กำไรแบบพอเพียง

ค่าย DTAC ยุคของซิคเว่ เบรคเก้ ออกโฆษณาชิ้นไหนมาฮือฮาทุกที ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิดกัน จึงได้มีพลังสร้างสรรค์เหลือเฟือเสียจริง

โฆษณาทางโทรทัศน์ชิ้นล่าสุด ที่มากับแนวคิดหลัก โทรแต่พอดี ใช้เท่าที่จำเป็น แม้จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงแนวคิดอะไรของปีก่อน ในลักษณะล้อตัวเอง แต่วิธีการนำเสนอที่เปลี่ยนไป ตามด้วยอารมณ์ขันเหลือเฟือ ถือว่าเป็นลูกไม้ทางโฆษณาที่เด็ดขาดจริงๆ
แค่เปลี่ยนมุมมอง ก็เปลี่ยนสีสันเสมือนใหม่เอี่ยมได้เลย

เข้าตำราของสังคมปรากฏการณ์ ซึ่งนักคิดด้านการสื่อสารฝรั่งเศส กีย์ เดอบอร์ด ว่าเอาไว้ไม่มีผิดเพี้ยน

กลวิธีนำเสนอ โดยเริ่มต้นเลือกตัวแสดงสำหรับมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ด้วยนักแสดงหน้าตาน่ารัก ประเภท ไม่หล่อ แต่เร้าใจ เห็นแล้วหากไม่อยากหัวเราะ ก็คงต้องยิ้มกว้างๆ แล้ว ไม่ต้องเป็นซูเปอร์สตาร์ที่ไหนๆ ก็มีแรงดึงดูดมากเกินที่จะทำให้ติดตามชมไปได้ต่อเนื่องว่า เจ้าหนุ่มหน้าตาแปลกๆ คนนี้ (ตามคำเล่าลือบนเว็บ ก็บอกว่าเป็นนักแสดงในชุด พ่อคนดีหลบในนั่นเอง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น) จะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน

ไม่ต้องรอนาน เพราะพอเพลงแปลงมาจาก I need somebody love ในสไตล์แบบไทยๆขึ้นต้นเท่านั้น ก็อดคล้อยตามลีลาบนหน้าจอไม่ได้เสียแล้ว

ยิ่งเนื้อเพลงออกมาค่อนข้างดูดี เพราะไม่ได้เร่งปิดการขายแบบฮาร์ดเซลส์เสียจนน่าเกลียด แต่ยังออกมาล้อคนคลั่งมือถือเสียอีก เรื่องมันก็เลยเถิด เตลิดไม่หยุดไปกับจังหวะของเพลง ซึ่งมีท่าเต้นแปลกๆ ชวนให้ขยับเท้าตาม

…ที่รัก…เธออยู่ที่ไหน เธอทำอะไรอยู่นะ
อยากให้เธอรู้ฉันคิดถึงเธออยู่นะ อาว
แต่ฉันไม่โทรบ่อย ที่ฉันไม่โทรบ่อย
(ก็) เก็บไว้คิดถึงกัน…I miss you…

ถือเป็นลูกเล่นกับประสบการณ์ของคนใช้โทรมือถือวัยรุ่นและหนุ่มสาวแรกรุ่นที่เป็นโรคขี้เหงาได้ชะงัดดีนัก เพราะปรากฏการณ์ของพวกคลั่งโทร คลั่งคุยไม่เลือกสถานที่และเวลานั้น มันมีเสียงวิพากษ์กันมากนักต่อนักแล้ว สะท้อนสังคมปรากฏการณ์ได้ชัดเจน

สังคมปรากฏการณ์ ในนิยามของเดอบอร์ด นั้น ระบุว่า ผู้คนจะยึดเอาสิ่งที่รับรู้เป็นสรณะ โดยไม่สนใจแสวงหาข้อเท็จจริง หรือ แรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลัง ทำให้ ภาพลักษณ์มีความสำคัญมากกว่าอัตลักษณ์ …และ Perception สำคัญกว่า Factual Truth

นอกจากนั้น สังคมอย่างนี้ ความสัมพันธ์ของผู้คน ก็ตั้งอยู่บนพื้นฐานอันเปราะบางของสิ่งที่เรียกกันว่า ภาพลักษณ์ประดิษฐ์ ซึ่งบางครั้งกดลับกลายเป็นสาระใหญ่ของการวินิจฉัยความสัมพันธ์ของผู้คนว่า ควรจะรักษาระยะห่างกันแค่ไหนไปด้วย

