วิสาขา ไรวา จากทายาท S&P สู่เจ้าของ “วนิลา”

ครบปีร้าน Vanilla Industry วิสาขา ไรวา ในฐานะเจ้าของร้าน กลับไม่มีเวลาจัดงานฉลอง เพราะมัวแต่วุ่นวายตกแต่งร้านใหม่ที่ชื่อ Vanilla Restaurant ณ Playground Inspiration Store ในซอยทองหล่อ…ทว่ามองอีกมุม การได้รับเลือกและเชื้อเชิญให้มาเปิดสาขานี้ก็น่าจะเป็น “ของขวัญ” ชิ้นใหญ่ที่ทำให้เธอหายเหนื่อยได้ไม่น้อย

จากนิสิตอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งมีทุนเดิมคือความเป็นหนึ่งในทายาทธุรกิจ S&P ก็น่าจะทำให้เธอมีตำแหน่งระดับบริหารในบริษัทนั้นได้ไม่ยาก แต่ด้วยความหลงใหลและสนใจสุนทรียศาสตร์แห่งศิลปะ วิสาขาจึงขอเวลาไปเรียนรู้พื้นฐานทางศิลปะที่ Chelsea College of Arts ในอังกฤษ เป็นเวลา 1 ปี ก่อนมาทำงานกับครอบครัว

“ที่นั่นเขาไม่ได้เน้นสอนด้านเทคนิค แต่เขาจะสอนให้ได้ไอเดีย และทำให้รู้จักว่าจะจับอะไรมาเป็นไอเดียได้บ้าง” เธอรับว่า ความรู้จากที่นี่ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของ “senses of art” ของเธอมาถึงทุกวันนี้

เมื่อเรียนจบ วิสาขากลับมาฝึกงานที่บริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งราว 2 เดือน โดยระหว่างนั้นเธอรับออกแบบการ์ดและของเล็กๆ น้อยๆ ให้เพื่อน จนเมื่อต้องเข้ามาทำงานที่ S&P จึงขอเลือกที่จะรับผิดชอบงานด้านดีไซน์ของ S&P โดยเริ่มจากดีไซน์ทุกอย่าง ทั้งใบปลิว แผ่นรองจาน โปสเตอร์ และแพ็กเกจจิ้ง ซึ่งเวลานั้น S&P ยังไม่มีคนรับผิดชอบตรงนี้จริงจัง เธอจึงมีอิสระในการสร้างสรรค์ผลงานตามสไตล์ที่ชอบ

“จริงๆ การออกแบบให้ S&P ก็มีโจทย์เป็นลูกค้า S&P แต่ส่วนมากก็ออกแบบในสิ่งที่เราเห็นว่าสวย เพียงดูว่าเหมาะกับเด็กหรือผู้ใหญ่”… เป็นเวลาเกือบ 6 ปี ที่เธอทำให้ ลูกค้ายอมรับว่า นอกจากรสชาติแล้ว แพ็กเกจสินค้าของ S&P ก็ช่วยกระตุ้นยอดขาย

จากการทำงานตรงนั้นทำให้วิสาขาได้รับถ่ายทอดประสบการณ์ และแนวคิดเชิงธุรกิจของคนรุ่นป้ามาสั่งสมอยู่ในตัวเธอโดยไม่รู้ตัว บวกกับสายเลือดที่เข้มข้นด้วย “Entrepreneur-ship” กลายเป็นความปรารถนาที่จะริเริ่มแบรนด์ของตัวเอง จึงต่อยอดมาเป็นไอเดีย “ร้านวนิลาฯ” นั่นเอง

ร้าน Vanilla Industry แห่งแรกอยู่ติดกับร้าน S&P สาขาสยามสแควร์ โดยชั้นล่างจำหน่ายสินค้า DIY (Do It by Yourself) สำหรับเบเกอรี่และของใช้ในครัวที่เน้นดีไซน์น่ารักสดใส ชั้นสองเป็นร้านอาหารขนาด 5 โต๊ะ และชั้นสามเป็นโรงเรียนสอนทำอาหาร “คอนเซ็ปต์ของร้านก็คือ ร้านสำหรับคนที่ชอบขนม มีทั้งมานั่งทาน มาเรียนทำ หรือซื้อกลับไปทำเองที่บ้าน ส่วนคอนเซ็ปต์ขนมของเราคือสวยและอร่อย”

สไตล์การตกแต่งร้าน Vanilla Industry เป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยร่วมกับกลิ่นอายอดีตของคาเฟ่แถบยุโรป โดยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ใช้ เธอมีเกณฑ์ง่ายๆ ว่า “เลือกในสิ่งที่เราชอบ ซึ่งมันก็น่าจะเข้ากันได้หมดเพราะมันเป็นสไตล์เราและเป็นสิ่งที่เราชอบทั้งหมด”

ส่วนเมนูขนมและอาหารมาจากการตระเวนดูและชิมตามร้านต่างๆ แล้วมาคิดว่าอยากได้เมนูอะไร รสชาติแบบไหน ซึ่งเธอตอบปนหัวเราะว่า “มันก็เป็นสิ่งที่เราอยากกิน ที่เราชอบกินและอยากให้มี” จากนั้นก็มาดีไซน์หน้าตา โดยสีสันรูปร่างของเมนูจะต้องมีเสน่ห์ในตัวเอง และเสริมความสวยงามหรือความตื่นตาตื่นใจให้กับทั้งตู้โชว์ด้วย

