Mobile fun fair : A Re-New Form of Commerce Channel

“โคคา โคลา เวิลด์ คานิวัล” ของค่ายตี๋ แม็ทชิ่ง และ “อะเมซิ่ง ฟันปาร์ค” ของโอ๊ค พานทองแท้ แห่งฮาวคัม กลายเป็นโมเดลใหม่ของการทำธุรกิจสวนสนุกแบบเคลื่อนที่ สร้างไลฟ์สไตล์ใหม่ให้กับคนไทย ยอมควักกระเป๋า แลกกับสัมผัสความสนุกระดับอินเตอร์ ที่ import มาจากอังกฤษ ชนิดที่เป็นขาประจำต่อเนื่องไปอีก 3 ปี ระยะเวลากินยาว 2-3 เดือน ทำให้ฟันปาร์คแห่งนี้ เป็นมากกว่านิทรรศการไหนๆ ที่ผ่านมา

สวนสนุกอิมพอร์ตทั้ง 2 แห่ง สั่งนำเข้ามาจากประเทศอังกฤษ ต้นตำรับ และนำเข้าโดยบริษัทด้าน “entertainment business” เหมือนกัน คือ Matching Entertainment เป็นผู้นำเข้าเครื่องเล่นจากบริษัท UK Funfairs ภายใต้ชื่องาน “Coca Cola World Carnival” ซึ่งงานนี้โค้กควักเงิน 40-50 ล้านบาท จึงได้เป็นไตเติลสปอนเซอร์ มีโลโก้ตระหง่านบนชิงช้าขนาดยักษ์ให้คนเห็นและจดจำพร้อมความสนุกของงาน ส่วนอีกรายคือ How Come Entertainment เช่าขาดเครื่องเล่นจากบริษัท The Amazing Fun Park และตั้งชื่ออย่างง่ายว่า “The Amazing Fun Park 2004”

นอกจากนี้ รายละเอียดของทั้ง 2 งาน ยังมีความเหมือนและความต่างที่สะท้อน positioning ของสวนสนุกแต่ละแห่ง และแนวคิดของ 2 บริษัทในการจับธุรกิจ “Entertainment Festival” ครั้งนี้ ได้อีกด้วย

… แรงบันดาลใจในการจัด “ฟันแฟร์”

แม็ทชิ่งฯ : ความปรารถนาของสมชาย ชีวสุทธานนท์ CEO ที่ต้องการเห็นครอบครัวไทยมีกิจกรรมทำร่วมกัน ไม่ใช่เดินห้าง ดูหนัง กินข้าว แล้วก็กลับบ้าน

ฮาวคัมฯ : ทั้งพานทองแท้ ชินวัตร และนันทสิทธิ์ แจ่มสมบูรณ์ ในฐานะผู้บริหารของฮาวคัมฯ เห็นว่าปีนี้คนไทยพบปัญหามากมายทั้งไข้หวัดนก ค่าน้ำมัน และปัญหาภาคใต้ จึงหวังจะเห็นคนไทยมีความสุข บวกกับความประทับใจที่เคยได้จากงาน “The Amazing Fun Park” ที่เคยจัดแถวฟีบัสผับ กรุงเทพฯ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว จึงอยากนำความสุขนี้กลับมาอีกครั้ง

… ความคาดหวังจากการจัด “ฟันแฟร์”

แม็ทชิ่งฯ : “เรามั่นใจว่างานนี้คงได้กำไร และจริงๆ ก็คือเราอยากทำให้คนไทยเห็นว่า แม็ทชิ่งฯ สามารถทำงานระดับอินเตอร์ให้คนไทยชื่นชมได้ และมันเป็น value ที่จะทำให้คนไทยได้รู้จักแม็ทชิ่งฯ มากขึ้น และทำให้เขารู้สึกดีกับเรา ขณะที่ต่างชาติก็จะเห็นว่า บริษัทคนไทยระดับเราก็สามารถจัดงานระดับโลกได้ อนาคตก็น่าจะมีงานใหญ่ๆ มาหาเราได้เช่นกัน” หรือก็คือ เพื่อแสดงความเป็นผู้นำด้าน “entertainment business” ของเมืองไทย

