“เงินติดล้อ” รีแบรนดิ้ง ยกระดับมาตรฐานวงการสินเชื่อ เพื่อให้ลูกค้า “ชีวิตหมุนต่อได้”

สภาพเศรษฐกิจช่วงนี้ การไม่มี “หนี้” นั้นเป็นลาภอันประเสริฐ แต่ในทางปฏิบัติสำหรับกลุ่มคนชนชั้นรากหญ้าแล้วคงเป็นไปได้ยากซะเหลือเกิน ด้วยข้อจำกัดหลายอย่างในชีวิต เมื่อถึงคราวการเงินติดขัด หันไปพึ่งพาคนรอบข้างไม่ได้ จึงต้องจำใจเข้าหาแหล่งไฟแนนซ์ท้องถิ่น กลายเป็น “เหยื่อ” ของกลุ่มเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหด ส่งดอกเบี้ยจนมากกว่าเงินต้น ก็ไม่มีทีท่าว่าจะใช้หนี้หมดสักที

เงินติดล้อ ผู้นำด้านสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในเครือธนาคารกรุงศรี แหล่งเงินทุนที่เข้าใจทุกความต้องการทางการเงินของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคาร และไม่ต้องการพึ่งเงินนอกระบบ ได้ทำการปรับโฉมแบรนด์ใหม่ เพิ่มไอคอน สื่อสารสโลแกนใหม่ “ชีวิตหมุนต่อได้” โดยทุ่มเงินกว่า 150 ล้านบาทในการปรับเปลี่ยนพร้อมกันกว่า 400 สาขาทั่วประเทศ

การปรับโฉมใหม่ครั้งยิ่งใหญ่นี้จะตอกย้ำจุดยืนขององค์กรที่ต้องการช่วยยกระดับวงการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เป็นแหล่งเงินทุนที่โปร่งใสให้กับกลุ่มผู้บริโภคพื้นฐานหรือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และเพื่อมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในช่วงเวลาที่การเงินติดขัด เพื่อให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้ พร้อมคำมั่นสัญญาเป็นเพื่อนที่จริงใจ พึ่งพาได้ด้านการเงิน เพื่อแสดงให้เห็นถึง “เจตนา” ที่ต้องการหาทางออกและสร้างโอกาสให้แก่ลูกค้า มากกว่าการมองแค่ในเรื่องของผลกำไรเป็นหลัก เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่กลุ่มธุรกิจสินเชื่อ

ปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด ได้เผยเบื้องหลังของการรีแบรนด์ในครั้งนี้ว่า “จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากภายในขององค์กร ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนป้าย เปลี่ยนโลโก้ เมื่อปีที่แล้วเรามี Financial Education สอนความรู้ในด้านบริหารจัดการการเงินแก่พนักของเรา เพื่อให้พนักงานมีความรู้และเชี่ยวชาญในด้านการเงิน ก่อนที่จะนำสิ่งเหล่านั้นไปถ่ายทอดให้แก่ลูกค้าของเราอีกที นอกจากนี้เราก็ได้มีการวิจัยและลองผิดลองถูกอยู่หลายอย่างเพื่อให้โปรดักท์ที่ออกมาตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

เงินติดล้อเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทไฟแนนซ์ท้องถิ่น ค่อยๆ เติบโตจากการขยายธุรกิจมา 2-3 รอบ ขยายฐานลูกค้าจนกลายเป็นผู้นำตลาด คำถามที่เราถามตัวเองก็คือ ถ้าเราเป็นเบอร์หนึ่งในตลาด แล้วเราจะนำตลาดไปทิศทางไหน ซึ่งวิธีการที่ง่ายที่สุดเราก็มองที่ลูกค้าว่ามีปัญหาอะไรบ้าง แล้วเราก็พยายามตอบสนองให้ตรงจุด ซึ่งเราก็พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาขอสินเชื่อกับเราจะมีปัญหาหนี้นอกระบบ กู้เงินจากเราไปโปะหนี้ ลูกค้าในกลุ่มรากหญ้าจะเป็นกลุ่มที่ถูกเอารัดเอาเปรียบง่ายมาก ถ้าเราอยากจะช่วยเหลือลูกค้าในระยะยาวเราคงต้องยอมรับผลกำไรที่ต่ำลงมา ไม่ได้เน้นฟันกำไรในแบบที่คู่แข่งหลายรายในตลาดทำ

