“ทศภาค” บิ๊กแมตช์ระดับช้าง

ช่วงเวลาแข่งที่ดีที่สุด…ใช้ระบบการถ่ายทอดที่ไฮเทคที่สุด… นี่ถือเป็นไฮไลต์ที่สุดแห่งศึกฟุตบอลโลก 2006 ซึ่ง “ทศภาค” เจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของไทย ประกาศก้องว่า เวทีแห่งลูกหนังระดับโลกครั้งนี้ ได้เกิดจุดเปลี่ยนและปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะสงครามการตลาดในรูปแบบการจัดอีเวนต์ “เชียร์บอลนอกบ้าน” บานสะพรั่งชนิดไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ครั้งนี้ที่ถือเป็นครั้งที่สอง ซึ่งบริษัท ทศภาค จำกัด ได้ทุ่มงบซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลโลก ที่เยอรมนี แบบไม่มีโฆษณาคั่น และยิงสดผ่านฟรีทีวี 3, 5, 7, 9, 11 และ ITV ทั้ง 64 แมตช์ ตั้งแต่ 9 มิ.ย. – 9 ก.ค.

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ

“ทศภาคและเบียร์ช้างใช้งบถึงเกือบ 7.5 ล้านดอลลาร์ ในการซื้อลิขสิทธิ์จากฟีฟ่า เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน แต่ฟุตบอลโลกครั้งนี้มีจุดเปลี่ยนและยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้ง โดยเฉพาะระบบเทคโนโลยีใหม่ และช่วงเวลาของการแข่งขัน” วรวุฒิ โรจนพาณิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทศภาค จำกัด อธิบายถึงการเปลี่ยนแปลง

มหกรรมฟุตบอลครั้งนี้ มีจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ คือ การนำระบบการถ่ายทอดแบบใหม่มาใช้ คือ ระบบดิจิตอล High Definition Fully Digital ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกในการถ่ายทอดกีฬา โดยทางฟีฟ่าได้ลงทุนผลิตสัญญาณไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ใช้บุคลากรหลักจาก 3 ประเทศ เยอรมัน อังกฤษ และฝรั่งเศส ในการทำงานถ่ายทอดสดครั้งนี้ ที่พิเศษสุดๆ คือ ได้ใช้กล้องถ่ายทอดถึง 25 ตัวรอบสนาม นับว่ามากที่สุดเท่าที่มีการถ่ายทอดสดกีฬาระดับโลก

“ทศภาคลงทุนถึง 20 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ใหม่เพื่อรองรับสัญญาณระบบดิจิตอล โดยจัดเตรียมศูนย์ถ่ายทอดสดบริเวณตึกเอ็มไพรส์ ชั้น 25“

ระบบดังกล่าวมีความพิเศษสำหรับการรับชม ภาพจะคมชัดมาก ไม่มีล้มในทุกสภาพอากาศ แม้กระทั่งช่วงฝนตกหนัก และที่สำคัญเสียงในสนามจะเป็นระบบเซ็นเซอร์ราวด์รอบทิศทาง ผู้ชมสามารถได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจของนักเตะ เสียงการปะทะแข้งกัน จะได้ยินชัดแบบชิดติดสนาม

อย่างไรก็ดี ระบบใหม่สถานีโทรทัศน์ในเมืองไทยยังไม่พร้อมที่จะรับระบบดิจิตอลดังกล่าว เนื่องจากสัญญาณทีวีเมืองไทยยังเป็นระบบอะนาล็อก ดังนั้นทศภาคจะเป็นผู้ดำเนินการรับสัญญาณดาวเทียมมาจากเยอรมนี โดยจะนำสัญญาณดิจิตอลมาแปลงเป็นอะนาล็อก เพื่อส่งต่อไปสถานีทีวีไทยทุกช่อง

วรวุฒิ ยืนยันว่า แต่ในส่วนการขอสัญญาณยิงสดไปยังจอขนาดใหญ่ หรือลานกลางแจ้งที่จัดกิจกรรมถ่ายทอดสดนั้น สามารถรับสัญญาณดิจิตอลได้โดยตรง ทำให้สามารถรับชมระบบภาพ และเสียงใหม่ได้อย่างเต็มอรรถรส

ปรากฏการณ์ บิ๊กอีเวนต์

ศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ ทศภาค มั่นใจว่า จะเกิดปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ โดยเฉพาะกิจกรรม “เชียร์บอลนอกบ้าน” หรืออีเวนต์ออนกราวด์ ปีนี้คึกคักมากกว่าทุกครั้ง เนื่องจากฟุตบอลโลกเริ่มคิกออฟคู่แรกเวลา 20.00 น. คู่ที่สอง 23.00 น. และคู่สุดท้าย 02.00 น. ถือเป็นช่วงเวลาไพรมไทม์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งในช่วงการดูฟุตบอล

ที่สำคัญเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับกับการจัดกิจกรรม “เชียร์บอลนอกบ้าน” ซึ่งสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะลานหน้าห้างสรรพสินค้า และลานเบียร์จะคึกคักมากเป็นพิเศษ

สำหรับกิจกรรมฟุตบอลโลก จะมีกิจกรรมใหญ่ๆ 4 ลักษณะ จุดไฮไลต์แรก คือ พื้นที่กลางแจ้ง เช่น บริเวณหน้าศูนย์การค้า และพื้นที่ออนกราวด์ตามจุดลานต่างๆ ซึ่งมีกว่า 100 จุดสำคัญทั่วกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ จังหวัดใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต นครสวรรค์ ได้เตรียมพร้อมจัดกิจกรรมรับกระแสบอลโลกอย่างยิ่งใหญ่

