AdPocket อาวุธลับนักการตลาดยุค Mobile First โฆษณาบนหน้าจอล็อคสกรีนมือถือ ที่พร้อมดันให้ทุกแคมเปญปังขึ้นกว่าเดิม!

เบื่อโฆษณา”, “รำคาญ ad”

นี่คือความรู้สึกส่วนใหญ่ของคนที่กำลังดูยูทูบ อ่านเว็บไซต์อยู่เพลินๆ แล้วจู่ๆ มีโฆษณาที่ไม่น่าสนใจเข้ามาคั่น ขัดจังหวะการเสพสื่อของนักท่องโลกโซเชียลให้ต้องหยุดชะงัก นอกจากจะสร้างความหงุดหงิดให้เกิดขึ้นในใจแล้ว บางครั้งโฆษณาที่ดูผิดที่ผิดทางเหล่านี้ อาจส่งผลให้คนที่พบเห็นเกิดทัศนคติไม่ดีต่อแบรนด์สินค้าเหล่านั้นได้เลย

AdPocket คือ แอปพลิเคชั่นเปลี่ยนหน้าจอล็อคมือถือให้กลายเป็นโฆษณา ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ของการรับชมโฆษณาให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น โดย AdPocket จะเป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างนักโฆษณากับกลุ่มเป้าหมายให้ได้รับความพึงพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ทุกครั้งที่เปิดใช้งานมือถือ จะมีตัวแบนเนอร์ขึ้นมาให้เลือกรับชมได้ตามความสนใจ User สามารถปลดล็อคหน้าจอโดยสไลด์ไปทางขวาเพื่อใช้งานตามปกติ หรือเลื่อนสไลด์ไปทางด้านซ้ายเพื่อรับชมรายละเอียดของตัวโฆษณา พร้อมรับแต้มสะสม ซึ่งแต้มสะสมสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดไปซื้อของใน 7-11 จ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟ ซื้อสติกเกอร์ไลน์ หรือใช้แต้มแลกซื้อของใน AdPocket shop เองก็ได้อลิศรา ดำรงค์พานิช Mobile Marketing Director ของ AdPocket บอกเล่าถึงหลักการทำงานของแอปพลิเคชั่นแบบง่ายๆ

จุดเริ่มต้นของแอปพลิเคชั่นนี้มาจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นการนำเสนอดิจิตอลมีเดียรูปแบบใหม่ในรูปแบบของโมบายแอปพลิเคชั่น ทางเราจึงเดินหน้านำแพลตฟอร์มนี้เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยเป็นประเทศที่สองต่อจากเกาหลีใต้

ในประเทศเกาหลีใต้ ตลอดเวลา 2 ปีตั้งแต่เริ่ม launch แอปพลิเคชั่นนี้ นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก คนเกาหลีใช้แอปนี้กว่า 20 ล้านคน จากจำนวนประชากรกว่า 50 ล้านคน ถือเป็นแพลตฟอร์มหลักในการลงโฆษณาบนมือถือของที่นั่น ขณะที่ประเทศไทยก่อนจะมี AdPocket เวลาจะลงโฆษณาทางออนไลน์ก็มักจะนึกถึงเพียงแค่ไม่กี่ช่องทางอย่างเช่น facebook, google, line ฯลฯ แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จักหรือให้ความสำคัญในการลงโฆษณาผ่านทางหน้าจอล็อคสกรีนทั้งๆ ที่ตลาดการโฆษณาบนมือถือนั้นใหญ่มาก คนไทยในวันนี้ใช้มือถือเยอะกว่าดูโทรทัศน์เยอะกว่าการอ่านนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ ทุกวันนี้มือถือกลายเป็นปัจจัยที่คนไทยขาดไม่ได้

