ชีวิตดิจิตอลในสยามพารากอน

“ถ้าต้องการซื้อสินค้าหรือบริการโทรศัพท์มือถือไปที่ AIS Shop แต่ถ้าสนใจเทคโนโลยี หรือต้องการชมตัวอย่างบริการที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ก็ต้องเข้ามาสัมผัสฟรีได้ที่นี่”

ประโยคสั้นๆ ที่บอกถึง positioning ของ AIS Future World ซึ่ง AIS ทุ่มงบลงทุนไปกว่า 100 ล้านบาท เพื่อให้เป็นที่แสดงเทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย

ช็อปไฮเทคแห่งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 600 ตารางเมตร ณ บริเวณชั้น 4 โซนชั้นไอทีของสยามพารากอน
ภายในช็อปดีไซน์โปร่ง เพดานสูง ใช้สีสันสดใส แยกเป็นโซนต่างๆ ตามเทคโนโลยี

การทำให้เทคโนโลยีเป็นเรื่องง่าย เป็นโจทย์ใหญ่ของเอไอเอส ซึ่งเป็นที่มาของ คอนเซ็ปต์ Feeling@ Home เล่าเรื่องราวผ่าน ผนังสีแดงแทรกด้วยผนังสีไม้ เพื่อให้ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน แต่ยังคงความทันสมัยด้วยโซฟาสีแดงหรูขนาดใหญ่ ลิงค์เข้าการโชว์เทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวก เช่น E-health โปรแกรมตรวจสุขภาพด้วยตนเอง และลิงค์ไปยังเซิร์ฟเวอร์โรงพยาบาลผ่านระบบ GPRS

ลายโมเลกุลสีเขียวสลับแดง และน้ำเงินบนเก้าอีนั่งในโซน Exhibition ที่ AIS ต้องการสื่อความรู้ และความทันสมัยต่างๆ ที่เกิดจากการจัดกิจกรรมในโซนนี้ รวมทั้งเป็นมุมที่โชว์เทคโนโลยีใหม่ๆ ของ AIS หรือผู้สนใจเข้ามาขอใช้พื้นที่โชว์เทคโนโลยี รวมทั้งมีเวทีดีไซน์ให้พับเก็บได้กรณีไม่ได้จัดกิจกรรม

โซน Public Sphere ดีไซน์เป็นมุมพักผ่อนใช้สีสันสดใส เพื่อให้รู้สึกมีชีวิตชีวา พร้อมบริการสินค้า และเทคโนโลยีใหม่ให้คนทั่วไปได้ทดลองใช้ฟรี อาทิ ตู้ Wending Machine ที่สาธิตการซื้อสินค้าผ่านโทรศัพทมือถือ (mPay) หรือทดลองโหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ ลงบนโทรศัพท์มือถือ อาทิ Calling Melody และ Ring Tone เป็นต้น

“ช็อปนี้ จะเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยให้คนไทยคุ้นเคยกับเทคโนโลยีได้เร็วขึ้น ก่อนที่ AIS จะให้บริการจริงในอนาคต” ปรัธนา ลีลพนัง ผู้จัดการจัดการ แผนกวางแผนกลยุทธ์และฟิวเจอร์ แล็บ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS อธิบายว่า

AIS Vision เป็นการเนรมิตจอหนังขนาดใหญ่สูง 3 เมตรลักษณะเป็นรูปวงกลม 360 องศาขึ้นเป็นแห่งแรกในเมืองไทย ออกแบบโดย Golddern Duck ทีมดีไซน์ที่เคยออกแบบโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ และ SF Cinema เพื่อฉายหนังเสมือนจริงที่ดูได้รอบทิศทางแบบเดียวกับในดิสนีย์แลนด์ โดย AIS เลือกฉายหนังเรื่อง lifestyle ที่สื่อถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน

และที่ขาดไม่ได้โซน Envision ที่เตรียมพร้อมไว้โชว์เทคโนโลยีไร้สายในอนาคต อาทิ 3G และ WiMax หรือการโหลดแอพพลิเคชั่นในรูปแบบ 3G ลงมือถือ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับใบอนุญาตทดสอบจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จึงไม่ได้จัดแสดงจริง

ทั้งหมดนี้เป็นผลงานที่ AIS จับมือกับพันธมิตรเจ้าของเทคโนโลยี และอุปกรณ์ อาทิ อีริคสัน ซีเมนส์ หัวเหว่ย โนเกีย เพื่อจ้างให้ทีม Heritage Asia เป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างกว่า 6 เดือน เพื่อให้ได้ AIS Future World แห่งนี้ให้เป็นศูนย์กลางการโชว์เคสเทคโนโลยีไร้สายในอนาคต ที่กลายเป็นมุมไฮไลต์สร้างความน่าใจให้ชั้นไอทีบนห้างหรู Saim Parakonได้ไม่น้อย