ดาราดังจากหนัง Hollywood ส่วนใหญ่เดินผ่านประตู Hollywood Studios ซึ่งถือว่าเป็นโรงงานผลิตซูเปอร์สตาร์มาแล้วทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นดารารุ่นใหม่อย่าง Leonardo DiCaprio หรือดาราอมตะอย่าง James Dean แม้จะมาจากต่างค่ายต่างสังกัด แต่ก็ร่วมเดินบนถนนสายเดียวกัน
กว่าศตวรรษที่ผ่านมา Thomas Edison ผู้ประดิษฐ์และจดทะเบียนสิทธิบัตรหลอดไฟเป็นคนแรกของโลก และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท General Electric (GE) ได้สร้าง Movie Studio แห่งแรกขึ้นในเมือง West Orange แห่ง New Jersey ชื่อว่า Black Maria ที่ทำมาจากกระดาษแข็งราดยางสีดำ (Tar Paper) เพื่อควบคุมแสงธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็มีหลังคาที่เปิดปิดได้ เพื่อความสะดวกเมื่อต้องการแสงธรรมชาติในการถ่ายทำ และหนังเงียบขาวดำเรื่องแรกของ Thomas Edison คือ “Fred Ott’s Sneeze” เป็นที่สังเกตได้ว่า การถ่ายทำภาพยนตร์ในยุคต้นๆ ของอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงนั้นเกิดขึ้นในห้องหรือ studio เล็กๆ เท่านั้น ยังไม่มี movie town ที่ครบวงจรเหมือนในปัจจุบัน
หลังจาก Edison ริเริ่มทดลองการถ่ายทำภาพยนตร์ในสตูดิโอเป็นรายแรก ก็มีอีกหลายบริษัทที่ผุดตามมา โดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองตะวันออกอย่าง New Jersey New York และเมืองใน Midwest อย่าง Chicago จนกระทั่งในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 บริษัทเหล่านี้เริ่มย้ายฐานไปสู่ตะวันตก สู่ถนนสาย Hollywood ณ เมือง Los Angeles, California ด้วยเหตุผลของสภาพอากาศที่อุ่นกว่าและมีเวลากลางวันที่ยาวนานกว่า เนื่องจากในยุคนั้น แม้ว่าหลอดไฟของ Edison จะช่วยให้แสงในการถ่ายทำ แต่ยังแรงไม่พอ สู่พลังจากแสงธรรมชาติไม่ได้
Movie Studio แห่งแรกใน Hollywood มีชื่อว่า “Nestor Studios” ของ David Horsley ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 83 ปีที่แล้ว ซึ่งในปีถัดมา Horsley ได้ขายหุ้นบริษัท Universal Film ของ Carl Laemmle ซึ่งปัจจุบันคือ Universal Studio ที่โด่งดังนั้นเอง จากนั้นมีอีกนับสิบบริษัทที่ตามรอย Horsley มาปักหลักที่ Hollywood พัฒนามาสู่การดำเนินธุรกิจที่ครบวงจร บางบริษัทเริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิต ถ่ายทำ ตัดต่อ ให้เสียง กราฟิก animations ไปจนถึงการจัดจำหน่าย หรือแม้กระทั่งโชว์ภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ของตนเอง เช่น Fox ซึ่งปัจจุบันคือ 20th Fox Century, Loew’s Incorporated ต่อมากลายเป็น Metro Goldwyn Mayer หรือ MGM และปัจจุบันอยู่ภายใต้ Sony Picture Entertainment บริษัท Paramount Pictures บริษัท Radio-Keith-Orpheum (RKO) และบริษัท Warner Bros.