ตัวอย่างง่ายๆ ก็เช่น ถ้ามีคนบอกว่าสินค้านี้แพงกว่า เพราะเป็น Original ที่ส่งจากเจ้าของแบรนด์เอง โดยไม่ผ่านคนกลาง และ/หรือ เป็น Limited Edition ก็ดูเหมือนจะยิ่งเร่งเร้าจะทำให้อุปสงค์เทียมของคุณถูกเร้าได้ง่ายขึ้น

สำหรับธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ที่ปัจจุบันการแข่งขันรุนแรงถึงขั้นแจกซิมฟรีเกลื่อนตลาด เรื่องราคาหรือค่าโทร ไม่ใช่ประเด็นที่จะเอามาแข่งขันกันเพื่อสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้อีกต่อไปแล้ว

การงัดลูกเล่นเรื่องปรากฏการณ์ในชีวิตที่ทำให้สะดุดตา สะดุดใจ และสะดุดอารมณ์ จึงเป็นโจทย์ใหม่ที่ต้องขบให้แตก และย่อยให้ละเอียด

การลดรูปของจิตวิญญาณ จากสภาวะเป็นความมีอยู่ และกลายเป็นสิ่งที่ปรากฏ คือสิ่งที่นักการสื่อสารไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า นี้คือจิตวิญญาณของสังคมบริโภคร่วมสมัย

ใครทะลวงจิตวิญญาณตรงนี้ได้สำเร็จ ก็สามารถครอบงำเบ็ดเสร็จไปได้ไม่ยาก

ยามนี้ เมื่อกระแสของเศรษฐกิจพอเพียงมาแรง และยังคงแรงต่อไป เพราะความหวังที่จะให้เศรษฐกิจและธุรกิจเดินหน้าไปอย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้นั้น ค่อนข้างยากลำบาก การชูประเด็นเรื่องโทรพอเพียง ก็ยิ่งอินเทรนด์เข้าไปกันใหญ่

โดยเฉพาะเมื่อโยงเข้ากับเรื่องของความรัก และคิดถึง แบบหนุ่มสาวซิงๆ ของเมืองใหญ่ๆ เข้าด้วย ก็พอดีกัน

เราเอาเวลา…ไปทำอะไร…ดีๆ นะ
จะโทรทำไม ให้มากให้มาย มันเปลืองนะ
ไว้เจอเมื่อไหร่ อยากคุยเท่าไหร่…ไม่ว่ากัน
…Oh yeah

เป็นโฆษณาที่ใช้ประโยชน์จากกระแสสังคมได้คุ้มค่าอย่างมาก ถึงจะออกอากาศมาหลายสัปดาห์แล้วก็ยังไม่น่าเบื่อ เพราะลูกเล่นแพรวพราวอย่างนี้ หาไม่ง่ายนักในโฆษณายามที่ขาดแคลนความคิดสร้างสรรค์กับสายลมร้อนระอุที่ดูจะเป็นสถิติใหม่ไปแล้ว

อยากให้ DTAC และคนอื่นๆ ออกโฆษณาอย่างนี้มามากๆ ภาพลักษณ์ของโลกทุนนิยมและโฆษณา จะได้สดใสมากกว่าเรื่องราวในท้องสนามหลวง หรือร่างรัฐธรรมนูญ ที่ชวนให้สังเวชมากเสียจนอยากปลีกวิเวกไปเลย

จะได้ลืมปรากฎการณ์เน่าๆ และมองหาอนาคตได้อย่างสบายใจมากขึ้น

ภาพยนตร์โฆษณาแฮปปี้ ชุด “แฮปปี้ โทรพอดี พอดี”

ผู้โฆษณา บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)
ผลิตภัณฑ์ แฮปปี้
ชื่อภาพยนตร์โฆษณา แฮปปี้ โทรพอดี พอดี
ความยาว 60 วินาที
ออกอากาศ 22 กุมภาพันธ์ 2550 ผ่านเว็บไซต์ www.youtube.com และ 9 มีนาคม 2550 ทางสถานีโทรทัศน์
เอเยนซี่ Y & R
โปรดักชั่นเฮ้าส์ Mucky-Muck