ลูกสาวช้อป พ่อจ่าย

โฆษณาสร้างแบรนด์ของธนาคารกสิกรไทย หรือ K Bank ไม่เหือดแห้งเอาเสียเลย สมกับที่ประกาศตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านบริการทางการเงินผ่านเทคโนโลยีล่าสุดของไทย

ปีที่แล้ว ออกอัศวิน K ตัวเขียวๆ มาพาคุณป้าที่ถูกสามีขี้ลืมทิ้งเอาไว้ที่ธนาคาร ตระเวนทั่วกรุงเทพฯ มาให้ฮือฮากันทั่วเมือง ตามมาด้วยการตอกย้ำบริการทางการเงินที่ครบเครื่องแบบ Universal Banking ไปแล้ว สมใจเจ้าของไอเดียเหลือเกิน

มาปีนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องออกมาตอกย้ำความครบเครื่องของบริการทางการเงินอีกต่อไป เพราะธนาคารพาณิชย์อื่นๆ เขาก็นำเสนอเรื่องของซูเปอร์มาร์เก็ตทางการเงิน หรืออะไรทำนองเดียวกัน การฉีกหรือหนีจากความซ้ำซากจึงเป็นความจำเป็นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

โฆษณาทางโทรทัศน์ชิ้นล่าสุดของธนาคารกสิกรไทย จึงกลับมาเน้นไปทางเทคโนโลยีอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ง่ายแบบสุกเอาเผากินแบบธนาคารอื่นๆ ที่เล่นขาย ”กู้ง่าย ก็เร็ว” ด้วยมิวสิก มาร์เก็ตติ้ง ที่ดูไร้รสนิยมสิ้นดี หากตั้งใจจะให้ดูมีคลาสมากกว่านั้น

ด้วยการย้อนกลับมาเล่นกับความสัมพันธ์ในครอบครัว

เรื่องนี้ ดูช่างสอดคล้องหรือใกล้เคียงกับโฆษณาของค่ายโทรคมนาคมหลายแห่งมากทีเดียว หากไม่พินิจพิเคราะห์ให้ดี เผลอๆ จะคิดว่าเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วสาระมันต่างกันมากทีเดียว

อย่างที่เราเคยเห็นกัน พ่อแม่ที่มีบัตรเครดิตก็มักนิยมออกบัตรเสริมให้ลูกใช้ เพื่อเวลารูดบัตรแล้ว ก็มาให้พ่อ-แม่จ่ายแทน ไม่ต้องพกพาเงินให้เสียเวลา เป้าหมายของวิธีการนี้ก็คือ เพื่อ ”กำกับดูแล” และคุมประพฤติคุณลูกให้รู้จักวินัยในการใช้จ่ายเงินอย่างใกล้ชิด

แต่เมื่อวิวัฒนาการมาถึงยุคของ SMS และ MMS มากขึ้นเรื่อยๆ วิธีการคุมประพฤติผ่านบัตรเครดิต มันดูเหมือนจะเก่าไปเสียแล้ว…สู้คุมประพฤติผ่านสัญญาณมือถือกันเลยไม่ดีหรือ?

ก็ขนาดสัญญาณกันขโมยในปัจจุบัน ที่ใช้การจับคลื่นอินฟราเรด แล้วส่งต่อไปที่โทรศัพท์มือถือ เพื่อป้องกันโจรกรรม ยังทำกันได้ ทำไมแค่การคุมประพฤติลูกสุดที่รักนักช้อป จะต้องกระทำผ่านเครื่องมืออื่นๆ ให้เสียเวลาทำไม

ภาพอันน่ารักของพฤติกรรม ลูกสาวจ่าย ตัวเลขขึ้นหกน้าจอมือถือคุณพ่อ…ที่ถึงกับร้อง อุ้…อุ้…อุ้ เมื่อเห็นตัวเลขค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น คงไม่ใช่การส่งสัญญาณว่า ลูกสาวนั้นจ่ายเงินเปลืองแค่ไหน แต่เป็นการบอกให้รู้ว่า เมื่อกระเป๋าซ้ายถูกล้วง กระเป๋าขวาก็สามารถรู้สึกได้

เรื่องอย่างนี้ ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องปิดลับกันในครอบครัวอีกต่อไป เพราะพ่อ-แม่-ลูกนั้น ควรเปิดใจต่อกัน และเผื่อแผ่กัน

อย่างไรเสีย เงินก็มาจากกระเป๋าเดียวกันอยู่แล้วนี่นา!!

