลังเติบโต และการแข่งขันที่จะทำให้ความภักดีของแบรนด์สินค้าลดลงด้วยเช่นกันจากค่าเฉลี่ยที่เคยใช้สินค้ายี่ห้อเดียวก็เป็น 2 แบรนด์ 2 ยี่ห้อไปโดยปริยาย
5.จากทานาคาสู่มอยส์เจอร์ไรเซอร์
คนเมียนมาร์นั้นเริ่มรู้จักและใช้สินค้าเพื่อดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น เช่น สินค้าในประเภทครีมหรือโลชั่นมีการเติมโตถึง 2 เท่าใน 3 ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ประเภทครีมนวดผม ที่เติบโตแบบก้าวกระโดดขึ้นสูงสุด จาก 5% ในปี 56 สู่ 50% ในปีนี้ นอกจากนั้นในเรื่องของการดูแลผิวพรรณของชาวพม่า ในอดีตเป็นเรื่องของผู้หญิงซะส่วนใหญ่ หากแต่ในปัจจุบันนั้นกลุ่มผู้ชายก็เริ่มปรับตัวมาสนใจสินค้าใหม่ๆ และดูแลผิวพรรณของตัวเองด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น อัตราการใช้โฟมล้างหน้าในกลุ่มผู้ชายนั้นเติบโตมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ 24% สู่ 29% และ 36% ในปีนี้ตามลำดับ
6.พกบัตร
เมื่อชาวพม่าใช้อินเทอร์เน็ตเติบโตขึ้น การซื้อขาย จ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์นั้นก็มีแนวโน้มเติบโตด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับระบบการจ่ายเงินแบบเครดิตในพม่านั้น แต่ละองค์กรที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการร่วมมือและกระตุ้นการใช้งานมากขึ้นเช่น Myanmar Payment Union ได้ร่วมมือกับ 2C2P ผู้ให้บริการ Online Payment และแบงก์ในประเทศเพื่อออกบัตรเดบิตสำหรับชาวพม่าหรือ MPU cards ขึ้น มีเป้าหมายเพื่อเปิดประตูให้ชาวพม่าได้ซื้อสินค้าจากในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจุบันผู้ใช้บริการอยู่มากกว่า 900,000 คน นับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาด E-commerce ในพม่า