ดีเคเอสเอชผลักดันการเติบโตของสก็อตในประเทศลาว

ดีเคเอสเอช ผู้นำในการให้บริการด้านการขยายตลาดที่มุ่งเน้นภูมิภาคเอเชีย ได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัทสก็อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ให้ดำเนินการผลักดันให้เกิดการเติบโตในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศลาว การร่วมมือกันครั้งนี้เป็นการพัฒนาความร่วมมือของทั้งไทยและเมียนมาร์

หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค ดีเคเอสเอช ประเทศไทย พันธมิตรแถวหน้าของบริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้แล้วหมดไป ซึ่งกำลังหาทางขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย เป็นผู้ทำการตลาด ขาย และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทุกตัวของสก็อตแต่เพียงผู้เดียวในประเทศลาว ทั้งในร้านค้าปลีกแบบเดิมและร้านค้าปลีกสมัยใหม่

สก็อต รังนกแท้ สก็อต ซุปไก่สกัด สก็อต คอลลาเจน รวมทั้งสก็อต เพียวเร่ น้ำเบอร์รี่สกัดเข้มข้น และน้ำพรุนสกัดเข้มข้นผสมวิตามิน มีความหมายเดียวกับวิถีชีวิตแบบมีสุขภาพดีเมื่อต้นปีที่ผ่านมา สก็อตได้มอบให้ดีเคเอสเอชดำเนินกิจกรรมทางการตลาด การขาย และการจัดจำหน่าย ให้แก่แบรนด์และผลิตภัณฑ์ทุกตัวของสก็อตในตลาดในประเทศไทย นอกจากนี้ เมื่อสองปีที่แล้ว ดีเคเอสเอชได้นำผลิตภัณฑ์สก็อตเข้าสู่ในเมียนมาร์ได้เป็นผลสำเร็จ

“การพัฒนาความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับดีเคเอสเอชถือเป็นศักราชใหม่ของเรื่องราวการเติบโตของเราที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อสามทศวรรษที่แล้ว ด้วยการที่มีเครือข่ายการกระจายสินค้าแบบครอบคลุมทั่วถึงของดีเคเอสเอชและพนักงานขายที่มากความสามารถจะช่วยพัฒนาเรื่องการวางจำหน่ายและการปรากฏตัวที่เด่นชัดของสินค้าของเราในประเทศลาว เราจึงอาศัยความชำนาญเชิงลึกในด้านการตลาดของดีเคเอสเอช โดยที่เราได้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกับคู่ค้าที่มีการเติบโตในหลาย ๆ ตลาด” ชลธิชา ชวาลเวชกุล ผู้จัดการโรงงาน บริษัท สก็อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด

นายขวัญชัย อัสนี รองประธานกรรมการบริหาร หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค ดีเคเอสเอช กัมพูชาและลาว กล่าวว่า “การที่กลุ่มชนชั้นกลางมีความตื่นตัวด้านสุขภาพมากขึ้น ตลาดอาหารเสริมจึงขยายตัวทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเวลา 15 มาแล้วที่เราอยู่ในลาวและมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับผู้ค้าปลีกเพื่อผลักดันการเติบโตของสก็อต ในขณะเดียวกัน ความร่วมมือที่พัฒนาขึ้นกับสก็อตก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าดีเคเอสเอชสามารถช่วยให้แบรนด์เอเชียคุณภาพสูงเติบโตในตลาดบ้านเกิดและตลาดอื่น ๆ ได้อย่างไร”

เกี่ยวกับสก็อต

บริษัท สก็อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2526 ในประเทศไทย สก็อตได้สร้างสรรค์และผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีคุณภาพภายใต้นโยบายการประกันคุณภาพที่เข้มงวดของบริษัท เพื่อตอบสนองผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าและให้ประโยชน์สูงสุด ภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘สก็อต’ สก็อตมีผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ 4 กลุ่ม ได้แก่ สก็อต รังนกแท้ สก็อต ซุปไก่สกัด สก็อต คอลลาเจน รวมทั้งสก็อต เพียวเร่ น้ำเบอร์รี่สกัดเข้มข้น และน้ำพรุนสกัดเข้มข้นผสมวิตามิน บริษัทสก็อตได้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในประเทศผ่านทางร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์สโตร์ และร้านสะดวกซื้อในประเทศ ในปัจจุบัน สก็อตขยายเป้าหมายไปสู่ตลาดต่างประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและความต้องการของผู้บริโภค  สก็อตมีมาตรฐานการผลิตและการรับประกันการรับรองในด้านการผลิตและยอดขายทั่วโลก สก็อตเติบโตอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง ในปัจจุบัน สก็อตกลายเป็นหนึ่งในบริษัทเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพชั้นนำของประเทศไทย

เกี่ยวกับดีเคเอสเอช

ดีเคเอสเอช เป็นผู้นำด้านการให้บริการด้านการขยายตลาด ซึ่งมุ่งเน้นในภูมิภาคเอเชีย ดังคำนิยามที่ว่า “บริการด้านการขยายตลาด” ดีเคเอสเอช ช่วยบริษัทและแบรนด์ต่างๆ สามารถขยายธุรกิจได้ในตลาดใหม่หรือในตลาดที่มีอยู่เดิม บริษัทได้จดทะเบียนใน SIX Swiss Exchange ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2555 เป็นบริษัทระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองซูริค พร้อมทั้งมีสำนักงานสาขา 780 แห่งใน 36 ประเทศ โดย 750 แห่งอยู่ในเอเชีย มีพนักงานผู้เชี่ยวชาญจำนวน 30,320 คน ดีเคเอสเอชมียอดขายสุทธิในปี 2560 จำนวน 1.05 หมื่นล้านฟรังก์สวิส ดีเคเอสเอช ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2408 ด้วยการสืบทอดวัฒนธรรมอันแข็งแกร่งแบบสวิส บริษัทมีประวัติอันยาวนานในการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียและหยั่งรากลึกในชุมชนและธุรกิจทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค ดีเคเอสเอช เป็นผู้นำในการให้บริการด้านการขยายตลาดที่มุ่งเน้นสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้แล้วหมดไป การบริการด้านอาหาร สินค้าฟุ่มเฟือย สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ตลอดจนเครื่องสำอางสำหรับผมและผิว บริการด้านการขยายตลาดแบบครบวงจรของหน่วยธุรกิจฯ ครอบคลุมตั้งแต่การศึกษาความเป็นไปได้ของสินค้าและการจดทะเบียนเพื่อนำเข้า พิธีการทางศุลกากร การตลาด การขายสินค้า การขาย คลังสินค้า การกระจายสินค้าแบบครอบคลุมทั่วถึง การออกใบแจ้งหนี้ การเก็บเงินสด และการบริการหลังการขาย ด้วยสำนักงานกว่า 720 แห่งใน 20 ประเทศ และพนักงานผู้ชำนาญการราว 16,370 คน หน่วยธุรกิจฯ ให้บริการร้านค้าปลีกถึง 310,000 แห่งในแต่ละวัน และสร้างยอดขายสุทธิ 3.8 พันล้านฟรังซ์สวิสในปี พ.ศ. 2559