Messages to Me

เรื่องราวต่อไปนี้ผ่านการค้นคว้าและวิจัยจากเครื่องสำอางแบรนด์ดังมาแล้ว Positioning หยิบยกเรื่องราวมาถ่ายทอดเพื่อให้เห็นต้นตอของการเกิดปรากฏการณ์ men’s cosmetic fever ทั่วโลก

ผู้ชายมีเส้นขนประมาณ 6,000 ถึง 25,000 เส้น กระจายอยู่ในหน้า
ผู้ชายโดยปกติในช่วงชีวิตหนึ่งจะใช้เวลากว่า 3,000 ชั่วโมง ในการโกนหนวด หรือประมาณ 140 วันเลยทีเดียว
หนวดของผู้ชายยาวขึ้นเฉลี่ย 0.016 นิ้วต่อวัน หรือ 5.75 นิ้วต่อปี
ผิวผู้ชายมีซีบัมมากกว่าผิวผู้หญิง เป็นสาเหตุให้ผิวมันและเกิดสิวได้ง่าย

ที่มา : Biotherm Homme

ผิวผู้ชายมีน้ำหนักและมีความมันมากกว่าผิวผู้หญิง น้ำหนักโดยรวม 5 กิโลกรัม ขณะที่ผิวผู้หญิงหนัก 4.3 กิโลกรัม
และมีการผลิตน้ำมันมากกว่าหลายเท่า ผิวชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้มีความหนามากกว่า ผิวผู้ชายหนา 2 มิลลิเมตร ผิวผู้หญิงหนา 1.06 มิลลิเมตร แตกต่างกันมากกว่าถึง 20 % แม้จะต่อต้านสิ่งคุกคามได้นานกว่า แต่เมื่อริ้วรอยเกิดขึ้นย่อมชัดเจนกว่า และปรากฏเป็นรอยลึก ทำให้แก้มดูหนัก เกิดคาง 2 ชั้น ที่สำคัญผู้ชายมีลูกกระเดือกอยู่บริเวณกระดูกฐานคอที่เรียกว่า Hyoid Bond ทำให้เกิดเส้นทแยงบริเวณมุมใต้คาง ทำให้เกิดการสะสมตัวของไขมันและเนื้อเยื่อส่วนเกิน

สัญญาณเตือนว่าความร่วงโรยกำลังคืบคลานเข้ามา

ร่องลึกบนหน้าผาก ผิวแห้งลงและมักมีสีแดง เกิดร่องลึกชัดเจนบริเวณข้างจมูก คาง 2 ชั้น คอดูหนาขึ้น และแก้มหย่อนคล้อยไม่ได้รูป

ที่มา : ClarinsMen

ผิวผู้ชายมันกว่าและมีแนวโน้มที่จะเกิดสิว เพราะมีซีบัมสูงกว่าผู้หญิง 2 เท่า
ผิวผู้ชายมีค่า Ph เป็นกรดสูงกว่า (4.5-5.5)
ผิวผู้ชายหนากว่า 16% โดยเฉลี่ย
ช่วงอายุระหว่าง 30-50 ปี แม้ริ้วรอยจะเกิดขึ้นช้ากว่าแต่ก็ฝังลึกกว่า เพราะผิวสูญเสียความกระชับไปราว 25 %
ซึ่งหมายความว่าผิวผู้ชายสูญเสียความชุ่มชื้นและแห้งกร้านได้ง่ายกว่า
ผู้ชายมีการไหลเวียนเลือดสูงกว่า 50% จากการเผาผลาญออกซิเจนในปริมาณมาก
ผิวผู้ชายมีขนมากกว่า ประมาณ 6,000 – 25,000 เส้น และถูกทำร้ายจากการโกนหนวดเฉลี่ย 180 วัน

ที่มา : LANCOME HOMME