ฮาวคัมฯ : “เราก็คิดว่าคงจะพอมีกำไร แต่ก็ไม่ได้คิดจะเอากำไรมากหวังแค่พออยู่ตัว” ทั้งนี้ นอกจากรายได้หลักมาจากค่าสปอนเซอร์ ซึ่งฮาวคัมฯ มีสปอนเซอร์กว่า 10 ราย เช่น เป๊ปซี่ ที่ไม่ยอมน้อยหน้าน้ำดำอีกค่าย โนเกียซึ่งมีโปรโมชั่นร่วม รถโตโยต้า และ AIS เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีมีเดียสปอนเซอร์ช่วยสนับสนุนด้านการโปรโมต

รายได้จากค่าเครื่องเล่น และรายได้อีกส่วนมาจากค่าบริการ SMS ซึ่งเป็นโปรโมชั่นพิเศษเพื่อลุ้นโทรศัพท์มือถือและทองคำทุกคืน อีกทั้งลุ้นรถโตโยต้า Vios หรือ Avenza ทุกวันเสาร์ พร้อมลุ้นโตโยต้า Innova ในคืนส่งท้ายปีเก่า และคืนสุดท้ายของงาน ทำให้ค่าผ่านประตู 50 บาท หรือ 20 บาท สำหรับผู้มาโดยรถไฟฟ้า หรือถือหางตั๋วหนังเครือเมเจอร์ และผู้ใช้โนเกียระบบ GSM หรือผู้มีบัตร One-2-Call รวมเป็นผลพลอยได้

… กว่าจะมาเป็น “ฟันแฟร์”

แม็ทชิ่งฯ : สมชายใช้เวลา 3 ปี ติดต่อประสานงาน และพิสูจน์ให้ “UK Funfairs” มั่นใจการทำงานของแม็ทชิ่งฯ จนให้ลิขสิทธิ์มานาน 3 ปี ด้วยเชื่อว่าบริษัทนี้ใหญ่และดีที่สุดในธุรกิจสวนสนุกเคลื่อนที่โลก โดยความสำเร็จที่มีมาแล้วคือ ประเทศดูไบ ฮ่องกง ไทเป และจีน เป็นต้น ทั้งนี้ สมชายตั้งใจจะจัดต่อเนื่องทุกปีนาน 3 ปี

หลังจากได้ลิขสิทธิ์มา สมชายติดต่อและตกลงกับ “โค้ก” หลังจากที่ “Happy” ของ DTAC ไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายในการเป็นไตเติลสปอนเซอร์ราคา 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้ “โค้กเองก็ต้องการมี event ใหญ่ในการทำ event marketing ส่งท้ายปีเหมือนกัน ตรงนี้ค่อนข้างตรงไลน์ เพราะโค้กก็จับกลุ่มลูกค้าคลอบคลุมทั้งครอบครัวเหมือนเรา”

ฮาวคัมฯ : ผู้บริหารทั้ง 2 คนตั้งใจจะจัดงานฟันแฟร์ขนาดใหญ่ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง “ฮาวคัมฯ” (ปีกว่ามาแล้ว) จึงติดต่อกับบริษัท The Amazing Fun Park ที่เคยมาสร้างความประทับใจให้คนไทยเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งบริษัทนี้มักให้บริการแถบยุโรป ฮาวคัมฯ จึงใช้วิธีเช่าขาดสิทธิ์มาบริหารเองจนถึงเดือน พ.ค. ปีหน้า โดยวางแผนว่า หลังงานที่กรุงเทพฯ จะเคลื่อนไปจัดที่หัวเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ และประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนามและสิงคโปร์ ส่วนงานที่กรุงเทพฯ ในปีหน้าจะมีหรือไม่ นันทสิทธิ์ขอรอสรุปกำไรครั้งนี้ก่อน

… คนไทย เทศกาล และ “ฟันแฟร์”