ทำไมต้องรอไปดูตอนสินงวดเดือนแบบบัตรเครดิต …จ่ายเมื่อใด ตัวเลขก็ขึ้นทันที…หากมากเกินไป ก็ตักเตือนกัน หากน้อยเกินไป ก็โล่งอก

นี่คือบทเรียนเรื่องการเงินส่วนบุคคลทางอ้อม ที่ใช้เวลาแสนสั้นอย่างแยบยลมากๆ

เรียกว่าถอดรหัสกันออกมาได้อย่างลึกซึ้งมากๆ

การหันมาเน้นประเด็นเรื่องคุมประพฤติในเรื่องการเงินส่วนบุคคล เป็นเรื่องที่สอดคล้องกับปรัชญาเรื่องวิถีชีวิตแบบพอเพียงหรือ Subsisten Lifestyle อันเป็นแนวทางใหม่ล่าสุด หลังจากยุคสร้างหนี้ส่วนบุคคลเฟื่องฟูหลายปีมาแล้ว จนกระทั่งคนไทยมีหนี้สินภาคครัวเรือนและส่วนบุคคลถัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาสู่หัวแถวของชาวโลก ด้วยรสนิยม “หาสลึง กินบาท” เพราะโครงการสินเชื่อบุคคลประเภท ”กู้ง่าย…ไม่ต้องรอ 3 วัน” ที่เกร่อตลาด จนกระเป๋าแฟบไปตามๆ กัน

ภายใต้แนวทางวิถีชีวิตแบบพอเพียง การสร้างวินัยทางการเงินส่วนบุคคล อยู่ที่การคุมประพฤติตนเอง และคนในครอบครัวพร้อมกันไป พร้อมกับการวิจารณ์ตนเอง การสร้างวัฒนธรรมแห่งการวิจารณ์อย่างมีเหตุมีผล เพราะความมั่งคั่งนั้นไม่อาจจะเกิดขึ้นได้ หากไม่ยึดถือหลัก “มีออม…ไม่มีอด”

ที่สำคัญพ่อ-แม่ยุคใหม่โดยเฉพาะชนชั้นกลางยามนี้ ต่างก็เข้าใจดีว่า การใช้ชีวิตในสังคมร่วมสมัยนั้น ดุลยภาพแห่งชีวิตระหว่างการทันสมัยไม่ตกยุค กับการอยู่อย่างพอเพียง เป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป เพราะ Forms Equal Functions…คติประเภท หน้ายิ้ม ท้องกิ่ว มันก็ไม่เข้าท่า แต่ว่า ผ้าขี้ริ้วห่อทอง มันก็เกินจะรับไหว

อย่ากระนั้นเลย ทำให้ลูกสาวได้หน้า แต่คุณพ่อ-คุณแม่ยอมจ่าย (อย่างเต็มใจ) ก็เป็นความสุขใจได้เช่นกัน เพราะลูกๆ ก็คือโฆษกด้านภาพลักษณ์อย่างเป็นทางการของพ่อแม่ด้วยมิใช่หรือ?

งานโฆษณา “ลูกสาวช้อป…พ่อจ่าย” ของธนาคารกสิกรไทย จึงเข้าข่าย ยิงกระสุนนัดเดียว ได้นกหลายตัวพร้อมกัน

เข้าข่าย Win-Win Game ที่น่าเลียนแบบอย่างยิ่ง

ภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่จากธนาคารกสิกรไทย

เจ้าของผลิตภัณฑ์ : บมจ.กสิกรไทย
ชื่อผลิตภัณฑ์ : บริการ K-mAlert
ชื่อภาพยนตร์ : Shopping
ความยาว : 30 วินาที
บริษัทตัวแทนโฆษณา : โอกิลวี่ แอนด์เมเธอร์
ทีมความคิดสร้างสรรค์ :
วิศิษฎ์ ล้ำศิริเจริญโชค – Executive Creative Director
กำพล ลักษณะจินดา – Creative Group Head
กุลวดี ดอกสร้อย – Creative Group Head
สิริลักษณ์ จิตปาลวงศ์ – Copywriter
ทีมบริหารลูกค้า :
รติ พันธุ์ทวี – Management Partner
นิวัฒน์ รุ่งเรืองวรวัฒน์ – Business Director
อารี ตั้งสุจริต – Communications Manager
ภัสสริน ลิมปนวงศ์แสน – Communications Executive
บริษัทผู้ผลิตโฆษณา : Matching Studio
ชาญชัย ชิวานนท์และทีมงาน Matching Studio Director