2 วันเอาไม่อยู่ “ช่องวัน” ยิงยาวละครมาราธอนเรื่องเดียว 4 วันรวด

เมื่อ “ละคร” ยังคงเป็นแม่เหล็กสำคัญ “ช่องวัน” จึงต้องพลิกกลยุทธ์ หาสูตรออนแอร์ละครล็อตใหม่ มาใช้เพื่อช่วงชิงเรตติ้ง 

จากปกติที่แต่ละช่องจะส่งละครออนแอร์เรื่องละ 2 วัน เฉลี่ย 3 เรื่องต่อสัปดาห์ ช่องวัน ตัดสินใจยกเครื่องผังใหม่ ออนแอร์ละครเรื่องเดียว 4 วันรวด หวังดึงตรึงคนดูให้อยู่หมัด เพราะเวลานี้มีคู่แข่งมีทั้งละคร ซีรีส์ฝรั่ง อินเดีย เบียดกันหนัก

ละครในผังใหม่ เริ่มด้วยละคร ชายไม่จริง หญิงแท้ ที่นำแสดงโดย เต๋อ ฉันทวิชช์ และใหม่ ดาวิกา ในวันจันทร์ถึงพฤหัส เริ่ม 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และต่อด้วยละครดราม่า “ล่า” ที่ได้ ”หมิว“ ลลิตา ปัญโญภาส เป็นนักแสดงนำ ออกอากาศสองวัน จันทร์ อังคาร ต่อจาก ชายไม่จริง หญิงแท้

นับเป็นการฉีกรูปแบบการวางละครไทยในช่วงไพรม์ไทม์ เพื่อสร้างความแตกต่างจากช่องผู้นำอย่างช่อง 7 และช่อง 3 ที่ส่งละครสามเรื่องในหนึ่งสัปดาห์ ในชุดวันจันทร์-อังคาร, พุธ-พฤหัส และ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ แต่ก็ชนกับซีรี่ส์อินเดียที่มาแรงของช่อง 8 “หนุมาน สงครามมหาเทพ” แบบจังๆ ในช่วงเวลาเดียวกันสี่วันรวดเหมือนกัน เพียงแต่ซีรี่ส์อินเดียแบ่งเป็นสองช่วง ก่อนข่าวและหลังข่าว

บอย “ถกลเกียรติ วีรวรรณ” บิ๊กบอสช่องวัน บอกว่า การออนแอร์ละครช่วงไพรม์ไทม์ 4 วันรวดเป็นรูปแบบเดิมที่เคยทำมาแล้วสมัยที่ยังเป็นเอ็กแซ็กท์ ผลิตละครให้ช่อง 5 และเชื่อว่ารูปแบบนี้น่าจะเหมาะกับช่อง ทำให้คนดูละครเรื่องหนึ่งได้ยาวทั้งสัปดาห์ และมีผลดีต่อเรตติ้งด้วย

โดยมองว่าการวางละครยาว จะทำให้คนดูเต็มอิ่มกับละครเรื่องเดียว เหมือนกับที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กับโปรเจกต์ “ละครมาราธอน” ดูละครวันเดียวจบตั้งแต่เรื่องบังลังก์เมฆ, พิษสวาท, ราชินีหมอลำ และ แต่ปางก่อน โดยเฉพาะบัลลังก์เมฆ ได้เรตติ้งสูงถึง 3.7 เป็นละครรีรันที่ได้เรตติ้งสูงกว่าการออกอากาศสดเลยทีเดียว

“เตรียมงานมานานแล้ว แต่เพิ่งมาพร้อมและลงตัวในครั้งนี้ และเมื่อมีช่วงละครมาราธอนมาก่อนหน้าด้วย ทำให้เรามั่นใจในรูปแบบนี้” บอย-ถกลเกียรติ บอก

ทำไมถึงต้อง ละคร ”ชายไม่จริง หญิงแท้” ในผังใหม่แบบยิงยาว 4 วัน แหล่งข่าวในวงการละครบอกว่า ละครเรื่องนี้ ใช้นักแสดงระดับแม่เหล็ก คือ เต๋อ ฉันทวิชช์ และใหม่ ดาวิกา ที่เคยเล่นภาพยนตร์เป็นหลัก เล่นละครไม่กี่เรื่อง แต่ทุกเรื่องที่เล่นล้วนแต่ปัง เช่น ผู้กองยอดรัก ที่เคยเล่นให้กับช่องสามเมื่อปี 2558 และเล่นบางตอนให้กับ ”ไดอารี่ ตุ๊ดซี่ส์ เดอะซีรี่ส์” ของช่องวันเมื่อปีที่แล้ว ส่วนใหม่ ดาวิกา ถือว่าเป็นนักแสดงอิสระที่เล่นให้กับช่องวันเป็นครั้งแรก ในบทกระเทย

