พระราชประวัติ

ประสูติ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชสมภพ ณ วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2470 ณ โรงพยาบาลเมานท์ออเบอร์น (Mount Auburn) เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสสาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา พระองค์เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 2 และองค์สุดท้องในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (หม่อมสังวาลย์) เป็นพระอนุชาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลพระอัฐมรามาธิบดินทร และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

การศึกษา

ทรงรับการศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียนมาร์แตร์เดอีเมื่อปี พ.ศ. 2475 หลังจากนั้นจึงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาในชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนเมียร์มอง และชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนนูแวล เดอ ลา ซืออิส โรมองด์ เมืองแซลลีซูร โลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต่อมาทรงเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนยิมนาสคลาสสิค กังโตนาลแห่งโลซาน และทรงศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยโลซาน แผนกวิทยาศาสตร์

เมื่อทรงพระเยาว์

ในวัยเยาว์ พระองค์ทรงพระเจริญวัยเช่นเดียวกับเด็กชายธรรมดาสามัญ รุ่นราวคราวเดียวกัน บางครั้งทรงหารายได้ด้วยพระองค์เอง โดยการรับจ้างเก็บผลแอปเปิล และผลแพร์จากสวนผลไม้ใกล้ๆ พระตำหนักที่ประทับ ใกล้ๆ เมืองโลซาน

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงสอนให้ทรงรู้จักประหยัด และรู้จักทำของใช้ด้วยพระองค์เอง นำสิ่งของที่เหลือใช้ภายในพระตำหนัก เช่น ไม้แขวนเสื้อมาสร้างรถไฟฟ้าเล่น มอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับทำให้รถไฟแล่นก็ทรงประดิษฐ์เอง

สืบราชสันตติวงศ์

ในวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2489 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เสด็จสวรรคตโดยกระทันหัน ณ พระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช จึงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติสืบราชสันตติวงศ์ในวันเดียวกันนั้น แต่เนื่องจากยังทรงมีพระราชภารกิจด้านการศึกษา จึงต้องทรงอำลาประชาชนชาวไทย เสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกครั้งหนึ่ง ในเดือนสิงหาคม 2489 เพื่อทรงศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยแห่งเดิม ในครั้งนี้ ทรงเลือกศึกษาวิชากฎหมายและวิชารัฐศาสตร์ แทนวิชาวิศวกรรมศาสตร์ที่ทรงศึกษาอยู่เดิม

พลังของแผ่นดิน

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระนาม “ภูมิพลอดุลเดช” ซึ่งมีความหมายว่า “พลังของแผ่นดินเป็นอำนาจที่หาใดเปรียบมิได้”

king

ข้อมูลจาก : นิตยสาร POSITIONING ฉบับเดือนธันวาคม 2549