คุณอลิศราเปิดเผยว่าการที่เรานำ AdPocket เข้ามานั่นเพราะเราเห็นว่า การโฆษณาผ่านทางหน้าจอล็อคสกรีนนี้ จะเป็นอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่ช่วยให้นักการตลาดวางแผนการลงสื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการลงโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์อื่นๆ ซึ่งหลังจากหนึ่งปีที่เราได้เริ่มแนะนำให้คนทั่วไปได้รู้จัก AdPocket มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด จำนวน User คนไทยที่ใช้งานเป็นประจำในตอนนี้ มีจำนวนกว่า 2 ล้าน User เพราะได้รับปัจจัยบวกจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้งานมือถือกันเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวัน อีกทั้งการใช้งาน AdPocket ก็ไม่ได้รบกวนการใช้งานของ User เพราะโฆษณาไม่ได้ขึ้นมาแทรกในระหว่างที่ผู้ใช้งานกำลังเสพสื่อ

และที่สำคัญคอนเทนต์ที่โชว์บนหน้าจอล็อคสกรีนนั้นก็ไม่ได้มีแค่แบนเนอร์โฆษณาแต่เพียงอย่างเดียว เรายังมีคอนเทนต์ที่น่าสนใจจาก Ookbee comic, Online station, Ladyissue, Spice, Pepper, ข่าวจาก INN, วิดีโอคลิปเทคนิคต่างๆ จาก C Channel ฯลฯ ซึ่งเราได้พัฒนาเนื้อหาเหล่านี้ เพราะเราคำนึงถึง User Experience เป็นสิ่งสำคัญ พอใช้งาน AdPocket แล้วไม่เบื่อ เกิดความรู้สึกที่ดี ก็นับเป็นประสบการณ์ที่ดีนั่นเอง

นอกจากนี้ AdPocket ยังสามารถเจาะการแสดงโฆษณานี้ได้ตรงตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้สามารถเลือกยิงโฆษณาไปยังกลุ่ม Target ได้ตาม เพศ, อายุ, เครือข่ายมือถือ เอไอเอส ดีแทค ทรู ฯลฯ ระบบปฏิบัติการณ์ แอนดรอยด์ (ระบุเวอร์ชั่นได้) พื้นที่ กรุงเทพฯปริมณฑล ต่างจังหวัด วันเวลา และตามความสนใจ ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดสามารถเลือกยิงโฆษณาได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายและตอบสนองวัตถุประสงค์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดเด่นของ Lock Screen Ad

  • High Reach หน้าจอล็อคสกรีนถือเป็นจุดแรกที่ User จะต้องเห็นก่อนจะทำการปลดล็อคหน้าจอ จึงทำให้มั่นใจได้เลยว่ากลุ่มเป้าหมายจะไม่พลาดแบนเนอร์โฆษณาแน่นอน
  • Low Aversion การต่อต้าน หรือไม่ชอบโฆษณาค่อนข้างต่ำ อาจจะมี User ที่ไม่ชอบโฆษณาบนหน้าจอล็อคสกรีนอยู่บ้าง แต่ User กลุ่มนี้ก็จะไม่ลง App นี้ตั้งแต่ต้นแล้ว
  • Full Engagement แบนเนอร์จะแสดงเต็มหน้าจอมือถือ = 100% Viewability
  • Massive Display จำนวนการปลดล็อคหน้าจอโดยเฉลี่ยต่อ 1 User คือ 47 ครั้งต่อวัน ทำให้แสดงโฆษณาได้บ่อยครั้ง

จากจุดเด่นดังกล่าวของทาง Lock Screen Ad ช่วยให้นักการตลาดวางแผนกลยุทธ์ในแต่ละแคมเปญได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ตัวอย่างเช่น

1.Quick Awareness ช่วยเพิ่มการรับรู้ให้แก่แบรนด์ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพิ่มยอดวิวคลิปวิดีโอให้กลายเป็นไวรัล เพิ่มยอดไลค์ให้เฟซบุ๊กเพจ ฯลฯ

2.Play Store Chart Boosting เพิ่มจำนวนยอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นในเพลย์สโตร์ มากกว่า 20,000 ครั้งต่อวัน จนสามารถขึ้นอันดับหนึ่ง Top App ในหลาย Category

