อมแล้วรวย?

“การจัดโปรโมชั่นเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคชื่นชอบ” ผลวิจัยภาพรวมอันเป็นที่มาของแคมเปญ “แจกโชคใหญ่เศรษฐีเงินล้าน” ของฮอลล์ ลูกอมอายุเก่าแก่ที่สุดซึ่งครบ “40 ปี” ที่ค่าย แคดเบอรี อาดัมส์ จัดขึ้น “ฉลองและคืนกำไรให้ผู้บริโภค” ควบคู่ไปกับการตอกย้ำภาพผู้นำตลาด

งานนี้ Brand Leader หวังผลทางการตลาดในแง่ยอดขายเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ เห็นได้ชัดจากการเทงบประมาณทั้งแคมเปญเกือบ 50 ล้านบาท และยังต่อเนื่องด้วยภาพยนตร์โฆษณาทางทีวี กิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง

ไฮไลต์เปิดตัวแคมเปญที่ลานจัดอีเวนต์ เมเจอร์รัชโยธิน สร้างสีสันด้วยพรีเซ็นเตอร์ดาวตลกชื่อดัง “จิ้ม ชวนชื่น” ร่วมเป็นพิธีกรเรียกเสียงฮาจากแขกและสื่อมวลชนไม่น้อย และอีกด้านหนึ่งยังได้จัดมินิ Exhibition บอกเล่าเรื่องราว เส้นทางความสำเร็จของฮอลล์กว่า 40 ปี

ส่วนหนึ่งเกิดจากการทุ่มงบ 20 ล้าน ทำหนังโฆษณาอย่างต่อเนื่อง โดยออกสปอตกว่า 2,000 ครั้งต่อปี ทำให้ผู้บริโภคเห็นไม่น้อยกว่า 150 ครั้งต่อปี เพื่อดึงดูดใจ โดยมีหนังโฆษณาทั้งหมด 8 เรื่อง ทั้ง 15 วินาที และ 30 วินาที พร้อมสโลแกนดัง “เย็นซ่า ชุ่มคอ”

อีกทั้ง Channel ที่แข็งแกร่ง โดยให้ดีทแฮล์ม โปรดักส์รสชาติถูกใจนักอม รวมไปถึงกลยุทธ์กระป๋องที่ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เพื่อสะดวกในการวางจำหน่างตามร้านชำทั่วไป

อาณัติ จุลินทร เอ็มดี ค่ายแคดเบอรี อาดัมส์ บอกว่า “Anniversary Campaign นี้ เป็นการตอกย้ำแบรนด์ในฐานะผู้นำตลาดของฮอลล์ ลูกอมแฟชั่นที่จะให้ความรู้สึกสนุกและผ่อนคลาย ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วน 55 เปอร์เซ็นต์ของตลาดรวมลูกอม รวมมูลค่า 4,400 ล้านบาท ที่เหลือ 45 เปอร์เซ็นต์เป็นกลุ่มลูกอมฟังก์ชันนัล (อาทิ ลูกอมสูตรไร้น้ำตาล หรือระงับกลิ่นปาก) ซึ่งจัดเป็นกลุ่มที่กำลังมีบทบาทและเติบโตอย่างต่อเนื่อง”

กะเทาะแคมเปญ
Campaign ฮอลล์ 40 ปีแห่งความสดชื่นทั่วไทย แจกโชคใหญ่เศรษฐีเงินล้าน
Company บริษัท แคดเบอรี่ อาดัมส์ (ประเทศไทย)
Target กลุ่มเป้าหมายเด็ก-ผู้ใหญ่
Campaign Detail แจกทองมูลค่า 1 ล้านบาทติดต่อกันเป็นเวลา 16 สัปดาห์ มูลค่ารวม 16 ล้านบาท ร่วมกับรายการทีวี จ้อจี้ ทางช่อง 7 เปิดรับชิ้นส่วนตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ปิดรับวันที่ 15 สิงหาคมนี้
Strategic ใช้วิธีแจกทองและใช้สื่ออย่างหลากหลาย ทั้งโฆษณาทีวี วิทยุ และหนังสือพิมพ์ ต่อเนื่อง

Did you know?

ไทย มีอัตราการบริโภคลูกอมค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับต่างประเทศ โดยมีปริมาณการบริโภคเฉลี่ย 500 กรัมต่อคนต่อปี ขณะที่ประเทศเวียดนามมีปริมาณการบริโภค 1.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี และสหรัฐอเมริกา 16 กิโลกรัมต่อคนต่อปี