ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก นำโดย สุรพล เจียมสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักงานและศูนย์การค้า บริษัท ดิเอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศเดินหน้าขอสู้ตายกับศูนย์การค้าสยามพารากอน และศูนย์การค้าอื่นๆ ในย่านราชประสงค์ ด้วยการเชิญกองทัพนักข่าวสายตลาด มาร่วมรับฟังกลยุทธ์มัดใจลูกค้าให้ตบเท้าเข้ามาช้อปปิ้งในศูนย์การค้าเอราวัณ ภายใต้คอนเซ็ปต์ความเป็น “บูติกมอลล์” แห่งแรกในเมืองไทย ที่รวมรวบสินค้าและบริการที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองรุ่นใหม่
งานนี้ ผู้บริหารเอราวัณฯ เชื่อว่ายามใดที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนเปิดตัว คาดว่าจะมีผู้เข้ามาจับจ่ายอย่างต่ำ 7,000 คนต่อวัน ซึ่งเพียงพอเมื่อเทียบกับพื้นที่ขนาดย่อมๆ ของเอราวัณที่มีอยู่ 13,000 ตารางเมตร ชูจุดเด่นการบริการที่หลากหลายชนิดคู่แข่งย่านราชประสงค์ไม่มี ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร 13 ร้าน เป็นเหมือนกับฮับอาหารจากทุกมุมโลก ทั้งอาหารสไตล์ยุโรป, อินโดนีเซีย, เบเกอรี่ตกแต่งสไตล์บูติกคาเฟ่, อาหารนานาชาติและแจ๊ซบาร์ จนเรียกว่าเป็นมุมที่ popular ขายดีที่สุดเมื่อเทียบกับสินค้าตัวอื่นๆ
สินค้าแฟชั่นแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น Veneta, Comme des Garcons, Etro ซึ่งล้วนเป็นแบรนด์แกะกล่องที่หาซื้อจากศูนย์การค้าอื่นไม่ได้ สำคัญสุดมีศูนย์สุขภาพความงามตั้งแต่หัวจรดเท้าที่เป็นแม่เหล็กดึงลูกค้ากลุ่มมีสตางค์ให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นการขจัดพิษด้วยธาราบำบัด, การปรับร่างกายให้สมดุล
ขณะที่การจัดโปรโมชั่น เป็นสิ่งสำคัญเพื่อเรียกลูกค้า เอราวัณ แบงค็อกให้เพิ่มขึ้น โดยเอราวัณ แบงค็อกได้จับมือร่วมกับ เอเชีย ไมล์ส และ สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก จัดโปรโมชั่น ใครช้อปมากที่สุดติดอันดับหนึ่ง มีโอกาสรับตั๋วไปกลับกรุงเทพฯ-สหรัฐอเมริกา
เรียกว่างานนี้เอราวัณ แบงค็อกขอสู้ตาย แม้สงครามศูนย์การค้ารอบๆ ราชประสงค์จะดุเดือดเลือดพล่าน ชนิดต่อกรยากลำบาก แต่ศึกนี้ไม่ขอยอมแพ้
พื้นที่ 13,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น
– ศูนย์รวมแฟชั่น 45%
– อาหารและเครื่องดื่ม 30 %
– ศูนย์สุขภาพและความงาม 25 %
Did you Know?
สิงคโปร์ ฮ่องกง แหล่งช้อปปิ้งในเอเชีย จะมีเสน่ห์ตรงที่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคมของทุกปีทุกร้านค้าจะพากันกระหน่ำเซลส์ครั้งใหญ่ทั่วทั้งเกาะ ยั่วต่อมนักช้อปไทยพากันขนเงินหนีออกนอกประเทศไปละลายทรัพย์ซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า กันสนุกสนาน แต่ในเมืองไทยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ศูนย์การค้าเกษร พลาซ่า ควง เอราวัณ แบงค็อก เดินรอยตามสิงคโปร์ ฮ่องกง จัดเซลส์สินค้าครั้งใหญ่พร้อมกันเพื่อสกัดนักช้อปหนีไปฮ่องกงและสิงคโปร์