แม็ทชิ่งฯ : เพียง 2 อาทิตย์แรกของการจัดงาน ยอดผู้เข้าร่วมงานตามที่แม็ทชิ่งฯ ให้ข้อมูลมีถึง 5 แสนคน แค่คืนเปิดตัว และคืนวันลอยกระทงมียอดรวมกันกว่าแสน ขณะที่คืนวันพ่อมีผู้เข้างานถึง 8 หมื่นคน ยอดตุ๊กตาดิสนีย์ที่เป็นของรางวัลหมดไปกว่า 3 หมื่นตัว จากกว่า 8 หมื่นตัว ซึ่งอาจต้องสั่งเพิ่ม แต่ที่แน่ๆ คือ แม็ทชิ่งฯ กำลังนำเครื่องเล่นเข้ามาเพิ่มอีก 3 เครื่อง พร้อมโรงหนัง 4-D เคลื่อนที่แห่งแรกในไทย ซึ่งต้องติดตั้งให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด เพื่อเตรียมรองรับกับยอดผู้เข้างานอย่างมหาศาลในช่วงคริสต์มาส และปีใหม่

“เรากำลังจะฉลองครบล้านอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งจริงๆ เราไม่จำเป็นต้องแจกแถมอะไรก็ได้ แต่ถ้าทำก็เพื่อคืนกำไรให้ลูกค้า โดยเราจะแจกของไม่ใหญ่เพื่อกระจายให้ได้กันหลายๆ คน ขณะที่ตอนนี้มีสินค้าหลายรายติดต่อขอเป็นสปอนเซอร์ แต่คงจะเป็นแนว “co-promotion marketing” มากกว่า เพราะปีแรกเราอยากมี bookmark ที่ดีที่สุด”

ฮาวคัมฯ : ไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ นันทสิทธิ์ให้ตัวเลขผู้เข้างานเรือนแสน ซึ่งอาจจะต้องแก้ปัญหาคิวยาวด้วยวิธีเดียวกับอีกเจ้า คือ นำเครื่องเล่นมาเพิ่มเติม ขณะที่แผนโปรโมตงานช่วงเทศกาลพิเศษก็ยังเน้นการจับรางวัลแจกแถมในแบบต่างๆ โดยเพิ่มรางวัลและความถี่เป็นแรงจูงใจ

ฤางานวัดไทย…ก็จะมีโอกาส ??

งานเฉลิมฉลองเทศกาลรื่นเริงกลายเป็นประเพณีสากลไปแล้ว “งานวัด” จึงเป็นสัญญะแห่งความเป็นสากลผสมกับรากวัฒนธรรมไทยที่มีวัดเป็นศูนย์กลางชุมชนมาแต่อดีต งานรื่นเริงของไทยจึงมักจัดที่วัด แม้หลายกิจกรรมจะไม่เหลือเค้าความเป็นไทยแบบเดิม เช่น ชิงช้าสวรรค์ เกมล่ารางวัล รถไต่ถัง หนังกลางแปลง หรือโชว์เมียงู ฯลฯขณะที่สวนสนุกเคลื่อนที่หรือ Funfair (อังกฤษเรียก Fairground) หรืออาจเรียกว่า “งานวัดแบบฝรั่ง” ก็จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลของชุมชน และมีเครื่องเล่น แสงสี ร้านค้า อาหาร และโชว์ คล้ายๆ กัน

ต่างกันที่งานวัดบ้านเราทำเลผูกขาดอยู่ที่วัด ส่วน ”ฟันแฟร์” มีทางเลือกของสถานที่ ทั้งข้างโบสถ์ ชายหาด สนามหญ้า ลานเมือง หรือถนนสายหลัก อีกความต่างที่เห็นได้ชัด คือ พัฒนาการเครื่องเล่น และแนวคิดทางธุรกิจในการจัดการสวนสนุกเคลื่อนที่ที่เหนือกว่า ซึ่งสร้างความบันเทิง และโอกาสทางธุรกิจได้มากกว่า เหมือนที่ สมชาย ชีวสุทธานนท์ กรรมการผู้จัดการ Matching Entertainment ให้แง่คิดว่า “ยังไงทุกอุตสาหกรรมโฆษณาก็ต้องเอาความสุขความบันเทิงเข้าไปสู่ตัวสินค้า ถึงจะทำให้คนจดจำได้ เราจึงต้องขยาย ”window” ต่างๆ เพราะทุกวันนี้ลูกค้าเองก็พยายามหา outsource ใหม่ๆ”