ปัจจุบัน Hollywood Town ใน Los Angeles ยังคงเป็นแหล่งรวม Movie Studios หรือที่คนในวงการภาพยนตร์อเมริกันเรียกว่า “Motion Picture Studios” นับเป็นสิบๆ แห่ง บริษัทธุรกิจสื่อเพื่อความบันเทิงเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงแค่สถานที่ถ่ายทำและผลิตภาพยนตร์ให้เราๆได้ชมกันเท่านั้น แต่เป็นธุรกิจแบบครบวงจร มีทั้ง สตูดิโอ สวนสนุก รีสอร์ต ร้านอาหาร ร้านของที่ระลึก บริษัทเพลง บริษัทสิ่งพิมพ์ บริษัทวิทยุ โทรทัศน์ และเว็บไซต์ ภายใต้บริษัทแม่แบรนด์ดังๆไล่ตามลำดับส่วนแบ่งทางการตลาด เริ่มจาก Walt Disney Studio Entertainment ซึ่งเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดภาพยนตร์และบันเทิงของอเมริกา รองลงมาคือ NBC Universal Entertainment อันดับสามคือ Warner Bros. Entertainment อันดับสี่คือ Sony Picture Entertainment ที่เคลื่อนขึ้นมาจากอันดับห้า หลังจากที่ประกาศซื้อ MGM เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา อันดับถัดมาคือ 20th Century Fox และถัดมาคือ Paramount Pictures
นับเป็นความโชคดีของคนรุ่นหลัง ผสานกับความสำเร็จของการทำการตลาดของอุตสาหกรรมนี้ในอเมริกา ที่มีโอกาสได้เรียนรู้เบื้องหลังการผลิตภาพยนตร์ รวมทั้งรวมผจญภัยในฉากจริงของภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ จาก Hollywood Movie Studios Tour และ Theme Park ซึ่งถือเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่สร้างรายได้หลักให้แก่อุตสาหกรรมนี้…เป็นการตลาดที่ครบวงจร เริ่มจากเรียกน้ำย่อยด้วยภาพยนตร์หรือการ์ตูนหรือรายการโทรทัศน์ ตามติดด้วยของที่ระลึกจากเรื่องนั้นๆ เท่านั้นไม่พอต้องซื้อ Soundtrack กลับไปฟังที่บ้าน ซื้อหนังสือหรือนิตยสารกลับไปอ่านต่อ เปิดอินเทอร์เน็ตเข้าไปดูข่าวบันเทิงในเว็บ และปิดเทอมชวนกันไปเที่ยวที่ Hollywood Town…
Walt Disney’s World
ปีนี้บริษัท Walt Disney มีอายุ 71 ปีแล้ว ธุรกิจหลักที่ Disney ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 4 สายธุรกิจด้วยกัน คือ Studio Entertainment, Parks และ Resorts, Consumer Product และ Media Network
ธุรกิจ Studio Entertainment ถือเป็นธุรกิจรากแก้วของ Disney เป็นที่ผลิตผลงานการ์ตูนและภาพยนตร์ที่สร้าง Mickey Mouse และเพื่อนๆ ของเขาให้เป็นอมตะอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งดำเนินการภายใต้บริษัท Walt Disney Pictures รวมทั้งบริษัท Disney Feature Animation & DisneyToon Studios บริษัท Touchstone Pictures บริษัท Hollywood Pictures บริษัท Miramax Films และบริษัท Dimension Film สำหรับบริษัท Buena Vista Home Entertainment International ทำหน้าที่เป็นผู้จัดจำหน่ายซีดี ดีวีดี การ์ตูนและภาพยนตร์ไปทั่วโลก บริษัท Buena Vista Theatrical Productions เป็นบริษัทที่ผลิตเพลง Broadway และบริษัท Buena Vista Music Group ซึ่งจัดจำหน่ายเพลงประกอบภาพยนตร์และการ์ตูนของ Disney ภายใต้ชื่อของ Walt Disney Records, Buena Vista Records, Hollywood Records และ Lyric Street Records
