“Road To Worldcup” เป็นชื่อแคมเปญเว็บไซต์ที่ไมโครซอฟท์ทำขึ้นเพื่อเรียกเรตติ้งและโปรโมต MSN Space ซึ่งเป็นระบบบล็อกของไมโครซอฟต์ ซึ่งแม้ Microsoft จะไม่ได้เป็น Official Partner กับฟีฟ่าอย่างยาฮู แต่ก็พลาดไม่ได้ที่จะขอร่วมกระแสด้วย
Tom Stephen ผู้จัดการทั่วไปบริษัท Impaq Interactive ที่ดูแล MSN Thailand เล่าเป้าหมายทางการตลาดของ “Road To World Cup” ซึ่งเป็นแคมเปญทั่วโลกว่าจะช่วยเพิ่มฮิตเรตหรือความนิยมเข้าชมเว็บ MSN Thailand ให้มากขึ้น และยังเพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้รู้จัก MSN Space ซึ่งเป็นบล็อก หรือไดอารี่ประจำวันบนเว็บได้ดีขึ้น เพราะจะมี 7 นักฟุตบอลดังของโลกคือ โรนัลดินโญ่ จากบราซิล, โคล้ด มาเกเลเล่ จากฝรั่งเศส, เอ็ดการ์ ดาวิดส์ จากฮอลลแลนด์, เควิน คูรานี่ จากเยอรมนี, ไมเคิล โอเว่น จากอังกฤษ, และ ชาบี้ อลอนโซ่ จากสเปน มาเขียน MSN Space ทุกวันและมีแปลเป็นภาษาไทยใน msn.co.th
นอกจากนี้ MSN “Road To World Cup” ก็มีข้อมูลอื่นๆ รอบด้านทั้งสนาม ตารางแข่งขัน ข่าวประจำวัน แต่เนื่องจากเว็บคู่แข่งอย่างเว็บข่าวกีฬาต่างๆ ก็มีอยู่ อาวุธหลักที่เป็นเอกลักษณ์ของ MSN ทั่วโลกในกระแสบอลโลกนี้ก็คือ Space ของนักฟุตบอลทั้ง 7 นี่เอง
ปัจจุบัน Hotmail.com ซึ่งเป็นบริการหลักของ MSN Thailand มีผู้ใช้อยู่ในประเทศไทย 2.2 ล้านคน และ MSN Messenger ก็มีผู้ใช้อยู่ 1.8 ล้านคน ทาง Microsoft ไม่มีการนำข้อมูลคนเหล่านี้ไปขายที่ไหน มีเพียงนำไปคอนเฟิร์มให้เอเยนซี่และบริษัทลูกค้าได้เห็นกลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม
ตัวอย่างเช่นหากไปขายโฆษณาให้รถยี่ห้อหนึ่ง ก็นำยอดผู้ใช้ 1 แสนคนที่แจ้งไว้ขณะสมัครฮอตเมลว่าสนใจเรื่องรถและมีรายได้ต่อเดือนในระดับที่สูงพอ ไปให้เจ้าของสินค้าได้แน่ใจว่ากลุ่มเป้าหมายตรงๆ ถึงแสนคนจะได้อ่านและรับรู้แคมเปญโฆษณาคุ้มค่างบที่ลงทุนไป
“กับเซ็กชั่นบอลโลกนี้ ก็ชัดว่ากลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้ชาย อายุตั้งแต่ 15 – 35 ที่ทั้งสนใจฟุตบอล และใช้อินเทอร์เน็ต” ทอมชี้กลุ่มเป้าหมายของเว็บทั้งหมดที่เกี่ยวกับบอลโลกในไทย
ปัจจุบันสปอนเซอร์ของเซ็กชั่น Road To World Cup เฉพาะประเทศไทยได้แก่ แบรนด์เครื่องกีฬา Adidas, แบรนด์รถหรู Lexus, และแบรนด์มือถือบวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ Sony
เว็บไซต์ในการรับข่าวสารและผลการแข่งขันฟุตบอลทั่วๆไป
– www.soccernrt.com 6%
– www.livecore.com 22%
– www.manager.co.th 9%
– www.siamsport.com 28%
– www.soccersuck.com 16%
– www.kickoff.in.th 3%
แหล่งข้อมูล : บริษัท อินนิทิเอทีฟว์
ฐานข้อมูล : กลุ่มคนอายุ 20-29 ปีที่ดูฟุตบอลอย่างสม่ำเสมอ