3.Easy Engagement ผู้ใช้งาน AdPocket เพียงแค่สไลด์ไปทางด้านซ้ายก็สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมกับแคมเปญที่ทางแบรนด์ได้สร้างสรรค์ขึ้น โดยจำนวน CTR อยู่ที่ 10% ถือว่าเป็นยอดที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยการลงโฆษณาผ่านทางออนไลน์ทั่วไปถึง 100% เลยทีเดียว

4.Drive Direct Sale or Coupon แต้มที่สะสมไว้ของ User ที่ใช้งาน AdPocket มีเฉลี่ยอยู่ที่ 100 บาทต่อ User จากจำนวนการติดตั้งแอปพลิเคชั่นกว่า 2 ล้านคน นั่นเท่ากับว่ามีเงินที่พร้อมจะใช้จ่ายภายในแอป กว่า 200 ล้านบาท สินค้าที่ต้องการเพิ่มยอดขายสามารถนำมาวางใน AdPocket Store ได้

ตัวอย่างเหล่านี้เป็นเพียงแนวทางของการวางแผนลงโฆษณาผ่านทางล็อคสกรีน เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปตามกลยุทธ์ทางการตลาด ทาง AdPocket  มีทีมงานที่คอยแนะนำการลงโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย มีหลายครั้งที่กลุ่มลูกค้าออกแคมเปญมาแล้วมียอด Engagement น้อย แล้วตัดสินใจหันมาลงโฆษณาหน้าจอล็อคสกรีน ก็เห็นผลตอบรับที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน จนต้องกลับมาลงโฆษณาซ้ำ จึงถือได้ว่า AdPocket นั้นเป็นอาวุธลับ ที่นักการตลาดจะขาดไม่ได้ในยุค Mobile First ที่ผู้บริโภคพกพาสมาร์ทโฟนติดตัวไว้ตลอดเวลา

AdPocket มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดกว่า 2,200,000 ราย โดยมีสถิติที่สำคัญได้แก่ กลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็น ผู้ชายที่ 53.5% กลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่มีช่วงอายุ 15-19 ที่ 37% และช่วงอายุ 20-25 ที่ประมาณ 36% ในส่วนของความสนใจหลักของผู้ใช้ ได้แก่ เกมส์ 62%, ไอที 50%, การเงิน 44%, ช้อปปิ้งและเอนเตอร์เทนเมนต์ 42% และ กีฬา 39% ซึ่งผู้ใช้แต่ละคนมีความสนใจได้หลายอย่าง

ในส่วนของพฤติกรรมการปลดล็อคมือถือ โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยจะหยิบมือถือขึ้นมาปลดล็อคเพื่อใช้งาน เฉลี่ยถึงวันละ 47 ครั้ง โดยผู้ชายจะมีพฤติกรรมปลดล็อคมากกว่าผู้หญิง โดยผู้ชายจะปลดล็อคเฉลี่ยวันละ 48 ครั้ง และผู้หญิงเฉลี่ยวันละ 46 ครั้ง ช่วงอายุที่มีการหยิบมือถือขึ้นมาปลดล็อคบ่อยครั้งที่สุด คือ 20-25 ปี โดยเฉลี่ยถึงวันละ 53 ครั้ง โดยคนกรุงเทพฯ มีการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อคใช้งานสูงสุดถึงวันละ 55 ครั้งต่อวัน

นอกจากนี้ Adpocket  ยังพบว่าโฆษณาบนหน้าจอมือถือมีประสิทธิภาพสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมี CTR (Click Through Rate) สูงถึง 5-10% สูงกว่าโฆษณาประเภท Display Banner ทั่วไปถึง 50 เท่า โดยอาจจะด้วยเพราะ เป็นโฆษณาที่ปรากฏขึ้นในหน้าจอแรกของมือถือ ซึ่งผู้ใช้งานจะพบเห็นโฆษณาในความถี่ที่ค่อนข้างบ่อย โดยในด้านของปริมาณการใช้งานนั้น มีการแสดงโฆษณาบนจอมือถือถึงกว่า 300 ล้านวิวต่อเดือน

เฟซบุ๊กเพจ https://www.facebook.com/AdPocketapp
หน้า Website www.AdPocket.in.th