อีกทั้งยังได้กระแสส่งความฮอตต่อเนื่องจาก ละคร ”เธอคือพรหมลิขิต” แสดงโดยบี้ สุกฤษฎิ์ และ เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา เป็นละครที่ซื้อลิขสิทธิ์จากไต้หวัน ที่จบไปด้วยเรตติ้งสูงถึง 4.4  ทำให้เรตติ้งทั้งเรื่องเฉลี่ยอยู่ที่ 3.0

ถ้าดูเรตติ้งละคร “ชายไม่จริง หญิงแท้” ช่วง 3 วันแรก (28-30 พฤศจิกายน) เรตติ้งก็ดีตามคาด เปิดตัววันแรกด้วยเรตติ้ง 2.227, 2.731 และ 2.336 อยู่ในอันดับห้าของเรตติ้งสูงสุดประจำวันช่วงไพรม์ไทม์ของทีวีทุกช่องในรายการประเภทละครและวาไรตี้ นับว่าเป็นเรตติ้งละครที่เปิดได้สูงที่สุดของละครช่องวันในช่วงครึ่งปีหลังด้วย

ส่วนสถิติละครช่องวันที่เปิดได้เรตติ้งสูงสุดของปีนี้คือ “ราชินีหมอลำ” ออกอากาศต้นปี ด้วยเรตติ้ง 2.80 จบด้วย 4.60 เฉลี่ย 3.30

นอกจากนี้ ยังส่งผลให้เรตติ้งรวมของช่องวันในเดือนตุลาคม ทะยานขึ้นอันดับสาม ชนะทั้งเวิร์คพอยท์ ช่องโมโน และช่อง 8 อีกด้วย

สำหรับเรตติ้งรวมของช่องวัน ถือว่าอยู่ในอันดับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเรตติ้งของเดือนพฤศจิกายน ช่องวันอยู่ในอันดับหก เรตติ้งอยู่ที่ 0.611 ตามจี้ติดช่อง 8 ที่ได้ไป 0.66 โดยที่อันดับ1-4 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คือช่อง 7 ช่อง 3 ช่องเวิร์คพอยท์ และโมโน โดยที่สี่ช่องใหม่ทั้งหมดนี้บี้ติดกันมาแบบเรียกว่าหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว

ที่ผ่านมาเรตติ้งของช่องวัน จะเบียดมาคู่กับช่อง 8 โดยตลอด โดยเมื่อปี  2559 ช่องวันยังมีเรตติ้งสูงกว่าช่อง 8 จนในเดือนเมษายน โดนช่อง 8 ทำเรตติ้งแซงหน้า เป็นผลพวงจากรายการข่าว และซีรีส์อินเดีย

บอยถกลเกียรติ บอกว่า จุดที่ทำให้เรตติ้งช่องวันตามหลังช่อง 8 คือรายการข่าว ช่องวันเองก็กำลังพัฒนารายการข่าวของช่องให้ดีขึ้น

ส่วนซีรีส์อินเดียนั้น ไม่นำมาฉายแน่ เพราะไม่ตรงกับบุคลิกของช่อง และไม่ใช่แนวถนัด แต่จะไปมุ่งเน้นพัฒนารายการประเภทวาไรตี้ที่ถือว่าเป็นอีกจุดแข็งหนึ่งของช่องแทน

บอย-ถกลเกียรติ บอกว่า ละครยังเป็นไฮไลต์ของช่อง ส่วนใหญ่เป็นละครที่ผลิตขึ้นเอง มีบ้างที่ซื้อลิขสิทธิ์ต่างประเทศมาทำ แต่การซื้อลิขสิทธิ์ละครจากต่างประเทศ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องประสบความสำเร็จเสมอไป ต้องเลือกเรื่องที่เหมาะ เข้ากับคนดูละครของไทยได้ เพราะมีบางเรื่องที่ซื้อมาทำ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

หากย้อนไปดูก่อนก่อนนี้ ช่องวันซื้อลิขสิทธิ์ละครต่างประเทศมาทำไปแล้วสามเรื่องคือ The OC Thailand หรือ กรุงเทพมหานครซ้อนรัก เป็นซีรีส์จากอเมริกา , Sorry I love you หรือ ขอโทษที่รักเธอ ลิขสิทธิ์จาเกาหลี และ A Love to Kill หรือ รักซ่อนแค้น จากเกาหลีเช่นกัน ซึ่งทั้งสามเรื่องออกอากาศไปแล้ว แต่ไม่เปรี้ยงเท่าที่ควร.