โค้ก คลอด “โค้ก พลัส คอฟฟี่”  ฟีเจอริ่ง น้ำอัดลมผสมกาแฟ จับตลาดแบบยกกำลัง 2

เมื่อตลาดเครื่องดื่มมีตัวเลือกอยู่มากมาย ตลาดน้ำอัดลมต้องปรับตัวตาม ล่าสุดกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ส่งโค้กสูตรใหม่ “โค้ก พลัส คอฟฟี่” ใช้จุดขายเรื่องความสดชื่นมาผสมกับความหอมของกาแฟโรบัสต้า 

เรียกว่างานนี้ โค้กหวังยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะต้องการสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาดน้ำอัดลม พร้อมกับตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบน้ำอัดลมและกาแฟในคราวเดียวกัน เพราะคนไทยนิยมดื่มกาแฟเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งเรื่องของการลดปริมาณน้ำตาลลง 50% แคลอรีต่ำ โดยยังคงใช้สัญลักษณ์ “เครื่องดื่มทางเลือก-สุขภาพ” จากมูลนิธิส่งเสริมโภชนาการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล มาเป็นตัวการันตี

เรามั่นใจว่าจะได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีทั้งจากแฟนเครื่องดื่มโค้ก รวมไปถึงคอกาแฟอีกด้วย

คลาวเดีย นาวาร์โร ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

คลาวเดีย นาวาร์โร

กลุ่มเป้าหมายของโค้ก คอฟฟี่ พลัส ยังคงเป็นวัยรุ่น นักศึกษา วัยทำงานที่ต้องการพักเบรกจากอาการเหนื่อยล้า คลายง่วงยามบ่าย แทนที่จะดื่มกาแฟ ก็ให้หันมาดื่มโค้กผสมกาแฟแทน

กิจกรรมการตลาดจะเน้นแจกโค้ก คอฟฟี่ พลัส ในช่วงบ่าย รวมถึงปูพรมเร่งสร้างการรับรู้ ด้วยการสื่อสารทุกรูปแบบทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ด้วยภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ เสริมทัพด้วยสื่อ out-of-home สื่อ ณ จุดขาย และในร้านค้า

โดยวางขายในรูปแบบของกระป๋อง ขนาด 240 มล. ราคา 15 บาท วางจำหน่ายในร้าน ‘เซเว่น-อีเลฟเว่น’ มิถุนายนนี้ ส่วนร้านสะดวกซื้อห้างสรรพสินค้าอื่น และร้านค้าปลีกทั่วประเทศ วางขายสิงหาคมเป็นต้นไป

ปัจจจุบัน มูลค่าตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมในประเทศไทยอยู่ที่ 51,000 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทยเป็นผู้นำตลาด และมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งรวม 51%” *ข้อมูลจากการวิจัยในช่วงเวลา 3 ปี นับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2557 – 31 มกราคม 2560 ของบริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด

สำหรับโค้กผสมกาแฟ ไม่ใชเรื่องใหม่ของโค้ก เพราะเคยวางขายมาแล้วเมื่อหลายปีที่แล้วในฝั่งสหรัฐอเมริกา และยุโรป ในปีที่แล้วได้นำมาวางขายในญี่ปุ่น ใช้ชื่อ “โคคา-โคลา คอฟฟี่ พลัส โดยเน้นจุดขายลดปริมาณน้ำตาลลง 50% แคลอรีต่ำ คล้ายกับในไทย.