Paul Krugman Live in Bangkok

ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจและผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมพันคน เมื่อนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังตัวเก็งรางวัลโนเบลอย่าง พอล ครุกแมน เดินทางมาแสดงปาฐกถาที่กรุงเทพฯ 2 วันเต็มๆ โดยคำเชิญของหนังสือพิมพ์ IHT/Thaiday ซึ่งจัดสัมมนาใหญ่ในหัวข้อ Warning System; Positioning of Thailand & South East Asia ระหว่างวันที่ 17-18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล

การแสดงปาฐกถาสำหรับเมืองไทยในครั้งนี้ของครุกแมน เน้นเป็นพิเศษในประเด็นจุดยืนของไทยในเอเชียและเวทีโลก ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศ การ “เตือน” ในครั้งนี้ครอบคลุมในหลายแง่มุม ประเด็นแรกเรื่องการสำรองเงินตราระหว่างประเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และความไม่มีเสถียรภาพของตลาดเงิน จะทำให้แต่ละประเทศมีความเสี่ยงจากการถือครองเงินสกุลดอลลาร์ ที่มีแนวโน้มจะลดค่าลง เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณของฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ในอเมริกาแล้ว

ประเด็นเกี่ยวเนื่องกับเรื่องค่าเงินในตลาดโลก ครุกแมนมีแนวโน้มที่จะเชียร์ให้จีนปรับลดค่าเงินหยวน โดยเขากล่าว่า การที่จีนยังคงตรึงค่าเงินหยวนจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจทั้งภูมิภาค และมีผลต่อการส่งออกของจีนเอง ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่าการที่จีนเดินนโยบายเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ส่อเค้าถึงความผิดปกติของการไหลเวียนของเงินลงทุน ในขณะที่สหรัฐฯ ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด

ปัญหาเรื่องราคาน้ำมันในในตลาดโลก ครุกแมกเชื่อว่าภายใน 2 ปีจากนี้ อาจอยู่ที่ระดับ 40-60 ดอลลาร์/บาร์เรล และยังจะดีดตัวสูงขึ้นไปอีกเนื่องจากความหวาดกลัวความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลกที่กระตุ้นให้เกิดการสะสมน้ำมัน ขณะเดียวกันความต้องการบริโภคน้ำมันยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม โดยที่กำลังการผลิตน้ำมันมีจำกัด

มุมมองในระดับภูมิภาค ครุกแมนเห็นว่า ด้วยปัญหาค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนตัว มีผลการส่งออกของเอเชียไปอเมริกา สิ่งที่ควรเตรียมพร้อมคือการหันมาสร้างตลาดการค้าภายในภูมิภาคให้มากขึ้น

ส่วนประเทศไทยเองควรจะกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชนให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และรัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการทำเมกกะโปรเจกต์ โดยรัฐเป็นผู้ลงทุนเองในส่วนที่ภาคเอกชนไม่สามารถลงทุนได้ โดยเฉพาะการลงทุนด้านสาธารณูปโภค การศึกษา การประกันสังคม เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางสังคม ซึ่งจะส่งผลดีโดยตรงต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน นอกจากนั้นนโยบายกระตุ้นการออมก็เป็นสิ่งจำเป็น กับต้องลดการสร้างหนี้ครัวเรือนและบัตรเครดิต

และเรื่องสำคัญสำคัญไทยและสหรัฐอเมริกาในตอนนี้คือการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือ FTA ที่ครุกแมนเตือนอย่างตรงไปตรงมาว่า ขอให้ระวัง เพราะประเทศส่วนใหญ่ที่เซ็น FTA กับอเมริกามักจะเสียเปรียบ โดยเฉพาะให้ระวังในประเด็นของสิทธิบัตรยา และขณะนี้รัฐสภาอเมริกันกำลังจะพิจารณาร่างกฎหมาย Central America FTA (CAFTA) ที่มีสาระสำคัญเน้นการรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามครุกแมนเชื่อว่า กฎหมายฉบับนี้อาจจะไม่สภา

กล่าวโดยรวมแล้ว ครุกแมนเชื่อว่า สถานการณ์ความตึงเครียดของเศรษฐกิจในช่วงนี้ ทั้งจากวิกฤตน้ำมัน ค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินหยวน เมื่อเทียบกับการล่มสลายของเศรษฐกิจเอเชียเมื่อปี 1997 เหตุการณ์ในตอนนี้ยังถือว่าอยู่แค่ระดับสเกล 2 ใน 10 ของครั้งที่แล้ว เขาไม่สามารถทำนายได้ว่าจะกลับไปร้ายแรงอย่างที่ผ่านมาหรือไม่ แต่แนะว่าทุกประเทศสามารถเตรียมตัวรับมือได้ และในระหว่างทางอาจมีบางบริษัทหรือนักการเมืองบางรายล้มหายหรือถูกสับเปลี่ยนตัวไปบ้าง