พรูเด็นเชียล ซื้อกิจการ บลจ.ทหารไทย บุกตลาดกองทุนรวม รับมือคนชั้นกลางขยายตัว

ปิดไปอีกหนึ่งดีล สำหรับ อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ บริษัทบริหารสินทรัพย์ของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ในภูมิภาคเอเชีย ได้บรรลุข้อตกลงเข้าซื้อหุ้นในเบื้องต้นจำนวน 65% ในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด จากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ อีสท์สปริงมีสิทธิ์ เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ได้ในอนาคต

การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ อีสท์สปริง ยังได้บรรลุข้อตกลงร่วมมือเป็นพันธมิตรด้านการจัดจำหน่ายกับธนาคารทหารไทยในการส่งมอบบริการด้านการลงทุนชั้นแนวหน้าแก่ลูกค้า

การเข้าซื้อกิจการ บลจ.ทหารไทย ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับห้าในประเทศไทย 1 มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 10,000 ล้านปอนด์ 2 หรือ 4222,000 ล้านบาท อัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี 26% ในช่วงระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา

พรูเด็นเชียล มองว่า การซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเสริมธุรกิจประกันชีวิตของพรูเด็นเชียลให้เติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น และเอื้อโอกาสแก่อีสท์สปริงในการเข้าดำเนินธุรกิจในตลาดที่ใหญ่ที่สุด และเติบโตรวดเร็วที่สุดในอาเซียน 3 ทั้งนี้ ความสมบูรณ์ของการทำรายการดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากทางการก่อน

ในการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับธนาคารทหารไทย ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ในด้านสินทรัพย์ 4 มีสาขาครอบคลุมกว่า 400 สาขา และลูกค้า 6.4 ล้านราย นั้น อีสท์สปริงจะช่วยส่งเสริมการเติบโตด้านสินทรัพย์ของ บลจ.ทหารไทย และยังเป็นการสร้างโอกาสการเติบโตของตลาดกองทุนรวมในประเทศไทยที่มีความน่าสนใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของชนชั้นกลาง ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น วัฒนธรรมการเก็บออมที่มีความแข็งแกร่ง และอัตราการเข้าถึงบริการกองทุนรวมที่ยังค่อนข้างต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดที่พัฒนาแล้ว


ที่มา : Investor factsheet ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (มีนาคม 2561)

  • 1 สินทรัพย์ภายใต้การจัดการ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561
  • 2 ที่มา : Cerulli Asset Management in Southeast Asia in 2017 Report, ข้อมูล เดือนธันวาคม 2559
  • 3 ที่มา :  Investor factsheet ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (มีนาคม 2561)

พรูเด็นเชียลนั้นจัดตั้งขึ้นในสหราชอาณาจักรและเวลส์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ฮ่องกง สิงคโปร์ และนิวยอร์ก และทำธุรกิจในไทยมา 20 ปี ภายใต้ชื่อ บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยมีลูกค้า 1.5 ล้านราย และจัดการสินทรัพย์ของลูกค้ามูลค่ากว่า 90,000 ล้านบาท

ส่วนอีสท์สปริงเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อลูกค้ารายย่อยชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย มีสินทรัพย์ภายใต้จัดการ 139,000 ล้านปอนด์ และได้ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียเป็นระยะเวลาเกือบ 25 ปี การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ ทำให้อีสท์สปริงเพิ่มจำนวนธุรกิจเป็น 11 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย

ภูมิภาคเอเชีย ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่สร้างการเติบโตให้กับพรูเด็นเชียล และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญเป็นลำดับต้นๆ การซื้อกิจการครั้งนี้ จะช่วยตอบสนองความต้องการลงทุนที่เติบโตอย่างรวดเร็วของลูกค้าในภูมิภาคนี้ และสนับสนุนธุรกิจประกันชีวิตในอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ จะส่งผลดีต่อลูกค้าของ บลจ.ทหารไทย และธนาคารโดยรวม เนื่องจากอีสท์สปริงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารสินทรัพย์ในระดับโลกในหลายมิติของการลงทุน มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการมูลค่ารวมกว่า 188 พันล้านเหรียญสหรัฐ ให้บริการทั้งลูกค้าสถาบัน และลูกค้าบุคคล จากสำนักงาน 10 แห่งในเอเชีย และยังมีสำนักงานที่ลักเซมเบิร์ก ลอนดอน และชิคาโก ซึ่งให้บริการลูกค้าในระดับนานาชาติอีกด้วย ซึ่งธนาคารเชื่อมั่นว่า อีสท์สปริงจะนำความเชี่ยวชาญที่มีอยู่มาเสริมศักยภาพของ บลจ.ทหารไทย

ธนาคารทหารไทยเป็นแกนหลักในการร่วมก่อตั้ง บลจ. ทหารไทย เมื่อปี 2539 โดยในปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บลจ. ทหารไทยมีผลการดำเนินงานที่ดี และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีสูงถึง 26%.