จุดที่สอง คือ โรงภาพยนตร์ ปัจจุบันมีโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอลที่สามารถรับสัญญาณถ่ายทอดสดยิงฉายในโรงหนังหลายแห่ง เช่น เครืออีจีวี และเมเจอร์ ซึ่งคาดว่าเชียร์บอลในโรงหนังจะเป็นกิจกรรมที่คึกคักเช่นกัน

จุดที่สาม โรงแรม เมื่อฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว มีโรงแรมระดับห้าดาวเกือบสิบแห่ง ขอสัญญาณไป เพื่อเจาะตลาดนักท่องเที่ยว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจำนวนมาก เดินทางมาเช่าโรงแรมเพื่อดูฟุตบอลโลก เนื่องจากประเทศไทยมีการยิงสัญญาณสดทุกนัด และปีนี้จะคึกคักเหมือนเดิม เพราะหลายประเทศไม่มีการถ่ายทอดสดครบทุกแมตช์

จุดสุดท้าย กิจกรรมในสถานบันเทิง เช่น ผับ บาร์ เลานจ์ คาดว่าจะคึกคักเช่นกัน เพราะมีการแจ้งมาทางทศภาคถึงกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ ถึงการจัดกิจกรรมรับบอลโลก

“ฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว มีสถานที่ต่างๆ ติดต่อขอนำสัญญาณไปถ่ายทอดกว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศ ปีนี้เท่าที่ติดต่อมามีมากขึ้นถึง 3-4 เท่า แล้ว หรือมีประมาณสองหมื่นแห่งทั่วประเทศ ถือเป็นอีเวนต์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก”

อย่างไรก็ดี ทศภาค ยืนยันว่า ผู้ที่นำสัญญาณไปถ่ายทอดสด อย่างกรณีของลานกลางแจ้ง จะต้องเสียค่าเดินสายไฟเบอร์ต่อจุดประมาณ 250,000 บาท ซึ่งการสื่อสารแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้ดำเนินการให้

ขณะเดียวกัน ผู้ที่ขอสัญญาณการถ่ายทอดสดไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ ทศภาคในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ผู้เดียวในราชอาณาจักรไทย จะคิดค่าลิขสิทธิ์ตามขนาดพื้นที่ เริ่มต้นที่ 50,000 -200,000 บาท แต่มีเงื่อนไข หากไม่อยากเสียค่าลิขสิทธิ์ ต้องมีบูธเบียร์ช้างเข้าไปจัดกิจกรรม หรือขายเบียร์ช้าง

ขุมทรัพย์โฆษณาบอลโลก

สำหรับโฆษณาทางทีวี ทศภาค ได้ให้บริษัท DhosPaak Communication Agency บริษัทเอเยนซี่ในเครือเป็นผู้ดูแล โดยตั้งเป้ารายได้ไว้ประมาณ 400 ล้านบาทจากค่าโฆษณา หรือประมาณ 40 ชิ้นในการถ่ายทอดสดครั้งนี้

สำหรับแบ่งออกเป็น 2 แพ็กเกจหลักๆ คือ แพ็กเกจแรก ราคา 15.5 ล้านบาท โดยจะเป็นสปอนเซอร์ทั้ง 64 นัด โฆษณาได้ 3 ช่วง คือ ช่วงถ่ายทอดสด ช่วงรีรันเทปในวันรุ่งขึ้น และช่วงไฮไลต์การแข่งขันทุกวัน ส่วนแพ็กเกจที่สอง ราคา 11.5 ล้านบาท ลด 9.2 9 ราย ช่วงถ่ายทอดสดอย่างเดียว

นอกจากเหนือจากนี้จะมีแพ็กเกจแบบขอร่วมสปอนเซอร์จำนวนครึ่งหนึ่ง หรือ 32 แมตช์ หรือบางแมตช์ด้วย

“ผู้ที่ขอเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ทางทีวี ส่วนใหญ่เป็นสปอนเซอร์หลักของการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ เช่น โค้ก โตชิบา แต่โฆษณาทางทีวีถือว่าไม่คึกคักมากนัก ช่วงนี้ลดราคาให้ 20% เพราะเป็นช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ส่วนโฆษณาทางอีเวนต์ออนกราวด์ปีนี้แรงมาก เพราะถือเป็นช่วงเวลาแข่งที่เหมาะสมกับการจัดกิจกรรมมาก เนื่องจากเป็นช่วงหัวค่ำ เลิกงานพอดี”

อย่างไรก็ดี ทศภาคมั่นใจว่า เม็ดเงินของธุรกิจโฆษณาจะเพิ่มขึ้นและหมุนเวียนนับหลายพันล้านแน่นอน เพราะเป็นช่วงที่สินค้าต่างจ้องจังหวะนี้เพิ่มยอดขาย

…พลังของความสนใจของฟุตบอลครั้งนี้ ที่เยอรมนี ถือว่ายิ่งใหญ่มาก เพราะจัดขึ้นในประเทศมหาอำนาจลูกหนังของยุโรปที่ความคลั่งไคล้ฟุตบอลอย่างมาก นอกจากระบบการถ่ายทอดสดที่ยิงสัญญาณไปทั่วโลกกว่า 200 ประเทศ ปีนี้นับมีซูเปอร์สตาร์ลูกหนังใหม่เกิดขึ้นหลายคน จึงเป็นเกมระดับโลกที่น่าติดตามอย่างมากที่สุด และฟีเวอร์สุดๆ ของโลก

สัญญาณดาวเทียมจากเยอรมัน –> ตึกเอ็มไพรส์ ชั้น 25 ทศภาค –>
– สถานีทีวี 3, 5, 7, 9, 11 และ ITV
– ลานกิจกรรมกลางแจ้ง
– โรงแรม
– สถานบันเทิง เช่น ผับ บาร์ เลานจ์