“หัวเว่ย” ขอลบภาพแบรนด์จีนด้วย Partnership Marketing

เป็นอีกปีที่ตลาดสมาร์ทโฟนยังคงมีอะไรใหม่ๆ ให้เห็นอยู่ตลอด ท่ามกลางการแข่งขันที่ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง นอกจากสังเวียนของ 2 แบรนด์ใหญ่แอปเปิลและซัมซุง ที่ยังคงแลกหมัดกันเป็นประจำแล้ว ในสังเวียนของแบรนด์รองก็ได้เห็นตลอดทั้งปีเช่นกัน

หัวเว่ยเป็นอีกแบรนด์ในกลุ่มแบรนด์รองได้บุกตลาดอย่างหนักเมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมสร้างความฮือฮาด้วยการเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์กล้องระดับโลกอย่างไลก้าในการมาเสริมกล้องถ่ายรูปของหัวเว่ยในรุ่น Huawei P9 และ P9 Plus ที่ได้เปิดตัวเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา

ด้วยแบรนด์ไลก้าที่ได้เข้ามาเสริมให้หัวเว่ยแข็งแรงขึ้น พร้อมกับนวัตกรรมกล้องคู่ที่ในตลาดยังไม่เคยมี ส่งผลให้ Huawei P9 และ P9 Plus ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทยนับตั้งแต่ทำตลาดมา มียอดขายเติบโตขึ้น 200% และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 3 เท่า

ทำให้หัวเว่ยเห็นแนวทางของตัวเองชัดเจนว่าเดินมาถูกทางแล้ว โดยการใช้ Partnership Marketing ที่เป็นแบรนด์ระดับโลกมาเป็นทางลัดในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักรวดเร็วยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาหัวเว่ยได้มีพาร์ตเนอร์มากมาย ได้แก่ Google, harman/kardon, intel, Microsoft, Audi, Swarovski, Porsche และ Leica ความร่วมมือเป็นทั้งในเรื่องของการพัฒนาระบบและพัฒนาตัวสินค้าร่วมกัน

การใช้กลยุทธ์นี้ เป็นหนึ่งในกระบวนการสร้างแบรนด์ของหัวเว่ย ที่มีจุดเริ่มต้นจากสัญชาติของแบรนด์ก็คือแบรนด์จากประเทศจีนนั่นก็เลยกลายเป็นความท้าทายอย่างแรก เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าการรับรู้ต่อแบรนด์จีนไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หัวเว่ยจึงต้องการสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค จึงเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์ระดับโลกเพื่อลบภาพแบรนด์จีน สร้างการรับรู้ว่าเป็นแบรนด์ที่มีนวัตกรรม

1_huawei
ทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย

ทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า “การบ้านหลักของหัวเว่ยในตอนนี้ยังคงเป็นในเรื่องของการสร้างการรับรู้ ให้คนไทยรู้จักแบรนด์หัวเว่ยมากขึ้น และให้คนไทยเปิดรับกับแบรนด์จีน การใช้กลยุทธ์ Partnership Marketing ด้วยการเอานวัตกรรมไปเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์ระดับโลกเป็นทางลัดในการช่วยสร้างแบรนด์ให้หัวเว่ย ในปีที่ผ่านมานี้ถือว่าเป็นปีทองของหัวเว่ยที่มีการเติบโตสูง เรียกว่าเป็นปีแห่งการสร้างฐานก่อน ตั้งเป้าที่จะเติบโตอย่างสปริงบอร์ดในปีต่อๆ ไป และอาจจะมีโลคอล พาร์ตเนอร์ในประเทศไทยในอนาคต”

จากการเป็นพาร์ตเนอร์กับไลก้าในปีที่ผ่านมา ทศพรได้เผยเลยว่า Huawei P9 Series เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่พลิกสถานการณ์ของหัวเว่ยในประเทศไทยในปีที่ผ่านมา มียอดขายสูงสุดตั้งแต่ที่ทำตลาดในไทย ทำให้ทางสำนักงานใหญ่เห็นถึงศักยภาพในตลาดไทยจึงเปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล Mate 9 Series ที่จะจำหน่ายในช่วงกลางเดือนมกราคมในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บุกตลาดพรีเมียม หวังสะเทือนถึงตลาดกลาง

หัวเว่ยได้ปรับโพสิชั่นมาสักพักใหญ่แล้วในการที่บุกตลาดสมาร์โฟนระดับพรีเมียมแมส หรือระดับราคา 15,000 ขึ้นไป เพราะด้วยการแข่งขันในตลาดกลางและล่างสูงมาก และการทำตลาดพรีเมียมก็ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดีขึ้นด้วย

huawei

ในปีที่ผ่านมาหัวเว่ยได้ออกสมาร์ทโฟน Huawei P9 Series ที่เป็นระดับพรีเมียมมาแล้ว พร้อมกับดึงไลก้าเป็นพาร์ตเนอร์ สร้างความฮือฮาอยู่เหมือนกัน สิ้นปีนี้หัวเว่ยได้ทิ้งท้ายด้วยการส่งสมาร์ทโฟนทั้งระดับพรีเมียม และระดับกลางเพื่อเป็นการจับทุกเซ็กเมนต์กับ 4 รุ่นรวด ได้แก่ Huawei Mate 9, Huawei Mate 9 Pro เป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม Huawei GR5 2017 สมาร์ทโฟนระดับกลางที่มาพร้อมกล้องคู่ และ PORSCHE Design Huawei Mate 9 สมาร์ทโฟนรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่เป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์พอร์ชดีไซน์

นัยสำคัญของการบุกตลาดพรีเมียมมากขึ้นก็เพื่อต้องการให้เป็นแรงกระเพื่อมไปถึงตลาดกลาง เพราะตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยตลาดใหญ่ที่สุดยังคงเป็นตลาดระดับกลางที่มีราคาราว 5,000-15,000 บาท

word_icon

การบุกตลาดพรีเมียมมากขึ้นเป็นในเรื่องของการสร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้ แต่จริงๆ แล้วต้องการให้ตลาดพรีเมียมสร้าง Halo Effect กับตลาดอื่น พูดง่ายๆ ก็คือบุกตลาดด้วยพรีเมียม แต่จริงๆ ใช้ตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางเป็นตัวรบที่แท้จริง เพราะตลาดในไทยยังคงสู้รบกันที่ตลาดกลางอยู่ จึงต้องสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคเปิดใจก่อน

word_icon2

Huawei GR5 2017 เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางตัวล่าสุดที่หัวเว่ยได้เปิดตัว ครั้งนี้ได้ใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นผู้หญิงมิว นิษฐา จิรยั่งยืนทศพรได้เล่าว่า เพราะจากการสำรวจผู้ใช้หัวเว่ยแล้วพบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ชายราว 60% จึงต้องการขยายฐานไปกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น และด้วยตัวมิวเองเป็นนักแสดงที่เป็น Rising Star ที่แจ้งเกิดและเป็นดาวรุ่ง ที่มีลักษณะคล้ายกับหัวเว่ยที่กำลังเติบโต