การรีแบรนด์รอบนี้จึงเป็นการเพิ่ม objective ของบริษัทอย่างเป็นทางการว่าแทนที่จะดำเนินกิจการแบบ “for profit only” เราเริ่มวางโพซิชันนิ่งของเราเป็น “Social Enterprise” ทำกิจการเพื่อสังคมมากขึ้น เพื่อสร้างแบรนด์เงินติดล้อให้แข็งแกร่งในระยะยาว นั่นคือที่มาของเราว่าทำไมจึงรีแบรนด์”

20160711-nguen-02

เงินติดล้อได้ออกแคมเปญใหม่ล่าสุดอัพเกรดผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิวัติวงการเลยทีเดียว ด้วยการเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เจ้าแรกและเจ้าเดียว ที่กล้าให้ลูกค้าด้วยแคมเปญ “รับเงินสดเป็นแสนทันทีที่สาขา” สำหรับลูกค้ารถเก๋ง กระบะ อันเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และเพื่อตอกย้ำเรื่องคุณภาพของการให้บริการของเงินติดล้อ ที่โดดเด่นในเรื่องของ ความง่าย ไว ไม่ต้องโอน ไม่ต้องค้ำ ต่อยอดจากสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ที่ลดเวลาการอนุมัติรับเงินสดจาก 30 นาที เหลือเพียง 10 นาทีแถมฟรีประกันอุบัติเหตุ

ถือเป็นการพลิกโฉมขั้นตอนการขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถแบบเดิมๆ ที่ต้องใช้เวลาในการอนุมัติจนถึงขั้นตอนรับเงินตั้งแต่ครึ่งวันถึงหนึ่งวัน เหลือแค่เพียง 1 ชั่วโมง ซึ่งการที่สามารถทำแคมเปญเช่นนี้ได้เพราะเงินติดล้อมีการพัฒนาระบบ และขั้นตอนการขอสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นให้ทุกขั้นตอนง่าย สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งเราเชื่อว่า “การให้เงินสด 1 แสนบาททันที” จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้เงินด่วนแบบฉุกเฉิน และไม่สามารถรอได้อีกต่อไป

“ในฐานะผู้ทำตลาด สิ่งที่เราสังเกตได้คือเมื่อเรามีแคมเปญใหม่ๆ ก็จะมีคนทำตาม ซึ่งเราก็ไม่ได้หวั่นไหวอะไร อยากทำตามก็ทำ ตามเราให้ทันแล้วกัน เพราะเราไม่เคยเหนื่อยในการสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ เพื่อลูกค้า เรายินดีที่จะแข่งขัน เพราะเชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะช่วยยกระดับมาตรฐานในอุตสาหกรรมนี้ และคนที่ได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือกลุ่มลูกค้านั่นเอง

ที่สำคัญ เมื่อพนักงานของเราเริ่มเห็นว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้นสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กลุ่มลูกค้าระดับรากหญ้าได้ ก็ส่งผลให้เกิดทัศนคติที่ดีในการทำงาน มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร บรรยากาศในการทำงานจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ ระหว่างพนักงานกับลูกค้า แม้กระทั่งสำนักงานของเราก็ได้มีการรีโนเวทใหม่ เพื่อทำให้เกิดสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการสร้างสรรค์และคิดค้น Solution ต่างๆ เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่กล้าคิด กล้าทดลอง กล้าสร้างสิ่งใหม่ๆ นั่นคือสิ่งที่กลุ่มผู้บริหารต้องการวางรากฐานเอาไว้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากพนักงาน” ปิยะศักดิ์กล่าว

20160711-nguen-03

นอกเหนือจากในเรื่องของการให้สินเชื่อ ทางเงินติดล้อยังได้ต่อยอดไปยังธุรกิจการประกันภัยด้วยซึ่งคุณปิยะศักดิ์มองว่าการบริหารความเสี่ยงเป็น 1 ในความต้องการพื้นฐานทางการเงินของคนทั่วไป โดยช่วงแรกได้ทำการ “แจกฟรี” ประกันภัยให้แก่ลูกค้าที่มาขอสินเชื่อมอเตอร์ไซค์กับเงินติดล้อไปแล้วกว่า 150,000 กรมธรรม์

