หากใครแวะชมภาพยนตร์ที่ พารากอน ซีเนเพล็กซ์ อาจต้องสะดุดตากับ Red Zone พื้นที่สีแดงที่มองปราดเดียวก็รู้ว่านี่คืออาณาเขตของโค้ก เสาทรงกระบอกขนาดใหญ่ถูกห่อหุ้มด้วยสีแดงพร้อมโลโก้โค้ก ตลอดจนเวทีขนาดย่อมและพื้นที่นั่งล้วนเป็นสีแดง และสีขาวแซมบ้างเท่านั้น
นี่เป็นการจับจองพื้นที่รอคอยกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น ซึ่งโค้กเชื่อว่ามีไลฟ์สไตล์ด้านบันเทิง โดยเฉพาะรักการดูหนัง และฟังเพลง เป็นชีวิตจิตใจ การกำเนิดสถานีดนตรี “โคคา-โคลา เรด เลาน์จ” จึงเกิดขึ้นด้วยการจับมือกับพันธมิตรเมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์ และทรู มุ่งหวังให้เป็นแหล่งพบปะแห่งใหม่ของวัยรุ่น
พรวุฒิ สารสิน รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด บอกว่า เลือกความแปลกใหม่ และทันสมัยเพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ ทำให้ภาพลักษณ์ของโค้กทันสมัยขึ้นเรื่อยๆ โดยการร่วมมือกันครั้งนี้ ทรูจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องเพลง ส่วนโค้กจะสรรหากิจกรรมต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามายังพื้นที่ตลอดเวลา เช่น มินิคอนเสิร์ต การเปิดตัวอัลบั้มเพลง หรือการสนทนากับศิลปิน เป็นต้น
โค้กเชื้อเชิญให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมสัมผัสกับแบรนด์อย่างใกล้ชิด ด้วยการสร้าง Experialtial Space ให้กับวัยรุ่นได้สนุกสนานกับดนตรี กับกว่า 300,000 บทเพลง ทั้งไทยและสากล รอให้เลือกดาวน์โหลดได้ฟรีจาก www.truewolrd.net
ภายในโคคา โคลา เรด เลาน์จ จะมีตู้เพลงออนไลน์ มีการรายงานข่าวอัพเดทข่าวคราวบันเทิง มี Live Broadcast มีข้อมูลศิลปิน และการเปิดตัวอัลบั้มใหม่ๆ ผ่านจอพลาสม่าหรือ Media Wall ให้อัพเดตไม่ตกเทรนด์
โคคา โคลา เรด เลาน์จ ที่เมืองไทย เกิดขึ้นเป็นแห่งที่ 4 ของโลก ต่อจากสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ โดยที่ฟิลิปปินส์ โดยแห่งแรกเปิดที่ Hawthorne Shoppingtown Mall มลรัฐอิลินอยล์ เมื่อธันวาคม 2546 ขณะที่สิงคโปร์ สถานีดนตรีจากโค้กตั้งอยู่ที่ Cathay Cineplexes และแต่ละแห่งประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
นอกจากนี้ไทยน้ำทิพย์ยังวางแผนไปสร้าง Brand Experience ให้กับวัยรุ่นอีก 4-6 แห่ง ภายในปีหน้า แน่นอนว่าต้องเป็น Hot Spot ของวัยรุ่น และมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงที่จะเกาะเกี่ยวไปกับพื้นที่ของพันธมิตรอย่างเมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์อีกครั้ง
เป็นครั้งแรกในไทยที่โค้กเพิ่มความลึกล้ำจากปกติที่ใช้ Music Marketing มาเป็น Digital Music Marketing เช่นนี้
