True IPTV ทีวีเลือกได้

โลกของโทรทัศน์กำลังพลิกโฉมหน้าไปอย่างสิ้นเชิง แทนที่ผู้ชมจะเป็นฝ่ายรับชมรายการ จากสถานีโทรทัศน์ หรือเคเบิ้ลทีวีเพียงฝ่ายเดียว “ทรู ไอพีทีวี” ได้ทำให้ผู้ชมกลายเป็นฝ่าย “เลือกได้” ชม และจัดทำผังรายการได้ตามใจชอบ ทุกวันและทุกเวลา แบบไร้ขีดจำกัด ที่สำคัญเป็นบริการที่ตอบโจทย์ Convergence ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด

“คุณจะได้ชมแต่สิ่งที่คุณอยากดู และในเวลาที่คุณอยากดู” ไพสิฐ วัจนะปกรณ์ ผู้จัดการทั่วไป บรอดแบนด์ บรอดคาสท์ แอนด์ มัลติมีเดีย บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ปลุกปั้นและดูแลบริการ True IPTV บอก Positioning ถึงจุดเด่นของทรู ไอพีทีวี ในเรื่องบริการ On demand และ Interactive ที่เรียกได้ว่าเป็นปฏิวัติรูปแบบของทีวีทั่วไป และนำหลักการตลาด ที่ว่าด้วยเรื่องของ Customization มาใช้

เพราะแทนที่ผู้ชมเป็นฝ่ายรอดูรายการตามที่สถานีโทรทัศน์ หรือเคเบิ้ลทีวีเลือกให้ ผู้ชมกลับเป็นผู้เลือกรายการด้วยตัวเอง และเลือกดูในเวลาใดก็ได้ นี่คือความแตกต่างที่เกิดขึ้นในโลกอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่ “ทรู ไอพีทีวี” เป็นหนึ่งในหัวหอกของการนำบริการเหล่านี้มาสู่ในมือผู้ชม ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐาน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และบริการไอพีทีวี (Internet Protocol Television) เพื่อเป็นการ “ต่อยอด” บริการทรูวิชั่นส์ไปอีกขั้น

“ผู้ชมสามารถเลือกดูรายการอะไร เวลาไหน ได้ตลอดเวลา หนัง เพลง คอนเสิร์ต คนเป็นแฟนอะคาเดมี่ แฟนเทเชียจะเลือก AF ตอนไหนก็ได้ และดูคอนเสิร์ตย้อนหลังได้ทุกสัปดาห์ หรือใครที่กลับมาไม่ทันดูข่าว หรือรายการในฟรีทีวี สามารถดูรายการเหล่านี้ย้อนหลังได้”

นี่คือความหมายของ “My Personal TV” สโลแกนของทรู ไอพีทีวี ที่บอกชัดเจนถึงการที่ผู้ดูจะเป็นผู้กำหนดผังรายการด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟรีทีวี เคเบิ้ลทีวีทั่วไปไม่มี หรืออีกนัยหนึ่งเป็นการ “ต่อยอด” บริการทรูวิชั่นส์

ช่องรายการของทรูวิชั่นส์ และทรู ไอพีทีวี จะมีความคล้ายกันในเรื่องของการแบ่งหมวดหมู่ แต่สิ่งที่แตกต่างกัน คือ “สไตล์” ของรายการ ซึ่งรูปแบบรายการของ “ทรู ไอพีทีวี” จะนำมาจากผลวิจัยความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม Segmentation เพื่อเลือกช่องรายการที่สอดคล้องกับแต่ละกลุ่ม Segment จึงมีความหลากหลาย และเฉพาะเจาะจงถึงลูกค้าเป้าหมายแต่ละกลุ่มได้มากกว่าเดิม

ลักษณะลูกค้าเป้าหมายของทรู ไอพีทีวี กลุ่มแรก คือ ผู้ใช้บริการ ADSL เป็นคนหนุ่มสาว คนทำงาน มีความรู้ กลุ่มที่สอง คือ ลูกค้าในกรุงเทพฯ เป็นคนมีฐานะ ความรู้ มีอายุมากขึ้นมาหน่อย กลุ่มที่สาม คือ ลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในไทย

ยกตัวอย่าง รายการข่าว ในขณะที่ทรูวิชั่นส์มี CNN เป็นหลัก ทรู ไอพีทีวี จะมีรายการข่าวหลากหลายกว่า Fox News จากสหรัฐฯ และ SkyNews จากยุโรป และช่อง Rai จากอิตาลี ช่อง DW-TV ของเยอรมัน ช่องข่าว NHK จากญี่ปุ่น เป็นต้น

เช่นเดียวกับช่องเพลงของทรูวิชั่นส์ จะเป็นแนวเพลงทั่วไป เพลงไทยและเพลงสากล แต่ทรู ไอพีทีวี จะแยกเจาะจงเฉพาะแนว เช่น Trace TV แนวฮิพฮอพ และ Channel V อินเตอร์เนชั่นแนล เน้นเพลงสากล ล่าสุดจากต่างประเทศ

นอกเหนือจากรูปแบบรายการที่มีความเฉพาะเจาะจงถึงกลุ่มเป้าหมายแต่ละ Segment และมีตัวเลือกในแต่ละกลุ่มที่หลากหลาย จุดขายที่แตกต่างที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะ คือบริการ “Pay per view” หรือดูเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น

“เป็นแฟนหงส์ อยากดูแต่หงส์ ไม่อยากดูผีเตะ ก็ต้องที่นี่” ไพสิฐ ยกตัวอย่าง ช่องรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ที่ทรูวิชั่นส์ และทรู ไอพีทีวี ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดแต่เพียงผู้ชม จะทำให้ผู้ชมจะมีทางเลือกใหม่ ผู้ชมสามารถดูเฉพาะทีม หรือเฉพาะนัดแข่งขันสำคัญๆ จากทรู ไอพีทีวี จ่ายเพียงแค่คู่ละ 79 บาท ต่อ 1 คู่ หรืออยากเลือกดูคู่ย้อนหลัง หรือคู่ที่พลาดชม

ในเชิงของธุรกิจ เมื่อทรูวิชั่นส์ขยับขยายสู่ลูกค้าในระดับมวลชน (Mass Market) ด้วยราคาแพ็คเกจราคาถูกลง และเพิ่มรายการที่ผลิตภายในประเทศ (Local Content) มากขึ้น ทางด้าน “ทรู ไอพีทีวี” จะมาเติมเต็มลูกค้าในตลาดบนที่เป็นกลุ่มคนเมือง ชาวต่างชาติ ที่ชื่นชอบรายการต่างประเทศ และบริการพิเศษ ที่ผู้ชมสามารถจ่ายเพื่อดูเฉพาะช่องรายการที่ชื่นชอบ หรือเฉพาะรายการที่สนใจได้

“True IPTV จึงไม่ได้แค่ตอบโจทย์ตลาดบน แต่ยังตอบโจทย์คนอีกกลุ่มที่มีพฤติกรรม “รู้ชัดว่าตัวเองต้องการอะไร” เจาะจงชมรายการไหนช่องใดประจำ ไม่สนใจช่องอื่นๆ

ลูกค้าเป้าหมายของ TrueIPTV มี 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือลูกค้า Hi-speed Internet ที่ส่วนใหญ่เป็นหนุ่มสาวตั้งแต่วัยมหาวิทยาลัยขึ้นไปถึงคนทำงาน ส่วนกลุ่มที่สองคือลูกค้า TrueVisions เดิมทั้งส่วนที่เป็นชาวต่างชาติในไทย และทั้งกลุ่มที่เจาะจงดูไม่กี่ช่อง

True IPTV จึงเป็นบริการที่ช่วยเพิ่มมูลค่า “Value-add” ให้กับลูกค้า “Hi-speed Internet” ของทรูที่สามารถเลือกจ่ายเพิ่มเดือนละ 190 บาท เช่ากล่อง Set top box ก็สามารถเลือกดูเฉพาะรายการดูได้ไม่ว่า ข่าว เพลง หรือฟุตบอล ในแบบ On demand

