บันเทิงเกาหลี ทั้งซีรี่ส์ละคร หนัง นอกจากมีช่องทางออนแอร์ทางฟรีทีวีแล้ว โทรทัศน์บอกรับเป็นสมาชิกอย่าง UBC ก็ให้น้ำหนักปลุกปั้นหนัง ละคร เกาหลีติดต่อกันมาหลายปี ทางช่อง Asian Series ซึ่งเป็นช่องที่ฉายหนังเอเชี่ยนทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี
UBC ช่องหนัง Asian Series ระยะแรก เน้นหนังไทยและจีน รวม 80 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือ 20 เปอร์เซ็นต์เป็นหนังจากประเทศอื่นๆ อาทิ ญี่ปุ่น เวียดนาม อินเดีย สิงคโปร์ เป็นต้น หลังฉายไปได้ระยะหนึ่งบรรดาหนังเอเชี่ยนเหล่านี้ไม่โดนใจคนดูเลย ต้องปรับเปลี่ยนเอาหนังญี่ปุ่นเข้ามา จากนั้นตามด้วยเกาหลี ซึ่งช่วงนั้นนำเข้าโดยค่ายนนทนันท์
“ UBC เริ่มทดลองตลาดด้วยหนังใหญ่ที่ค่ายนนทนันท์นำเข้า จากนั้นก็มาเป็นซีรี่ส์เกาหลี ซึ่งในช่วงแรกคนไม่ค่อยนิยมกันมากนัก เพราะกลัวเรื่อง sex ซึ่งโฉ่งฉ่างมาก แต่หลังจากมีหน่วยงานวัฒนธรรมเข้ามาดูแล ก็หันมาผลิตงานที่มีเรื่องราวชีวิต วัยรุ่น มากขึ้น แนวตลก ขบขัน แนวดราม่า ก็ทยอยจำนวนเข้ามาในเมืองไทย ซึ่งได้รับการตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ” อาทิตย์ พรหมประสิทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายรายการ ส่วนภาพยนตร์และเอนเตอร์เทนเมนต์ ค่าย ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอรเรชั่น ย้อนรอยให้ฟัง
จากเดิม Asian Movie Channel ได้เปลี่ยนมาเป็น Film Asia ซึ่งได้เน้นนำเสนอโปรดักต์ที่มีความแปลกใหม่มากขึ้น จึงได้หันมาเอาหนังเกาหลี ซึ่งพัฒนาดีมีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ระยะหลังหนังเกาหลีมีดีมานด์ ราคาสูงขึ้น จึงหันมาเน้นซีรี่ส์ละครเกาหลี ที่มีเรื่องราวสนุกน่าสนใจไม่แพ้กันมาเพิ่ม
“ซีรี่ส์เกาหลีที่เราเอามาฉายทาง UBC ช่วงแรกแนวดราม่า โรแมนติก กุ๊กกิ๊ก และชีวิต โดยเรื่องราวใกล้เคียงกับไทยมากทำให้ประสบความสำเร็จง่าย ดังนั้น UBC เลยจับแนวนี้เน้นค่อนข้างเยอะในช่วงแรกราวปี 2002 ซึ่งได้ปูแนวนี้มาตลอดจนกระทั่งล่าสุดปีที่ผ่านมาทั้ง 2 แนวก็ประสบความสำเร็จเช่นเดิม ที่โดดเด่นมี 4 เรื่องหลัก What Happened in Bali, My Fair Lady, Something About 1 % และ Sweet Buns สำหรับปีนี้ 2549 ได้เตรียมเพิ่มปริมาณซีรี่เกาหลีเป็น 10 เรื่องจากเดิมปีก่อนเพียง 4 เรื่อง โดย 4 เรื่องแรกในปีนี้จะออกอากาศในภายในไตรมาสแรก
อาทิตย์ บอกว่า ที่จริงแล้วยูบีซีเองก็สนใจเคยคิดจะนำเอาซีรี่ส์แนวย้อนยุคมาบุกตลาด ซึ่งเคยมองเรื่องแดจังกึมมาก่อน แต่เห็นว่าเป็นซีรี่ส์ย้อนยุคที่มีตอนยาวมาก และไม่แน่ใจว่าคนดูไทยจะตอบรับหรือไม่ จึงตัดสินใจไม่นำเข้ามาฉาย แต่ภายหลังช่อง 3ได้ซื้อลิขสิทธิ์และทำการตลาดจนประสบความสำเร็จ ส่งผลให้กระแสเกาหลีเพิ่มความนิยม และส่งผลคาดว่าในอนาคตซีรี่ส์เกาหลีแนวย้อนยุคจะเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น
“ตอนนี้เมืองไทยมีคนซื้อลิขสิทธิ์ย้อนยุคไปแล้ว เรื่อง Merchant ซึ่งเป็นเรื่องราวชีวิตของชายหนุ่มตั้งแต่วัยเด็กจนโตที่มีหัวการค้าจนร่ำรวยน่าสนใจ ถ้าหากออกฉายคาดว่าจะโด่งดังไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มคนดูพ่อค้า ที่กำลังก่อสร้างตัว อีกทั้งยังมีเรื่องราวเชิงเศรษฐกิจจูงใจคนในเรื่อง ทำอย่างไรให้มีกำไรการค้า ให้แง่คิดที่ดีมากตอนนี้ออกอากาศแล้วที่เกาหลี”
สำหรับยูบีซีเอง ก็รับกระแสซีรี่ส์ย้อนยุคเช่นกัน ล่าสุดกำลังเตรียมเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ซีรี่ส์ย้อนยุคฟอร์มใหญ่ เรื่อง The Last Empress จักรพรรดินีองค์สุดท้ายของราชวงศ์เกาหลี ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของหญิงจักรพรรดินีที่ปกครองเมือง ท่ามกลางปมปัญหาการเมือง การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น หากเจรจาเรียบร้อยก็จะนำมาออกอากาศทันที