แม้การดีไซน์แพ็กเกจให้ S&P จะพอมีอิสระอยู่บ้าง แต่ก็ยังต้องมีเรื่องการขายให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย แต่ทว่า แบรนด์วนิลากลับสะท้อนตัวเธอ และสิ่งที่เธอชอบชัดเจนกว่า ซึ่งวิสาขาเชื่อว่า ด้วยสไตล์ที่เธอชอบจะดึงดูดใจคนที่ชอบเหมือนเธอให้มาชอบร้านนี้ได้…หนึ่งปีที่ผ่านมาก็พิสูจน์ว่า สไตล์ของเธอมีการตอบรับดีเกินคาดจากกลุ่มลูกค้าทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่

กับสาขาใหม่ แม้เธอไม่เคยวางแผนขยายสาขา แต่เมื่อได้รับเชื้อเชิญจากผู้ใหญ่ของกลุ่มโนเบิ้ลเธอจึงรีบคว้าโอกาสนี้ “ที่นี่ยังมีแบรนด์ปริ้นท์ของ “วนิลา” เดิมอยู่ เช่น ลายทาง รูปกระรอก แต่สไตล์ร้านจะเป็นผู้ใหญ่กว่า คอนเซ็ปต์ก็เป็นร้านอาหารเต็มรูปแบบมากกว่า มีเมนูเค้กและของหวานเยอะกว่า เพราะพื้นที่ของเราใหญ่ขึ้นแล้ว” วิสาขากล่าวด้วยรอยยิ้ม

ที่ร้านใหม่ยังมีอาหารจานหลัก (main dish) ในหลากสไตล์ทั้งยุโรปและเอเชีย และที่น่าสนใจก็คือ ไอศกรีมของ “วนิลา” เอง ที่มีความพิเศษอยู่ตรงรสชาติไอศกรีมที่ถูกออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ นั่นก็คือไอศกรีมรสขนมเค้กรสชาติต่างๆ ของร้านวนิลาฯ

สำหรับแผนต่อไป วิสาขาบอกว่าเธออาจเปิด “Vanilla Shop” คล้ายร้านที่สยามแต่เล็กกว่า เป็น self-service shop ที่ขายเบเกอรี่ เครื่องดื่ม กับของที่ระลึกแบรนด์วนิลา ส่วนความคิดที่จะขายแฟรนไชส์ เธอยืนยันว่าไม่มี ทั้งนี้เพราะ “วนิลา” สะท้อนความชอบและตัวตนของเธออย่างชัดเจน ดังนั้นคนที่จะรักษาและดูแลแบรนด์นี้ได้ดีที่สุดก็คงไม่มีใครเหมาะกว่า…ตัวเธอเอง

…พร้อมกับคำสอนของพ่อแม่ที่ให้มองการทำงานเป็นเรื่องสบายๆ เมื่อมีปัญหาก็ค่อยแก้ไข เธอจึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องรีบขยายสาขา โดยเธอสรุปว่าปรัชญาการทำงานของเธอวันนี้ว่า “ตั้งใจทำและทำให้ดีที่สุดก็พอ”

แม้พื้นฐานของครอบครัวจะมีส่วนในความสำเร็จของเธอวันนี้ แต่เธอบอกว่า ส่วนสำคัญย่อมมาจากใจรักซึ่งเธอเชื่อมั่นว่า “ถ้าเรามีใจรักในสิ่งที่จะทำก็คงทำสิ่งนั้นได้ดี” โดยวิธีเพิ่มพูนทักษะและจิตวิญญาณศิลปินของเธอ เธอใช้การสังเกตดูดีไซน์หรือวัสดุจากแพ็กเกจสินค้าอื่นๆ พร้อมทั้งอ่านหนังสือเกี่ยวกับแพ็กเกจดีไซน์ และที่สำคัญ เธอย้ำว่า สินค้าแฟชั่นและหนังสือแฟชั่นเป็นอีกแหล่งไอเดียสำคัญของเธอ

Profile

Name : วิสาขา ไรวา
Age :30 ปี
Education :
ปริญญาตรีอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ประกาศนียบัตรทางด้านศิลปะ (1 ปี) Chelsea College of Art & Design ประเทศอังกฤษ
Career Highlights :
2543-2546
– ครีเอทีฟ ดีไซเนอร์ ออกแบบสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ บริษัท S&P
– ครีเอทีฟ ไดเรกเตอร์ งานกิจกรรมพิเศษ เช่น Jak-ka-Jee Club Birthday Party, Ice Cream Garden และขนมหวานเจ้าเอย เป็นต้น
2547-ปัจจุบัน
– ผู้จัดการ ส่วนออกแบบบรรจุภัณฑ์ บริษัท S&P
– ผู้ก่อตั้ง และบริหารร้าน Vanilla Industry และร้าน Vanilla Restaurant