กำลังซื้อดิ่ง “เทสโก้ โลตัส” เทงบ 520 ล้าน ส่ง “โรลแบ็ค” บิ๊กแคมเปญ “ลดราคา” พันรายการ ลง 1,900 สาขาทุกไซส์

แม้จะมีการประเมินว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไทย ช่วงต้นปีกำลังเริ่ม “ฟื้นตัว” แต่ผลการสำรวจพฤติกรรมความต้องการเชิงลึก (Insight) ของผู้บริโภค ที่ “เทสโก้ โลตัส” โมเดิร์นเทรดยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยสอบถามกับลูกค้า 1,000 คน ในช่วงมกราคมที่ผ่านมา สะท้อนถึง “ความกังวลใจ” ต่อการจับจ่ายใช้สอยอย่างมาก

โดยผู้บริโภค 58% มีความพะวงต่อภาวะราคาสินค้าแพง ตามด้วย 51% กลัวค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนจะขยับขึ้น และ 47% กังวลเรื่องหนี้สินที่มีจะกระทบการใช้จ่าย

ความกังวลของผู้บริโภคชาวไทย

ยิ่งเมื่อรวมกับข้อมูลของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค” เดือนกุมภาพันธ์กลับ “ดิ่งลง” เป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน

สัญญาณลบแบบนี้ เทสโก้ โลตัส ต้องเข็นแคมเปญใหญ่ “โรลแบ็ค” ออกมา เพื่อดึงกำลังซื้อเข้าห้างให้เร็วขึ้น จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.-15 มิ.ย.61

เแคมเปญ “โรลแบ็ค” ถือเป็นหมัดเด็ดด้าน “ราคา” ที่ผู้บริโภคจดจำได้เป็นอย่างดี เมื่อค่ายค้าปลีกห้ำหั่นด้วยราคา (Red Ocean) เมื่อไหร่ เทสโก้ฯ จะเป็นแบรนด์ลำดับต้น ๆ ที่คนนึกถึง เพราะโรลแบ็คเป็นแคมเปญที่จัดต่อเนื่องมา 15 ปี เริ่มในปี 2546

ด้วยการทุ่มงบก้อนโต 520 ล้านบาท มากสุดรอบ 15 ปี เพื่อเป็นส่วนลดสินค้ากว่า 1,000 รายการ ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.-15 มิ.ย.61 ซึ่งช่วงดังกล่าวผู้บริโภคค่อนข้าง “ระมัดระวังการใช้จ่าย” เพราะผ่านพ้นตรุษจีนที่คนใช้จ่ายเงินหนักไปแล้ว และยังเป็นรอยต่อในการประหยัดเงินเพื่อรับการเปิดเทอม จึงต้องรีบส่งแคมเปญ เพื่อดึงกำลังซื้อให้กลับมา เพราะอาจมีผลต่อการเติบโตของยอดขาย  

ปีนี้ได้ “ทุ่มงบก้อนโต 520 ล้านบาท” ใหญ่สุดรอบ 15 ปี ใช้เป็นส่วนลดสินค้ากว่า 1,000 รายการ โดยใช้พร้อมกันกว่า 1,900 สาขา มีทุกฟอร์แมตที่ร้านมีทั้งเทสโก้ โลตัส ดีพาร์ทเมนสโตร์, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, โลตัส เอ็กซ์เพรส เป็นต้น จากเดิมทำเพียงสาขาใหญ่ หรือไฮเปอร์มาร์เก็ต

ฟอร์แมตและจำนวนสาขาของห้างเทสโก้โลตัส

“เป็นครั้งแรกที่เราทำแคมเปญโรลแบ็คข้ามฟอร์แมต หลังพบพฤติกรรมผู้บริโภคของเทสโก้โลตัสกว่า 40% มีการซื้อสินค้าข้ามฟอร์แมตทั้งร้านใหญ่ ไปร้านสะดวกซื้อโลตัสเอ็กซ์เพรสของเรา รวมถึงออนไลน์ และเรามองว่าแนวโน้มการซื้อข้ามฟอร์แมตดังกล่าวจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ” มาร์ค รัฟลีย์ ประธานกรรมการฝ่ายการตลาด เทสโก้ โลตัส กล่าว

การเลือกทำแคมเปญโรแบ็คในร้านโลตัสเอ็กซ์เพรส ส่วนหนึ่งเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบันซื้อสินค้าน้อยชิ้นลง แต่เพิ่มความถี่มากขึ้น อีกทั้งร้านสะดวกซื้อยังเป็นช่องทางที่ “แบรนด์สินค้าต่าง ๆ” มัก “เล่นโปรโมชั่นลดราคา” หมุนเวียนกันตลอดทั้งปีด้วย ดังนั้น หากเทสโก้ฯ ต้องการรักษาฐานลูกค้าไว้ให้เหนียวแน่น ก็ต้องลงไปถึงฟอร์แมตร้านสะดวกซื้อ

ส่วนสินค้าหัวหอกในการลดราคา คือ “หมวดอาหารสด” ซึ่งเป็นอีกหมวดที่ “โตแรง” สำหรับเทสโก้ฯ เพราะขึ้นชื่อว่า “ของกิน” จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีก็ต้องซื้ออยู่ดี ดังนั้น การลดราคาจะช่วยเพิ่มการเติบโตให้กับสินค้าหมวดนี้ได้มากขึ้นด้วย ขณะที่ผ่านมา โรลแบ็คให้น้ำหนักการหมุนเวียนลดราคาสินค้าเบ็ดเตล็ด ข้าวสาร อาหารแห้ง (Grocery) เป็นหลัก

“เราจัดโรลแบ็คปีละ 3-4 ครั้ง มีสินค้าหมุนเวียนลดราคาตั้งแต่ 100 ไปจนมากกว่า 1,000 รายการ และการโฟกัสลดราคาอาหารสดเพิ่งเริ่มปีที่ก่อน และปีนี้เราเน้นหนักมากขึ้น จากโรลแบ็คสินค้ากว่า 1,000 รายการ เป็นอาหารสดมากกว่า 200 รายการ”

นอกจากนี้ งบลดราคายังเทไปให้การหั่นราคา “ค่าธรรมเนียม” ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ จาก 10 บาทต่อบิล เหลือ 5 บาทต่อบิลด้วย เพราะต้องยอมรับการที่ห้างค้าปลีกหันมา “เพิ่มความสะดวก” ในการจ่ายบิล เป็นหนึ่งในบริการที่ “ดึง” ลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการในห้างด้วย เรียกว่ามาซื้อของแล้ว ชำระหนี้ บิลให้เสร็จเป็น One Stop Service จุดเดียวไปเลย

หมุนเวียนลดราคาอาหารสดมากสุด และพ่วงลดค่าธรรมเนียมจ่ายบิลต่าง ๆ

การเทงบหนัก และจัดแคมเปญทั่วทุกสาขา แถมพ่วงออนไลน์ด้วย คงต้องมาดูว่าพลังของแคมเปญครั้งนี้ จะปั๊มยอดขายและบูสต์กำลังซื้อให้โตสมใจหรือไม่ ต้องติดตาม!.