AIS บูมสงครามเน็ตมือถือหลังยุค 4G แค่เน็ตแรงไม่พอ จะให้ปังต้องดันเป็นแพ็กเกจ 

ถือเป็นสเต็ปที่ 2 ของเครือข่าย AIS NEXT G  หลังจากที่ AIS เปิดตัวเครือข่าย 4.5G ใช้เทคโนโลยี Massive MIMO 32T 32 R ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลก เป็นการควบรวมความเร็วระหว่างเทคโนโลยีมือถือ AIS 4G ADVANCED และ AIS SUPER WiFi เข้าด้วยกัน ทำให้ท่องเน็ตได้เร็วกว่า 4G ปกติเกือบเท่าตัว 

หลังจากเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว เอไอเอส จึงต้องเร่งขยายฐานผู้ใช้ไปยังกลุ่ม Mass โดยออกแอปพลิเคชั่น ‘NEXT G’ เป็นเครื่องมือ มุ่งไปที่เครื่องแอนดรอยด์ 15 ล้านเครื่อง ในตลาดไทยให้ใช้งาน NEXT G ได้ 

จากเดิมมีแค่สมาร์ทโฟนซัมซุง หลายรุ่นไม่ต้องดาวน์โหลด ซื้อมาก็ใช้ได้เลย แต่จากนี้ไปจะใช้ได้บนโทรศัพท์หลายรุ่น โดยทุกรุ่นที่รองรับแอนดรอยด์ 7.0 ขึ้นไปจะรองรับ NEXT G เรียกว่าครอบคลุมทุกรุ่นที่ขายอยู่ในท้องตลาดไทยขณะนี้

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส ระบุ ไม่ใช่บริการใหม่ เพราะลูกค้าที่อยู่ในแพ็กเกจนั้นไม่ต้องสมัคร พร้อมใช้อยู่แล้ว

“เราไม่ได้อธิบาย NEXT G เป็นเลขคลื่นความถี่ เพราะใช้รวมกันหลายย่าน แต่หลักๆ คือเอา 4G มารวมกับ WiFi ตอนนี้ยังรวมกับบริการไฟเบอร์เน็ตบ้านไม่ได้” 

NEXT G ถูกให้คำจำกัดความว่าเป็นเครือข่ายที่สามารถควบศักยภาพ 4G มาบวกกับ WiFi ทำให้การดาวน์โหลดเร็วขึ้น 2 เท่า ทำให้ AIS เคลมว่าเมื่อเปิดแอป NEXT G ผู้ใช้จะสามารถเพิ่มความเร็วดาต้าได้ระดับกิกะบิตรองรับการใช้งาน (Capacity) เพิ่มขึ้นจากเดิมได้อีก 5-8 เท่า (ขึ้นอยู่กับมือถือของผู้ใช้บริการ)

เป็นความมั่นใจที่เอไอเอสเชื่อว่า จะเป็นการเปลี่ยนประสบการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือของคนไทยที่ยกระดับขึ้นอีกขั้น จากเทคโนโลยีเครือข่าย NEXT G ทำให้ไทยล้ำหน้าเกินชาติอื่นในภูมิภาค โดยปัจจุบันประเทศที่ใช้เทคโนโลยีสไตล์ NEXT G มีเพียงเกาหลีใต้ ตุรกี และบางประเทศเท่านั้น เหตุที่ไม่แพร่หลายเพราะความไม่เข้ากันระหว่างเครือข่ายกับอุปกรณ์

ทำให้ AIS ต้องร่วมมือกับทั้งซัมซุง หัวเว่ย ออปโป้ วีโว่ เสี่ยวหมี่ แอลจี โซนี่ และผู้ผลิตรายอื่นๆ ยกเว้นไอโฟน ต้องรอถึงปลายปี 2018

การออกแพ็กเกจบริการรอบนี้ ซึ่งมีราคาเริ่มต้น 89 บาทต่อ 1 วัน จึงไม่ใช่แค่เรื่องราคากับปริมาณการใช้เท่านั้น แต่สร้างความพร้อมใช้งานง่ายขึ้น เพราะรวมเอาแอปพลิเคชั่นที่คิดขึ้นมาเป็นเมนูพิเศษสำหรับใส่ไว้ในมือถือรุ่นที่รองรับ ซึ่งร่วมมือกับค่ายมือถือดังกล่าว ออกมาเปิดตัวพร้อมกันในงานนี้

เอไอเอส จึงต้องสร้างการรับรู้ เครือข่าย AIS NEXT G ไปถึงลูกค้าระดับ Mass ให้ได้เร็วที่สุด ด้วยการเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์ 2 คนดังที่มีฐานแฟนคลับแน่นหนา อย่าง แบมแบม GOT7 สมาชิกคนไทยคนเดียวในวงเคป็อปของเกาหลี ที่ทำให้เมืองไทยแทบจะกลายเป็นเมืองหลวงของเหล่าอากาเซ่ หรือกลุ่มแฟนคลับของ GOT7 ไปแล้ว และ เป๊ก ผลิตโชค ผู้มีเหล่านุชผู้ภักดีคอยเป็นแรงเชียร์ในทุกสถานการณ์

งานนี้นอกจากเอไอเอสจะได้ทั้งลูกค้าของตัวเองที่จะอัพเดตมาใช้บริการ 4.5G ก็ยังมีทั้งกลุ่มแฟนคลับแอนดรอยด์สารพัดค่าย แล้วไหนจะกลุ่มแฟนคลับของพรีเซ็นเตอร์ที่พร้อมจะตามเชียร์คนโปรดเหล่านี้อีก

เพราะแค่เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ ก็ทำเอาทั้งเหล่านุช และอากาเซ่ เริ่มคุยกันแล้วถึงประเด็นการเปลี่ยนค่ายมือถือ กรณีที่ยังไม่ได้ใช้บริการเอไอเอส

เอไอเอสจับสองพรีเซ็นเตอร์ดังมาเต้นในจังหวะและเฟรมเดียวกัน ในจังหวะที่ค่อยๆ ถูกเร่งให้เร็วขึ้นไปพร้อมๆ กัน เพื่อสื่อสารตรงตัวผ่านพรีเซ็นเตอร์ถึงการนำแพ็กเกจมารวมกันผ่านแอปพลิเคชั่นแล้วจะทำให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น

โดย เป๊ก ผลิตโชค เป็นหนึ่งในพรีเซ็นเตอร์ของเอไอเอสอยู่เดิมแล้ว ส่วนแบมแบม GOT7 เพิ่งจะเพิ่มเติมเข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ใหม่ในครั้งนี้ ที่มองแล้วมีความหมายไม่ต่างจากการเพิ่มความแรงให้กับเอไอเอสเหมือนการเพิ่มความเร็วเน็ตของยุค 4.5G

อีกทั้งเอไอเอสเองก็ยอมรับว่า พรีเซ็นเตอร์สำหรับ NEXT G นี้ถือว่าเป็น Persons of Consequence หรือบุคคลทรงพลังในโลกโซเชียล ซึ่งทุกคนก็สามารถเห็นได้ผ่านทางผลงานและกระแสที่ผ่านๆ มา อีกทั้งทั้งคู่ยังมีฐานแฟนคลับที่มหึมาอย่าง “นุช” ของเป๊กและ “อากาเซ่” ของแบมแบม จึงเป็นเหตุผลหลักๆ ที่เลือกทั้งคู่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อนำเสนอคีย์เวิร์ดยักษ์ของเอไอเอสที่ว่าจะ “ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด” ให้ได้ตามเป้าหมายนั่นเอง.