ก่อนจะกลายเป็นของคนอื่น! TV Direct เอา “โอ้ว พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก” กลับมาช่วยสู้ศึกทีวีโฮมช้อปปิ้ง

หากจะถามว่าภาพจำของคนทั่วไปที่มีต่อ TV Direct คืออะไร? แน่นอนคนในวัย 20 กว่าๆ ขึ้นไปคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าโอ้ว พระเจ้าจอร์จ มันยอดมากซึ่งเป็นคำพูดที่จอร์จซาร่าใช้พูดบ่อยที่สุดตอนบรรยายสรรพคุณของสินค้า แต่วลีนี้ก็หายไปนานนับ 10 ปี ก่อนจะกลับมาให้เห็นตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา

สำหรับจอร์จซาร่าถูก TV Direct ให้นิยามว่าเป็น Asset หรือสินทรัพย์เพราะเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แต่ที่หายไปเพราะคนข้างในมีความรู้สึกว่าเบื่อ เลยหันไปใช้อย่างอื่นแทน แต่ความเป็นจริงทั้งคู่ยังถูกลูกค้าถามถึงอยู่เสมอ จน TV Direct รู้สึกว่าก่อนที่ Signature จะกลายเป็นของคนอื่น ควรจะต้องนำกลับมาใช้แล้ว

หลักๆ ได้ถูกแปลงจากคนไปเป็นตัวการ์ตูน ทำเป็นสติกเกอร์ติดไปกับสินค้าเพื่อให้ผู้บริโภค Remind ถึง และจะโผล่เข้าไปในฉากกับโฆษณาต่างๆ ส่วนการนำคนมาสวมคาแร็กเตอร์คงจะไม่ได้เห็น เพราะ TV Host ในวันนี้ทำได้เรียลและคนเชื่ออยู่แล้ว

จอร์จซาร่ากลับมาพร้อมกับความท้าทายของ TV Direct ที่กำลังเจอศึกใหญ่อยู่ เพราะแต่เดิมทีวีโฮมช้อปปิ้งในบ้านเรา มีผู้เล่นอยู่ประมาณ 9 ราย แต่วันนี้กลับมีผู้เล่นหน้าใหม่ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนคือทีวีดิจิทัล ซึ่งกำลังเจอภาวะช่องที่เยอะเกินไป เม็ดเงินโฆษณาที่ลดลง และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป เข้ามากระทบกับรายได้ จึงต้องหาแหล่งอื่นเข้ามาเสริม

กรณีศึกษาคือช่อง 8” ที่กระโดดเข้ามาแล้วรุ่ง ใช้เวลา 4 ปีสร้างยอดขายจากหลักร้อยล้านบาท สู่ 2,127 ล้านบาท เติบโตกว่า 53% ถึงกับเปลี่ยนหมวดธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์จากหมวดธุรกิจสื่อ ไปยังหมวดธุรกิจพาณิชย์และค้าปลีก ความสำเร็จนี้เองทีวีดิจิลเลยเอาบ้าง

ในวันนี้จึงมีทั้ง NEW TV, Thairath TV, MONO 29, Workpoint, Bright TV และอีก 3 ช่องในเครือนิวส์ เน็ตเวิร์ค รวมๆ กว่า 9 ช่อง

ก่อนหน้านี้ TV Direct สนใจทีวีดิจิทัล โดยเจรจากับ Spring News ใช้เงินราว 1,080 ล้านบาทเข้าซื้อหุ้น สุดท้ายดีลนี้ได้ถูกยกเลิกไป โดย TV Direct ยืนยันจะไม่กลับไปฟื้นดีลใหม่ ใช้วิธีเช่าเวลาแทน ปัจจุบันเช่าทั้งหมด 50 ชั่วโมงต่อวัน ลดลง 20 ชั่วโมงเนื่องจากทีวีดิจิทัลมาทำเอง นอกจากนี้ยังเช่าทีวีดิจิทัลตลอด 24 ชั่วโมงอีก 7 ช่อง

แม้จะมีผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว แต่ในมุมมองของทรงพล ชัญมาตรกิจประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) บอกว่า ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลมากนัก เพราะตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งเมืองไทยมูลค่า 15,000 ล้านบาท น้อยมากเมื่อเทียบกับเกาหลีใต้ที่มีมูลค่า 700,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่มีประชากรน้อยกว่า

ในเมืองไทยจำนวนผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นกลับจะช่วยกระตุ้นให้ตลาดเติบโต คาดปี 2019 ทะลุ 20,000 ล้านบาท เนื่องจากเมืองไทยฝั่งค้าปลีกแข็งแรงมาก และผู้บริโภคไม่ได้มีปัญหาอะไร หากจะต้องออกนอกบ้านไปซื้อของ ทีวีโฮมช้อปปิ้งจึงไม่ได้เติบโตหวือหวามากนัก ส่วนในแง่ของการแข่งขัน ถึงจะมีผู้เล่นมากขึ้น หากแต่ละรายมีฐานลูกค้าและ Positioning แตกต่างกัน

TV Direct เคยพยายามขายเครื่องประดับแต่ไม่สำเร็จ ในขณะที่ SHOP CH กลับขายดี ช่อง 8 ขายเครื่องสำอางดีมาก ส่วนเราเองก็ขายเครื่องออกกำลังกายและสินค้าสำหรับผู้สูงอายุได้ดี ชี้ให้เห็นว่าแต่ละรายมีฐานลูกค้าเฉพาะอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีฐานลูกค้าเฉพาะ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ถูกคนอื่นแย่งชิงไป หากไม่ปรับตัว สักวันก็จะถูกคนอื่นแซงไปได้ TV Direct จึงใช้โอกาสครบ 20 ปี รีแบรนด์ใหม่เปลี่ยนทั้งโลโก้ที่ใช้มากกว่า 15 ปี ใหม่

นอกยังใช้สีน้ำเงินซึ่งมีผลวิจัยว่ากระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อสินค้ามากที่สุด ได้เติมสีแดงและเหลืองเข้ามา พร้อมกับเปลี่ยนสี่เหลี่ยม เป็นปุ่มวิดีโอ 6 เหลี่ยม ซึ่งแฝงไว้ด้วยศาสตร์ฮวงจุ้ยที่เชื่อว่าจะ “ดึงพลังได้รอบทิศ”

ปรับโมเดลธุรกิจชูความเป็น Omni Channel ใช้สื่ออนไลน์ทุกด้านทั้ง Facebook, Google, YouTube โดยปรับตัวเป็น Video Marketer ที่มีครบทั้งภาพ เสียง และคอนเทนต์ จากเดิมที่ใช้โมเดล TV Shopping

เพื่อเจาะกลุ่มวัยทำงานที่มีอายุ 25 – 54 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักมีประมาณกว่า 31.7 ล้านคน เน้นสร้าง Customer Experience เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคมีแนวโน้มซื้อสินค้าด้วยความรู้สึกและอารมณ์เพิ่มขึ้น

ส่วนสื่อเดิมก็ไม่ทิ้ง เพราะกลุ่มที่มีอายุ 55 – 64 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นลูกค้าหลักมีกำลังซื้อสูง มีประมาณ 15.7 ล้านคน และเป็นกลุ่มที่ยังนิยมดูทีวี จึงทำให้การใช้สื่อแบบแมสมีเดียยังคงเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นจำนวนมาก 

ด้านแคตตาล็อกก็ยังทำอยู่ เพราะแคตตาล็อกผู้บริโภคจะเปิดดูทุกหน้า ไม่เหมือนอ่านนิตยสารจึงมีโอกาสกระตุ้นให้ซื้อได้

ปี 2019 วางรายได้ 4,800 ล้านบาท เติบโต 20% ภายใน 3 ปีต้องการ 8,000 – 9,000 ล้านบาท และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ออนไลน์จาก 10% เป็น 50% ด้วย

ทีวีโฮมช้อปปิ้ง 15,000 ล้านบาท “TV Direct” มียอดขายมากที่สุด

  • TV Direct ยอดขาย 4,000 ล้านบาท
  • ช่อง 8 ขอดขาย 2,200 ล้านบาท
  • O Shopping ยอดขาย 2,000 ล้านบาท
  • 1577 Home Shopping ยอดขาย 2,000 ล้านบาท
  • TVDmomo ยอดขาย 1,000 ล้านบาท

ประเมินโดย TV Direct, เมษายน 2019