บางเบา มีสีสัน เทรนด์ แรง

ในฐานะผู้อำนวยการคนล่าสุด สถาบันอาคาเดเมียร์ สอนนักออกแบบนานาชาติประจำประเทศไทย เผ่าทอง ทองเจือ ประเมินเทรนด์แฟชั่นในปีนี้ว่า สำหรับเสื้อผ้า หน้าตา และทรงผม “ความบางเบา” เป็นสิ่งที่คนไทยต้องการ

เทรนด์แฟชั่นของโลกกับเมืองไทย มีความเหลื่อมล้ำกันระดับหนึ่ง เพราะเทรนด์ยุโรป อเมริกามันเป็นฤดูกาล มีใบไม้ผลิ ใบไม้ร่วง ฤดูร้อน และฤดูหนาว ขณะที่เมืองไทยมีแต่ฤดูร้อน ดังนั้น จะไปตามเทรนด์ของเมืองนอกค่อนข้างลำบาก ส่งผลให้สีสันของโลกตะวันตกและตะวันออกเปลี่ยนแปลง เวลาเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน สีสันของโลกตะวนตกจึงสดใส ขณะที่ฤดูใบไม้ร่วงสีเป็นแบบ Earth โทน ส่วนฤดูหนาวสีจะทึมๆ สำหรับคนไทยมีฤดูร้อนตลอดทั้งปี ดังนั้น สีจึงสดใส Bright ตลอด

ดังนั้น เทรนด์แฟชั่นสำหรับเสื้อผ้าปีนี้ จึงเน้นบางเบาและสีสันสดใส ส่วนเทรนด์ทรงผมจะไปทางเอเชีย เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ทรงสั้นๆ หยิกๆ ใส่เจล ทรงชี้ตั้งๆ ขณะที่ผมยาวเกล้า รวบก็เปลี่ยนแปลงไปตามโอกาส ส่วนใบหน้าเน้นแต่งหน้าบางเบา แต่ให้ดูใสขึ้น

ขณะที่เนื้อผ้าประเภทไหม “ชีฟอง” ยังเป็นวัตถุดิบยอดนิยมที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ส่วนผ้าเนื้อหนาไม่ค่อยนิยม เพราะผู้หญิงนิยมสวมเสื้อผ้าเน้นโชว์สรีระ เรือนร่างจึงเน้นเนื้อผ้าเบาบาง ซึ่งเป็นเทรนด์สำหรับเมืองไทย

สำหรับเสื้อผ้า กลุ่มวัยรุ่นแนวเทรนด์ดี้ยังคงมา และเน้นจำนวนชิ้นที่สวมใส่มากขึ้น ไม่ใช่แค่เสื้อ กระโปรง หรือกางเกงอย่างละหนึ่งตัวแล้ว แต่จะเป็นเสื้อผ้าที่มีส่วนประกอบเสริม เช่น ปลอกแขนเสื้อ หรือแขนเสื้อคนละชิ้นกับตัวเสื้อ หรือผ้าเย็บย่นรัดข้อมือ คาดเอว หรือทำเป็นเข็มขัด หรือกางเกงรูดซิปทำเป็นสามส่วน หรือสี่ส่วนในตัวเดียวกัน เพื่อปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย

“ขณะที่เศรษฐกิจโลกไม่ได้อยู่ในขาขึ้น ภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อ ทำให้นักออกแบบต้องคิดหาวิธีมากขึ้น ดังนั้น เสื้อผ้าแนวมี Accessaries น่าจะมาแรง เพราะเสียเงินครั้งเดียว สามารถเปลี่ยนลุคได้”

สำหรับเทรนด์โลก อาจารย์เผ่าทองประเมินว่า สี ส้ม เขียวใบตอง เหลืองมะนาว น่าจะมาแรงในปีนี้ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และกระโดดไปอีกโทนแนว Plastal หรือโทนสีหวานๆ และโทนสีสด เช่น แดงสด ฟ้าสด เขียวเข้ม เหลืองเข้ม ขณะที่สีขาว-ดำยังคงเป็นสีอมตะ เพราะเป็นสีไม่เคยตาย และมีปริมาณเพิ่มขึ้นเท่าเดิม