i-Mobile โกอินเตอร์

แม้ว่าโลโก้ i-mobile ยังไม่ได้ปรากฏบนอกเสื้อทีมฟุตบอลระดับโลก อย่างที่ ธวัชชัย วิไลลักษณ์ บิ๊กบอสของกลุ่มสามารถวาดหวังไว้ แต่อย่างน้อย โลโก้โทรศัพทมือถือท้องถิ่น i-mobile ก็ได้ไปปรากฏอยู่ในการแข่งขันกอล์ฟระดับโลกแห่งปีเป็นครั้งแรกใ นรายการ The Royal Trophy Europe vs. Asia Golf Championship โปรกอล์ฟชื่อดังระดับโลกจากยุโรปและเอเชียในระดับโลกนี้ ระหว่างวันที่ ในวันที่ 5-8 มกราคม 2549 ณ สนามกอล์ฟ อมตะ สปริง คันทรี คลับ ในฐานะของสปอนเซอร์

นั่นก็เป็นเพราะความต้องการยกระดับ จากการเป็นโทรศัพท์มือถือประเภทโลคัลแบรนด์ ที่เล่นกับตลาดระดับล่างหรือวัยรุ่นที่เริ่มต้นใช้เครื่องแรก ในราคาไม่เกิน 10,000 บาท ไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ ในตลาดระดับกลางถึงบน ผ่านรายการแข่งขันกอล์ฟ เพื่อต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ระดับผู้บริหาร ซึ่งส่วนใหญ่มีการศึกษาดี มีกำลังซื้อสูง และนิยมสินค้าแบรนด์เนม

ที่ผ่านมา i-mobile วางตำแหน่งสินค้า ในเรื่องราคาต่ำกว่าคู่แข่ง ส่งผลให้ i-mobile เป็นทางเลือกด้านราคาที่น่าสนใจกว่าคู่แข่ง แต่ก็มีภาระต้นทุนสินค้าที่สูงกว่า และปีที่ผ่านมาใช้งบสร้างแบรนด์ไปกว่า 80 ล้านบาท

การขยับ positioning แบรนด์สินค้าไปในระดับกลางถึงบน นอกจากจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในตราสินค้าแล้ว i-mobile ยังมีโอกาสสร้างกำไรต่อเครื่องจากการจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงขึ้น

โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ของ i-mobile จะเน้นรุ่นที่มีสเป็กสูง ทั้งฟังก์ชันมัลติมีเดีย กล้องดิจิตอล รวมทั้งมีดีไซน์ใกล้เคียงกับสินค้าแบรนด์เนมมาทำตลาดมากขึ้น อาทิ i-mobile 600 ที่คล้าย Samsung D600 เป็นต้น เพื่อให้สามารถปรับราคาเครื่องกลุ่มนี้ให้สูงกว่า 10,000 บาทขึ้นไป จากเดิมที่มีราคาเครื่องเฉลี่ย 5,000-8,000 บาท

รูปแบบของการจัดงานแถลงข่าว เปิดตัว i-mobile ก็เปลี่ยนไป แทนที่จะจัดบนเวทีใหญ่กลางแจ้ง เน้นสีสันเหมือนเคย ก็เปลี่ยนมาจัดในโรงแรม หรือศูนย์การเรียนรู้ ผู้บริหารก็ต้องเปลี่ยนลุค หันมาใส่สูทผูกไทกันอีกครั้ง จากเดิมที่เคยใส่เสื้อยืดติดโลโก้ i-mobile เพื่อให้สมกับลูกค้าเป้าหมาย ที่ต้องขยับไปอีกขั้น

ขณะเดียวกัน การเป็นสปอนเซอร์รายการกอล์ฟระดับโลก ยังส่งผลต่อการบุกตลาดต่างประเทศ ของ i-mobile ไปยังมาเลเซีย ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย และเวียดนาม โดยจะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในระดับสากลมากกว่าเก่า

สัดส่วนรายได้ บมจ. สามารถ ไอ-โมบาย ปี 2548
(รายได้รวมประมาณ 10,000 ล้านบาท)
– ตลาดในประเทศ 80-85%
– ตลาดต่างประเทศ 15-20%

ที่มา : POSITIONING รวบรวม

สัดส่วนรายได้ บมจ. สามารถ ไอ-โมบาย ปี 2549
(รายได้คาดการณ์ประมาณ 14,000-15,000 ล้านบาท)
– ตลาดในประเทศ 60-70%
– ตลาดต่างประเทศ 30-40%

ที่มา: POSITIONING รวบรวม