ธุรกิจ Walt Disney Parks & Resorts เริ่มมานานกว่า 40 ปีก่อน Disney’s World ถือเป็นจุดนัดฝันของคนทุกรุ่น นับตั้งแต่รุ่นหนีบหมอนถือขวดนมไปถึงรุ่นโขยกเขยกด้วยไม้เท้า ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์การตลาดของ Disney ที่ต้องการครอบคลุมทุกเพศวัย ยกโขยงมากันทั้งครอบครัวเป็นสัญลักษณ์อมตะของ Disney’s World โดยสามารถเลือกจุดหมายปลายทางได้อย่างเสรี จะเลือกทางบก Disneyland Resort ที่มีโรงแรมให้บริการถึง 3 โรงแรม หรือจะเลือกทางทะเล ก็ไปกับ Disney Cruise Line เรือสำราญที่มี 3 ปลายทางให้เลือก คือ Bahamian Cruises, Western และ Eastern Caribbean Cruise อีกทั้ง Disney Vacation Club ที่มี Club House ขนาดใหญ่รองรับสมาชิกจากทั่วโลก Disney ตั้งอยู่ในยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกมุมของโลก ในอเมริกามีอยู่ 2 แห่งที่ California และ Florida ในเอเชียมี 2 แห่งคือ ที่ญี่ปุ่นและฮ่องกงที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ และในยุโรปที่ปารีส…เท่านั้นยังไม่พอแบรนด์ “Disney” ที่ดำเนินการภายใต้บริษัท Disney Consumer Products ยังทำตลาดในทุกผลิตภัณฑ์เท่าที่จะ “ขาย” ได้ รวมทั้งบัตรเครดิต Disney Visa Card โทรศัพท์มือถือจาก Disney Mobile ที่สามารถ Download Disney Game Ring tones Wallpapers Graphic เรียกได้ว่าครบทั้ง Disney Theme
ธุรกิจสายสุดท้ายของ Disney คือ Media Networks ที่ครอบคลุมทั้งวิทยุและโทรทัศน์ทั่วอเมริกา Disney มีช่องรายการของตนเองนับสิบๆ ช่อง เช่น ช่องกีฬา ESPN ช่องรายการ Disney Channel ช่อง ABC Family ช่องการ์ตูน Toon Disney และช่อง SOAPnet นอกจากนั้น Disney ยังถือหุ้นในช่องดังอย่าง Lifetime Entertainment Services ช่อง A&E Television Networks และ E! Network รวมทั้งมีบริษัทสิ่งพิมพ์ของตัวเองคือ Hyperion Books และผลิตเว็บไซต์ของตนเองภายใต้บริษัท Walt Disney Internet Group
Universal Studio Park & Resort
Universal Studio Park & Resort เป็นธุรกิจหนึ่งภายใต้บริษัทแม่คือ NBC Universal ซึ่งถือเป็นผู้นำธุรกิจสื่อบันเทิงระดับแนวหน้าของโลก ที่เกิดจากการควบกิจการของบริษัท NBC และบริษัท Vivendi Universal เมื่อกลางปีที่ผ่านมา และจากการที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างบริษัท General Electric (GE) ที่ถือหุ้นมากถึง 80% และอีก 20% เป็นของ Vivendi Universal ทำให้บริษัท NBC Universal กลายเป็นบริษัทอันดับสองของอุตสาหกรรมนี้ ปัจจุบัน NBC Universal ดำเนินธุรกิจหลักคือ Television Network ที่มีสถานีรายการโทรทัศน์เกือบ 30 สถานี ธุรกิจผลิตและจำหน่ายรายการโทรทัศน์ ธุรกิจภาพยนตร์ และธุรกิจ Parks & Resorts