ในแง่นี้ “งานวัด” หรือ “ฟันแฟร์” จึงทำหน้าที่เหมือนกับ “mart of trade” หรือ “new forms of commerce channel” ที่มีความบันเทิงเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับธุรกิจตรงนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับที่งานวิจัยต่างประเทศพบว่า ตลอด 100 กว่าปีที่ผ่านมา เมื่อเศรษฐกิจและการค้าเจริญขึ้น “ฟันแฟร์” ก็มีมากขึ้นด้วย ในทางกลับกัน “ฟันแฟร์” ก็มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นธุรกิจด้วยเช่นกัน

ครั้งนี้ “World Carnival” และ “Amazing Fun Park” กำลังจะพิสูจน์ให้เราได้เห็นว่า คนไทย เทศกาล “ฟันแฟร์” และธุรกิจ เป็นสิ่งที่กำลังจะไปด้วยกันได้ดี โดยมี “ความบันเทิง” เป็นสะพานเชื่อมโยงเข้าหากัน …ก็ได้แต่หวังว่า จะมีใครเอาแนวคิด “งานวัดแบบฝรั่ง” ไปปรับใช้กับงานวัดบ้านเราบ้าง เผื่อจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ “local entertainment business” และยกระดับ “ฟันแฟร์” รากหญ้าของเราให้พัฒนาขึ้นมาบ้าง ไม่มากก็น้อย

Did you know?

1. fair มาจากภาษาละตินว่า “feria” หมายถึง วันหยุดเทศกาล ชาวโรมันใช้คำนี้ในความหมายว่า ช่วงเวลาที่มารวมตัวกันเพื่อจัดกิจกรรมด้านการค้า เพื่อสื่อสารกับสาธารณชน และเป็นงานรื่นเริง ในอดีตแฟร์ และเทศกาลมักจะเกิดจากการกำหนดโดย Christian Church ส่วนคำว่า carnival มีความหมายเหมือนคำว่า funfair
2. ความแตกต่างระหว่าง Amusement Park, Funfair และ Theme Park คือ
– Amusement Park คือ สวนสนุกถาวร มีเครื่องเล่นติดอยู่กับที่ เช่น Dream Worlds และสวนสยาม ซึ่งรายงานต่างประเทศบอกว่า Amusement Park ปรากฏครั้งแรกในปี ค.ศ. 1893 ที่รัฐชิคาโก ประเทศอเมริกา โดย 20 ปีแรกในศตวรรษที่ 20 ถือเป็น “ยุคทอง” ของสวนสนุกประเภทนี้เลย
– Funfair คือ สวนสนุกขนาดเล็กกว่า สามารถเคลื่อนย้ายได้ จากรายงานเชื่อว่า Bakken Funfair ในเดนมาร์กเป็นสวนสนุกเคลื่อนที่แห่งแรกของโลก ปลายศตวรรษที่ 19 สวนสนุกเหล่านี้ยังเป็นเครื่องเล่นแบบง่ายๆ ทำจากไม้ ต่อมาศตวรรษที่ 20 จึงเริ่มพัฒนาให้ใกล้เคียงกับ Amusement Park แต่เคลื่อนที่และถอดประกอบได้ โดยอังกฤษ และอเมริกามีชื่อเสียงในเรื่องสวนสนุกเคลื่อนที่มาก
– Theme Park เป็นสวนสนุกที่มีธีมอยู่ในทุกองค์ประกอบของสวนสนุก ทั้งเครื่องเล่น เกม และร้านอาหาร เช่น Disneyland ซึ่งเป็น Theme Park แห่งแรกเมื่อ ค.ศ. 1955 รายได้ต่อปีสูงกว่า 10 ล้านดอลลาร์ Theme Park ส่วนใหญ่เกิดและมีอยู่ในประเทศแถบตะวันตก
3. ในยุคแรกๆ เครื่องเล่นพัฒนามาจากการใช้แรงลื่นไถลตามธรรมชาติ หรือใช้แรงม้าและสัตว์อื่นลาก ต่อมาเมื่อมีการนำพลังงานไอน้ำมาประดิษฐ์เครื่องเล่นก็ทำให้เครื่องเล่นมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว จนระยะหลังได้นำระบบไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และไฮดรอลิก มาช่วยทำให้เครื่องเล่นเร็วขึ้น สูงขึ้น และน่าหวาดเสียวขึ้น

Website :

www.funfairgames.net
www.21century.com.cn
www.shef.ac.uk/nfa/history/ride/index.php