“รถยนต์ญี่ปุ่น” อาจกลายเป็น “สิ่งต้องห้าม” ในเกาหลีใต้ ? หลัง Toyota กอดคอ Honda ยอดขายร่วงกว่า 30%

จากข้อพิพาททางการทูตครั้งใหญ่ระหว่างสองเพื่อนบ้าน นำมาสู่การบอยคอตของสินค้าญี่ปุ่นของชาวเกาหลีใต้ไม่ได้จริงๆ ที่นับวันเริ่มลุกลามใหญ่โตจนกระทบไปถึงสินค้าชิ้นใหญ่อย่าง “รถยนต์” สถิติจากภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาระบุว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ Toyota ในเกาหลีใต้ลดลง 32% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ Honda มียอดขายตกต่ำลงถึง 34% 

แม้ผู้ผลิตรถยนต์ทั้ง 2 ค่ายจากแดนซามูไรจะอยู่ระหว่างประเมินปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ยอดขายในเดือนที่แล้วย่ำแย่ผิดหูผิดตา แต่คนในแวดวงอุตสาหกรรมและนักวิเคราะห์เชื่อว่า กระแสบอยคอตและข้อพิพาทการค้าที่ส่อแววยืดเยื้อ จะยังคงบั่นทอนอุปสงค์รถยนต์ญี่ปุ่นในแดนโสมต่อไปอีกพักใหญ่

รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มคุมเข้มการส่งออกเคมีภัณฑ์ 3 ชนิดที่จำเป็นต่อกระบวนการผลิตชิปและหน้าจอสมาร์ทโฟนไปยังเกาหลีใต้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เพื่อตอบโต้ที่ศาลเกาหลีใต้พิพากษาให้บริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชยแก่เหยื่อชาวเกาหลี ที่ถูกบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ผู้บริโภคแดนกิมจิโกรธแค้น และรณรงค์ต่อต้านการซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ของแดนปลาดิบ ตั้งแต่รถยนต์ เบียร์ เครื่องเขียน เรื่อยไปจนถึงทัวร์ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (2 สิงหาคม) รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ถอดเกาหลีใต้ออกจากบัญชี “white list” ซึ่งหมายถึงกลุ่มประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษและการผ่อนปรนทางการค้าระดับสูงสุดจากญี่ปุ่น

จำนวนผู้เข้าชมโชว์รูมลดลง ขณะที่ผู้บริโภคต่างก็ลังเลที่จะเซ็นสัญญาพนักงาน Honda ในเกาหลีใต้ให้สัมภาษณ์กับ Reuters

คนเกาหลีส่วนใหญ่ไม่พอใจญี่ปุ่น และอีกไม่นานการขับรถยนต์ญี่ปุ่นคงจะกลายเป็นสิ่งต้องห้ามในเกาหลีใต้คิม พิลโซ อาจารย์ด้านวิศวกรรมยานยนต์จาก Daelim University College ระบุ

ข้อมูลจากสมาคมผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์แห่งเกาหลี (KAIDA) ยังพบว่า Lexus ซึ่งเป็นแบรนด์รถหรูในเครือ Toyota และมียอดการนำเข้าสูงเป็นอันดับ 3 รองจาก Mercedes-Benz และ BMW มียอดจำหน่ายลดลง 25% จากเดือนก่อนหน้า แต่ยังคงเพิ่มขึ้นถึง 33% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นอ้างว่าจำเป็นต้องควบคุมการส่งออกสินค้าไปยังเกาหลีใต้ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแต่ขณะเดียวกันก็อ้างถึงการสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจ หลังจากเมื่อปีที่แล้วศาลโสมขาวได้สั่งให้บริษัทญี่ปุ่นชดใช้ค่าเสียหายแก่อดีตแรงงานทาส ซึ่งฝ่ายญี่ปุ่นยืนยันว่าปัญหานี้ได้เคลียร์กันจบไปแล้วตั้งแต่ตอนที่ทำข้อตกลงฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตสู่ระดับปกติในปี 1965

เช้าวันที่ 5 สิงหาคม รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศแผนลดการพึ่งพาญี่ปุ่น โดยจะทุ่มเม็ดเงินลงทุน 7.8 ล้านล้านวอนเพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ภายในประเทศ ตลอดระยะเวลา 7 ปีข้างหน้า 

ทั้งนี้รัฐบาลเกาหลีใต้ตั้งเป้าที่จะยกระดับความสามารถพึ่งตนเอง (self-sufficiency) ในแง่ของชิ้นส่วน วัสดุ และอุปกรณ์สำคัญ 100 ชนิดที่จำเป็นต่อกระบวนการผลิตชิป หน้าจอดิสเพลย์ แบตเตอรี่ รถยนต์ และผลิตภัณฑ์ไฮเทคอื่นๆ โดยจะสร้างเสถียรภาพของอุปทานสินค้าเหล่านี้ให้ได้ภายใน 5 ปี

อย่างไรก็ตามแม้ยอดขายรถยนต์ต่างประเทศจะคิดเป็นสัดส่วนไม่มาก เมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายรถยนต์ทั้งหมดในเกาหลีใต้ แต่ภาคธุรกิจก็กังวลว่ากระแสการเมืองอาจทำให้ผู้บริโภคหันไปต่อต้านสินค้า และบริการอื่นๆ จากญี่ปุ่นด้วย

Source