พฤติกรรม “ช่างเลือก” ของกลุ่มลูกค้ายังถูกตอบสนองเพิ่มด้วยฟังก์ชั่นแบบ Interactive อย่างบริการ “Movie By Request” ที่ให้ผู้ชมจัดผังรายการเลือกเรื่องและเวลาที่ชมได้เอง ซึ่งแต่ละเดือนจะมี Theme เช่นเดือนแห่งหนังแอคชั่นของบรู๊ซ วิลลิส โดยช่วงเวลาที่เลือกฉายจะขึ้นอยู่กับจำนวนโหวตของผู้ชมรายการ ผ่านเว็บไซต์และโทรศัพท์มือถือทรูมูฟ เป็นตัวอย่างหนึ่งของการ Convergence ที่ทรู ไอพีทีวี นำระบบ “โหลด โหวต แชท” ผ่านสื่อเว็บ trueiptv.in.th และระบบ SMS บริการมือถือ TrueMove เข้ามาในบริการ pay TV อย่างมีความหมาย

ส่วนรายการอื่นๆ นั้น นอกจากดูตามตารางออกอากาศแล้ว ยังมีบริการ “On demand” ให้เลือกดูเมื่อไรก็ได้ และถ้าเป็นรายการของฟรีทีวีช่อง 3, 5, 7, 9 หลังจากดูรอบแรกแล้วก็สามารถเก็บเข้าเนื้อที่ส่วนตัวเรียกว่าบริการ “Personal Storage” ดูซ้ำได้เสมอ

เช่นเดียวกับรายการเฉพาะทาง อย่างเช่น ร.ร. กวดวิชาอาจารย์เจี่ย (JIA ON DEMAND) ซึ่งไพสิฐเผยว่ายังต้องการอีกมาก โดยเฉพาะผู้ผลิตรายการที่เคยมีช่องทางเฉพาะวางขาย VCD เหมาะสำหรับบริการ True IPTV แบ่งรายได้จากจำนวนครั้งที่ถูกเรียกดู

สำหรับบรรดาผู้ชื่นชอบพักผ่อนด้วยการร้องเพลง “True IPTV จะมีให้บริการ “คาราโอเกะ” โดยจำลองมาจากร้านคาราโอเกะทั่วไป ด้วยเมนูให้เลือกชื่อเพลง เลือกตัดเสียงร้อง และอื่นๆ ชนิดที่ทีมงานต้องออกไปศึกษาตามร้านคาราโอเกะใหญ่ๆ มา โดยคิดค่าบริการเป็นชั่วโมงหรือเหมาเป็นวัน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์วันหยุดหรือเวลาว่างในครอบครัว หรือตามออฟฟิศ ชนิดไม่ต้องออกไปไหน

กลางปีนี้ ทรู ไอพีทีวี จะมาถึง “จุดเปลี่ยน” ครั้งสำคัญ ด้วยบริการ “Hybrid Set top box” ซึ่งทำให้ผู้ชมเลือกดูได้ทั้งทรูวิชั่นส์และ IPTV ได้ด้วยอุปกรณ์ชิ้นเดียวกัน ถือเป็นการ Convergence อย่างสมบูรณ์แบบ ที่จะทำให้ผู้ดูรับชมรายการได้ทั้งในรูปแบบเคเบิ้ลทีวี และออนดีมานด์ ผ่านไอพีทีวี

“ไอพีทีวี คือ การต่อยอดจากบริการโทรศัพท์พื้นฐานเมื่อ 14 ปีก่อน และต่อยอดด้วยบริการไฮสปีด อินเทอร์เน็ต เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ คงไม่มีไอพีทีวี จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้”

นี่คือโอกาสของธุรกิจออนไลน์ ที่เริ่มจาก Voice Data มาสู่วิดีโอ และอินเตอร์แอคทีฟ ออน ดีมานด์ โดยทรู ไอพีทีวี จะเป็นตัวกลาง เชื่อมบริการ เติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคนดูได้เต็มรูปแบบ

“คุณอยากใช้บริการเรา คุณต้องมีบริการของเรา 3 Service ขึ้นไป ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ หน้าที่ของเราคือ ให้บริการที่ดี ข้อมูลพร้อม ทำให้เขาพอใจและเป็นลูกค้าของคุณตลอดไป” ไพสิฐสรุปพร้อมด้วยรอยยิ้มถึงหัวใจการทำธุรกิจของ True IPTV ที่สอดคล้องกับ True Hi-speed internet ที่ไปในทิศทางเดียวกับยุทธศาสตร์ “Convergence” ของกลุ่มทรูทั้งหมด