“ปีแรกที่เข้ามาทำด้านประกัน มียอดเบี้ยประมาณ 20 ล้านบาท ในปีนี้ยอดน่าจะอยู่ที่ประมาณ 400 ล้าน นั่นแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่ดี แม้การมาทำในส่วนนี้อาจจะไม่ใช่ส่วนที่สร้างผลกำไรอะไรมากมายให้บริษัท แต่เรามองว่ามันดีสำหรับลูกค้า ป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ช่วยยกระดับชีวิตของเขาขึ้นมาได้”

20160711-nguen-04

โดยการทำงานที่ผ่านมาก็มีกรณีตัวอย่างหลายรายที่ทางเงินติดล้อได้เข้าไปช่วยให้ชีวิตและธุรกิจของพวกเขาเหล่านั้นได้หมุนและดำเนินต่อไป

“มีลูกค้ารายหนึ่งชื่อป้าอ้วน ขายหอยทอดที่ตลาดศิริราช ได้มาออกรายการตลาดสดสนามเป้า ระหว่างที่ถ่ายทำรายการก็มีหนี้นอกระบบตามมาทวงถึงกองถ่าย ผู้บริหารที่ธนาคารกรุงศรีรู้เรื่องเลยส่งเรื่องต่อมาทางเราให้เข้าไปช่วยดูแลเคสนี้

ปรากฏว่าลูกค้ารายนี้มีหนี้หลักล้าน มีหลักประกันเป็นรถอยู่ 1 คัน มูลค่ารถประมาณ 3 แสนกว่าบาท เราก็ยกทีมสิบกว่าคนไปกันถึงบ้านเจ๊อ้วน สัมภาษณ์ชีวิตว่ามีที่มาที่ไปยังไงถึงได้มีหนี้สินขนาดนี้ นั่งดูที่ร้านว่าขายหอยทอดได้กี่จานต่อชั่วโมง มีคนเข้ามากินเยอะช่วงเวลาไหน ประเมินรายได้ของแก ระหว่างที่คุยก็เลยได้รู้ว่าเจ๊อ้วนอ่านหนังสือไม่ออก คนที่ช่วยในการดำเนินธุรกิจคือลูกชายกับลูกสาว

หลังจากที่ได้ประเมินข้อมูลต่างๆ แล้ว เราก็ตัดสินใจปล่อยวงเงินสินเชื่อที่ครอบคลุมจำนวนหนี้นอกระบบทั้งหมด เกินมูลค่าหลักประกันไปเยอะมาก ยืดเวลาการผ่อนชำระให้ 4-5 ปี แล้วเป็นโค้ชคอยก็ให้คำแนะนำว่าทำยังไงจึงจะบริหารจัดการธุรกิจได้ โดยคุยกับลูกของเจ๊อ้วนให้มาช่วยจัดการด้านธุรกิจและการเงิน ล่าสุดทางญี่ปุ่นมาติดต่อเพราะสนใจในธุรกิจ ลูกสาวก็โทรมาปรึกษาทางเราว่าต้องทำยังไง เราก็เลยให้ทนายของบริษัทไปแนะนำช่วยเจรจาต่อรองเงื่อนไขในสัญญา”

กรณีป้าอ้วนเป็นเพียงหนึ่งในหลายตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึง “เจตนา” ของเงินติดล้อที่มุ่งมั่นเพื่อยกระดับมาตรฐานในธุรกิจนี้ให้สูงขึ้น สิ่งที่ได้กลับมานอกจากในเรื่องของผลกำไรแล้ว ยังมี benefit ที่วัดผลเป็นตัวเลขไม่ได้ อย่างเช่นความไว้วางใจที่ส่งต่อไปยังรุ่นลูกและอีกหลายเจเนอเรชั่นในภายหน้า นั่นคือสิ่งที่เงินติดล้อมองเห็นถึงผลประโยชน์ในระยะยาว

การรีแบรนด์ในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนโลโก้ แต่คือการสร้างประสบการณ์ที่ให้ทุกคนมาสัมผัส ผ่านแต่ละสาขา ผ่านพนักงาน ผ่านการบริการในทุกๆ ด้าน ที่เงินติดล้อก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งได้ ไม่ใช่เพียงการทุ่มโฆษณาสร้างภาพลักษณ์ หรือวัดจากดอกเบี้ยผลกำไรอันมหาศาล แต่เกิดจากความเชื่อถือและไว้ใจในกลุ่มลูกค้าเมื่อมาใช้บริการ จนเกิดการบอกเล่าปากต่อปาก ทำให้เงินติดล้อ กลายเป็นที่พึ่งที่จริงใจสำหรับชาวรากหญ้าในยามขัดสนอย่างแท้จริง