กลายเป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย สำหรับกูเกิล (Google) และแอปเปิล (Apple) ที่จะยอมลดค่าหัวคิวที่ตัวเองหักจากนักพัฒนา 30% มาตลอด โดยจะเพิ่มให้เจ้าของแอปพลิเคชันได้รับเงิน 85% แทนที่สัดส่วนเดิม 70% แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นแอปพลิเคชันที่ดึงดูดผู้ใช้ซึ่งยอมสมัครสมาชิกกับแอปนั้นได้
แอปเปิลเปลี่ยนโฉม App Store
ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแอปสโตร์ในรอบหลายปี โดยล่าสุด App Store ถูกเพิ่มเติมระบบโฆษณาในหน้าผลการค้นหาแอปพลิเคชัน หรือ Search Ads ขณะเดียวกัน ก็ปรับปรุงระบบสมาชิกให้ชาวไอโฟน และไอแพดสามารถตอบรับเป็นสมาชิกของแอปได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยการเปิดคุณสมบัติต่ออายุสมาชิกแอปอัตโนมัติ
จุดนี้ ผู้บริหารแอปเปิลออกมาให้สัมภาษณ์สื่อแล้วว่า แอปพลิเคชันใดที่สามารถรักษาฐานสมาชิกได้นานเกิน 1 ปี ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันนั้นจะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากแอปเปิล 85% แทนอัตราเดิม 70% คาดว่าเจ้าพ่อไอทีจะประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมในงานประชุมที่จะจัดขึ้นช่วงสัปดาห์หน้า
การเพิ่มระบบโฆษณาในหน้าผลการค้นหาแอปพลิเคชัน ทำให้ App Store มีความเหมือนกับร้านกูเกิลเพลย์ (Google Play) เบื้องต้น รายงานระบุว่า ความเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มที่ App Store ในสหรัฐฯ ก่อนจะขยายสู่พื้นที่อื่นต่อไป
จุดประสงค์ของการเพิ่ม Search Ads ไม่ได้อยู่ที่การเพิ่มประตูเพื่อดูดเม็ดเงินเข้ากระเป๋าแอปเปิลเท่านั้น แต่คือ การเปิดทางให้ผู้ใช้เห็นแอปพลิเคชันอื่นได้ง่ายขึ้น คาดว่าระบบนี้จะเริ่มเปิดทดลองใช้งานช่วงกลางปีนี้
สำหรับระบบสมาชิก แอปเปิลตัดสินใจเปิดทางให้แอปพลิเคชันทุกหมวดสามารถต่ออายุสมาชิกได้อัตโนมัติ โดยระบุว่า จะเพิ่มเงินให้นักพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีผู้ใช้สมัครสมาชิกเกิน 1 ปี จากอัตราเดิม 70 ต่อ 30 เป็น 85 ต่อ 15
กูเกิลลดเลยไม่ต้องรอ
แม้กูเกิลจะเดินตามนโยบายเพิ่มเงินส่วนแบ่งให้แก่นักพัฒนาแอปพลิเคชันของแอปเปิลในลักษณะเดียวกัน แต่ความแตกต่างชัดเจนคือ กูเกิลตกลงเพิ่มเงินให้นักพัฒนาทันทีที่ผู้ใช้สมัครสมาชิก สวนทางต่อแอปเปิลที่จะมอบส่วนแบ่งอัตราเดิมในปีแรก (ปีแรกได้อัตรา 70:30) ก่อนจะเปลี่ยนเป็น 85:15 ในปีที่ 2 และถัดไป
การเพิ่มส่วนแบ่งรายได้ให้นักพัฒนาแอปพลิเคชันนั้นถือเป็นเกมที่กูเกิล และแอปเปิลต้องการจูงใจให้นักพัฒนาลงมือสร้างสรรค์บริการที่สร้างเงินได้ต่อเนื่องมากขึ้น เนื่องจากการตอบรับเป็นสมาชิกของแอปพลิเคชันนั้นหมายความว่า ผู้ใช้ยินดีชำระเงินตลอดการเป็นสมาชิก ซึ่งยิ่งมีแอปพลิเคชันกลุ่มนี้มากขึ้นเท่าใด เม็ดเงินรายได้จากแอปก็จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น
ความเปลี่ยนแปลงของแอปสโตร์นี้ได้รับการยืนยันจาก ฟิล สคิลเลอร์ (Phil Schiller) ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของแอปเปิล ที่จะเป็นบุคคลหลักในการเปิดตัวนโยบายใหม่ และนานาคุณสมบัติทันสมัยที่นักพัฒนา และผู้ใช้จะได้รับจากร้านดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของแอปเปิลบนเวทีงานประชุมนักพัฒนา WWDC ที่มีกำหนดจัดขึ้นวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ขณะที่ความเคลื่อนไหวของกูเกิลถูกรายงานโดยสำนักข่าวรีโค้ด (Recode) ที่ไม่ระบุชื่อแหล่งข่าวใดๆ
ที่มา: http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000057895
