ทีวีไดเร็คฮุบ สปริงนิวส์ ตัดต่อพันธุกรรม ช้อปปิ้งออนไลน์ผสมข่าว สู่ฟรีทีวี Home Shopping

เปิดดีลเจ้าพ่อวงการโฮมช้อปปิ้ง “ทีวีไดเร็ค” ประกาศซื้อหุ้น 90.10% ในทีวีดิจิทัล “สปริงนิวส์” จ่ายค่าหุ้น พร้อมค่าผลิตรายการข่าว แบบผ่อนจ่ายนาน 124 เดือน รวมมูลค่ากว่าพันล้านบาท

ทีวีไดเร็คได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อคืนวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมบอร์ดบริษัทได้อนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น หรือ SPTV ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ภายใต้ใบอนุญาต กสทช. จากบริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SPC ในสัดส่วนไม่น้อยว่า 90.10% ในมูลค่ารวมทั้งสิ้น 949.22 ล้านบาท

ทั้งนี้มีรายละเอียดในการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมด้วยว่า รูปแบบการซื้อนั้น ทีวีไดเร็คจะชำระค่าหุ้น SPTV ให้แก่ SPC เป็นรายเดือน เดือนละ 7,655,000 บาท เป็นเวลา 124 เดือน ตามเวลาที่เหลืออยู่ของใบอนุญาตทีวีดิจิทัลของ SPTV ที่มีกับ กสทช.ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 24 เมษายน 2572 รวมเป็นมูลค่าทั้งหมด 949,220,000 บาท

นอกจากนี้ ทีวีไดเร็คจะชำระค่าผลิตรายการข่าวและสาระเพื่อออกอากาศในช่อง SPTV เดือนละ 1,055,000 บาท ให้ SPC เป็นการจ่ายรายเดือนจำนวน 124 เดือนเช่นกัน และยังให้สิทธิ SPC ขายเวลาโฆษณาอีก 30% ของเวลาที่ SPC ผลิตรายการข่าวสารและสาระให้กับ SPTV รวมมูลค่าประมาณเดือนละ 540,000 บาท รวมเป็นเดือนละ 1,595,000 บาท เป็นเวลา 124 เดือน รวมมูลค่า 197,780,000 บาท

ในขณะที่ฝ่ายผู้ขายคือ สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SPC นั้น ตกลงจะรับผิดชอบชำระหนี้คงค้างทั้งหมดของ SPTV ได้แก่ ค่าใบอนุญาต ค่าบริการโครงข่าย (MUX) ค่าใช้จ่ายในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ระบบดิจิทัลที่ให้บริการเป็นการทั่ว ไป (Must Carry) รวมทั้งหนี้สินต่างๆ ตลอดจนภาระผูกพันที่มีอยู่ก่อนวันซื้อขายหุ้นสำเร็จ ในกรณีที่เป็นหนี้มีเงื่อนไขหรือเป็นหนี้ที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระในวันที่การซื้อขายหุ้นสำเร็จ โดยที่ SPC ตกลงจะชำระหนี้ทั้งหมด

อีกเงื่อนไขสำคัญคือ SPC ต้องคงเงินสดจำนวน 234,972,000 บาท เพื่อชำระค่าใบอนุญาตทีวีดิจิทัลในงวดสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม การซื้อขายหุ้นของ SPTV และทีวีไดเร็คนี้ จะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ และที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของทีวีไดเร็ค ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561นี้

Win Win Deal สู่การเป็น ดิจิทัลทีวี Home Shopping 

หากดูรายละเอียดการซื้อขายหุ้นในครั้งนี้ จะพบว่า เงื่อนไขหลักคือ การเปลี่ยนถ่ายเจ้าของใบอนุญาต จากเจ้าของเดิม SPC ไปเป็น ทีวีไดเร็ค กลายเป็นช่องดิจิทัลทีวีรายแรกที่ประกอบกิจการ TV Shopping สมบูรณ์แบบ โดยที่ไม่ได้กระทบกับใบอนุญาตกิจการทีวีดิจิทัลช่องข่าว ที่ กสทช.กำหนดไว้ว่าช่องข่าว จะต้องมีรายการข่าวและสาระไม่น้อยกว่า 30%

ทีวีไดเร็คจะรับผิดชอบการผลิตรายการในสัดส่วน 70% ในขณะที่กลุ่มสปริงนิวส์ จะรับผิดชอบการผลิตข่าวสารและสาระ 30% ในรูปแบบที่ต่างคนต่างหารายได้จากสัดส่วนเวลาโฆษณาที่ได้ไป

ในแง่การเงินที่เข้ามาซื้อหุ้น ทีวีไดเร็คไม่ต้องไประดมทุนเพื่อมาซื้อหุ้นแต่อย่างใด โดยได้สิทธิผ่อนจ่ายเป็นรายเดือน เป็นเวลา 124 เดือนตามเวลาที่เหลืออยู่ของใบอนุญาต 15 ปีจาก กสทช. เพียงแต่รูปแบบการจ่ายเงินให้กลุ่มสปริงนิวส์นั้น แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ค่าซื้อหุ้น เดือนละ 7.655 ล้านบาท และค่าผลิตข่าวอีกเดือนละ 1.055 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนเงินสดที่ทีวีไดเร็คต้องจ่ายต่อเดือน 8.71 ล้านบาท จ่ายทั้งหมด 124 เดือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,080.04 ล้านบาท

โดยที่ทีวีไดเร็คได้ชี้แจงว่า รูปแบบการจ่ายเงินนี้ ไม่ได้สร้างภาระการเงินให้บริษัท เพราะใช้เงินหมุนเวียน และกระแสเงินสดในบริษัท ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องและการดำเนินงานของบริษัท

ทีวีไดเร็คได้เข้ามาจับมือกับสปริงนิวส์ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เป็นการเซ็นสัญญาเป็นผู้ร่วมผลิตรายการเป็นระยะเวลา 4 ปี จนกระทั่งได้ขยายรูปแบบมาเป็นการซื้อหุ้นในที่สุด

สำหรับผลประกอบการของช่องทีวีดิจิทัลช่อง สปริงนิวส์ ในปี 2560 มีรายได้รวม 200.13 ล้านบาท ขาดทุน 19.28 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีแรกของปี 2561 มีรายได้รวม 124.16 ล้านบาท และมีกำไร 17.60 ล้านบาท มีสินทรัพย์ทั้งหมด 1,510.55 ล้านบาท.