Abercrombie & Fitch @Ginza

ไม่ถึงขั้นว่าเป็นกฎแต่ถือว่าเป็นเกียรติสำหรับแบรนด์ระดับ World Class ใดก็ตามที่สามารถเข้ามาปัก Flagship ที่ Ginza ประกาศศักดาในใจกลางมหานครแฟชั่นแห่งซีกโลกตะวันออกอย่างโตเกียวได้

ล่าสุดเมื่อ 11 โมงเช้าของวันที่ 15 ธันวาคม 2009 ที่ผ่านมา Abercrombie & Fitch ได้สำทับปรากฎการณ์ดังกล่าวพร้อมทั้งสร้างสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันเปิดร้าน Flagship แห่งแรกของเอเชียและแห่งที่ 5 ของโลกหลังจากเริ่ม Flagship แรกที่ New York เมื่อปี 2005, Los Angeles ปี 2006, London ปี 2007 และ Milan ในเดือนตุลาคมปี 2009

Abercrombie & Fitch @Ginza เปิดตัวภายใต้คอนเซ็ปต์ซึ่งพิเศษและแตกต่างไปจาก Flagship แห่งอื่นรวมถึง Retail Store ทั้งหมด 355 สาขาทั่วโลก* ทั้งการออกแบบอาคารโครงเหล็ก 12 ชั้นซึ่งประดับด้วยกระจกและวาง Positioning ให้เป็น High-end Flagship ของแบรนด์ที่ลูกค้าสามารถสัมผัสความแตกต่างนี้ได้ด้วยโสตประสาททั้ง 5 ตั้งแต่ก้าวแรกที่ย่างเข้าสู่สาขาที่ Ginza ด้วยกลิ่นน้ำหอม “FIERCE” ในบรรยากาศ “ไนต์คลับ” ติดตั้งลำโพง 114 จุดทั่ว Abercrombie & Fitch Ginza Tower ซึ่งเลือกเปิดเฉพาะเพลงฮิตคุ้นหูคนญี่ปุ่นที่ติดชาร์ตทั้งฝั่งอเมริกาและยุโรป

แสงจากสปอร์ตไลต์ที่ฉายอยู่บนผนังและชั้นจัดวางเสื้อผ้า, เครื่องประดับและน้ำหอมช่วยให้การตกแต่งภายใน Abercrombie & Fitch Ginza Tower ดูสะดุดตายิ่งขึ้น นอกจากนี้เสื้อผ้าบางส่วนที่ผลิตพิเศษเป็น Casual Luxury Limited Ginza Version ซึ่งเป็นการตลาดที่กระตุ้น Motivation ให้ลูกค้าชาวญี่ปุ่นแวะเวียนเข้าร้านได้โดยไม่เกี่ยงสนนราคาซึ่งสูงกว่าสาขาอื่นๆทั่วโลก

ความสำเร็จของ Abercrombie & Fitch @Ginza กลายเป็นปัจจัยเร่งแผนการเปิด Flagship แห่งที่ 6 ที่ Fukuoka บนเกาะ Kyushu ในปลายปีนี้และปรับปรุงเป็นโมเดลสำหรับการขยายสาขาไปยังเมืองอื่นๆ ในญี่ปุ่นรวมถึงประเทศในเอเชียอีกด้วย

*นับถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2010 มีร้านในอเมริกา 349 สาขา, แคนาดา 3 สาขา, อังกฤษ 1 สาขา, อิตาลี 1 สาขา และญี่ปุ่น 1 สาขา