สมูท อี สู้ศึกคลินิกรักษาสิว

หลังจากที่สมูท อี เบบี้เฟซ โฟม แจ้งเกิดตลาดเวชสำอางด้วยภาพลักษณ์โฟมล้างหน้าไม่มีฟองมาตั้งแต่ปี 2538 จนปัจจุบันมีแฟนคลับ 1 ล้านคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ รักษ์ วงษ์สาคร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทสมูท อี จำกัด จึงอยากจะบอกรักแฟนคลับสมูท อี ด้วยการจัดซีรี่ส์ภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง “The Love Story” ทั้งหมด 4 ตอน ผ่านตัวละครชื่อ “ จุ๋ม” เพื่อต้องการสื่อความหมายและตอกย้ำภาพลักษณ์ของสมูท อี ไปยังลูกค้าเป้าหมายหลักที่เป็นวัยรุ่น

“สมูท อี” ออกซีรี่ส์ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้เพราะเชื่อว่า ปัจจัยที่จะผลักดันให้โฟมล้างหน้าไม่มีฟองเติบโตได้ มาจากการให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง รวมทั้งเป็นการกระตุ้นให้วัยรุ่นลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองให้ดูดี ก่อนก้าวเข้าสู่วัยสาว แทนที่จะใช้จ่ายเงินและเวลาไปกับการรักษาสิวตามคลินิก

หลังจากสิ้นสุดซีรี่ส์ภาพยนตร์โฆษณาในเดือนสิงหาคมนี้ สมูท อี เตรียมเดินหน้าต่อ ด้วยการแจกสมูท อี เบบี้เฟซ โฟม จำนวน 1 ล้านชิ้น ให้กลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่น เพื่อสร้างประสบการณ์จริงในการล้างหน้าด้วยโฟมไม่มีฟอง และจัดโรดโชว์ไปตามสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ชูจุดแข็งของการ เป็นโฟมล้างหน้าแบบไม่มีฟอง ซึ่งตลาดรวมของโฟมล้างหน้าไม่มีฟองโต 7-8 % ตรงกันข้ามโฟมล้างหน้ามีฟองโต 3-4 %

นับเป็นการเคลื่อนไหวของ “สมูท อี” ที่ต้องลุกขึ้นมาเร่งเครื่องในการบุกตลาด ลำพังมีสินค้าดีอยู่ในมือแล้วโปรโมต ก็คงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรับมือกับคู่แข่งสำคัญคือคลินิกรักษาผิวพรรณ ที่กำลังโตวันโตคืน

Did you Know

คนเราต้องผ่านการล้างใบหน้าหน้าทั้งหมด 700 ครั้ง ในหนึ่งปี ประเทศ ญี่ปุ่น, เกาหลี, ฮ่องกง เทรนด์การล้างหน้าใช้โฟมไม่มีฟองแทนโฟมล้างหน้ามานานกว่า 5 ปีแล้ว

มูลค่าตลาด 2,000 ล้านบาท โฟมล้างหน้ามีฟอง 1,500 ล้านบาท สมูท อี ครองตลาด 80 %โฟมล้างหน้าไม่มีฟอง 500 ล้านบาท

Company : บริษัท สมูท อี จำกัด
Product : สมูท อี เบบี้เฟซ โฟม
Positioning : โฟมล้างหน้าไม่มีฟอง
Target : วัยรุ่นและวัยทำงาน
Price : 179 บาท