Universal Studio กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของอเมริกาตั้งอยู่ที่ Hollywood Town ใน California และที่ Orlando ใน Florida นอกจากนั้นยังกระจายครอบคลุมทุกมุมโลกคือ Universal Studio Japan ที่โอซากา และ Universal Mediterranean ที่สเปน ซึ่งแต่ละมี VIP Studio Tour ให้เข้าชมเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ดังแต่ละฉาก ตั้งแต่ในเวที Soundstages ฉาก Backlot streets และ Special Effects ทั้งหลาย นอกจากนั้นยังมีสวนสนุก บ้านผี จากหนังสยองเรื่อง Mummy เรื่อง Fortress Dracula เรื่อง Jurassic Park และ Terminator เป็นต้น
Warner Bros. Studio
วันนี้ธุรกิจของ 4 พี่น้องตระกูล Warner มีอายุเกินหนึ่งร้อยปีแล้ว ปัจจุบัน Warner Bros. ดำเนินธุรกิจครบวงจรในสื่อบันเทิงรายใหญ่ของโลก หลังจากที่เป็นข่าวใหญ่เมื่อสิบกว่าปีก่อนคือการควบกิจการของ Warner Bros. กับบริษัท Time-Life และก่อกำเนิดบริษัทผลิตสื่อที่ยักษ์ใหญ่ของโลกคือ Time-Warner Inc. ที่มีทั้งธุรกิจสิ่งพิมพ์ Time Inc. และ Time Warner Book Group ธุรกิจภาพยนตร์Warner Bros. Entertainment และ New Line Cinema ธุรกิจโทรทัศน์ได้แก่ Turner Entertainment Networks, CNN News Group, Home Box Office (HBO) และ The WB Television Network ธุรกิจเคเบิลคือ Time Warner Cable และธุรกิจอินเทอร์เน็ตคือ American Online (AOL) เรียกว่า กุมทุกสื่อไว้ในอุ้งมือ
Warner Bros. Studio ถือเป็นหลักทรัพย์แหล่งรายได้หลักหนึ่งที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 100 เอเคอร์ใน Hollywood Town ถูกแปลงให้เป็นฉาก ตึก ถนน ต้นไม้ที่เราอาจคุ้นตากันบ้างจากหนังดัง เช่น Batman Return หรือ American Beauty หรือฉากเปิดของละครซีรีส์ดังอย่าง ER และ Friends…
ในปี ค.ศ. 1927 ภาพยนตร์เรื่อง “The Jazz Singer” ที่นำแสดงและขับร้องโดยบรมครูเพลงแจ๊ซ Al Jolson เป็นภาพยนตร์ที่มีเสียงเรื่องแรกในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอเมริกาและผลิตในสตูดิโอแห่งนี้ ปัจจุบัน Warner Bros. Studio มี Exterior sets อีกไม่ต่ำกว่า 10 ฉากให้เลือกถ่ายทำได้ตามโลเกชั่นที่อยากให้เป็น ไม่ว่าจะเป็นย่านธุรกิจใจกลางเมืองดังๆ อย่าง New York หรือบรรยากาศแบบฝรั่งเศสก็ถูกจำลองมาไว้ที่สตูดิโอแห่งนี้ นอกจากนั้น ยังมี Sound stages ถึง 29 เวที มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ตั้งแต่ 6,000-32,000 ตารางฟุต บางเวทีมีอายุเก่ากว่า 60 ปี แต่ยังคงใช้งานได้ดีในปัจจุบัน…หากใครมีโอกาสได้มาเยือนสตูดิโอแห่งนี้ จะพลาดการเข้าชม Stage No. 16 ไม่ได้ เนื่องจากเป็นเวทีที่สูงที่สุดในโลก และเป็นที่ถ่ายทำฉากสำคัญของหนังดังหลายเรื่องเช่น My Fair Lady, Camelot, The Music Man, The Old Man and The Sea, Ghostbusters, Jurassic Park, the Batman trilogy และ The Perfect Storm นอกจากนั้นยังเป็นที่ถ่ายทำละครทีวีดังอย่าง Friends, ER และ The West Wing อีกด้วย
Reference: Time Warner Fact book
http://www.economist.com
http://wbsf.warnerbros.com
http://disney.go.com
http://disneyworld.disney.go.com
http://www.nbcuni.com/
http://themeparks.universalstudios.com
