กว่าจะดัง!! บน YouTube ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ถอดสูตร(ไม่)ลับ ปั้นคอนเทนต์โดนใจสไตล์ “Bearhug”

ใช่ว่าทุกความสำเร็จจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ… กว่าจะมีวันนี้ของช่อง Bearhug พวกเขาต้องใช้ความพยายามและผ่านอะไรมาบ้าง รวมถึงการเลือกใช้ YouTube เป็นเส้นทางในการค้นหาตัวเองของ “กานต์-อรรถกร รัตนารมย์” และเพื่อนๆ ส่งต่อแรงบันดาลใจสู่คนอื่นๆ และด้วย passion ที่มุ่งมั่นนี้เองทำให้เขาเติบโตและเป็นที่รู้จักจนมีคนติดตามเกือบ 3 ล้านคนจากทุกวัย ทั้งไทยและต่างชาติ 

เริ่มรู้จ้กและใช้แพลตฟอร์ม YouTube 

กานต์ เล่าว่าเริ่มรู้จัก YouTube และเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2014 ตอนนั้นยังเป็นนักศึกษาปี 3 ได้เริ่มลองทำวิดีโอลง YouTube เองแล้วจากนั้นพอทำมาเรื่อยๆ แล้วรู้สึกว่าชอบมาก จากนั้นจึงยึดเป็นงานหลัก เมื่อช่องยูทูบเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น 2 ปี ต่อมา ซารต์ ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช (ช่อง Sunbeary Channel) เข้ามาช่วยจึงกลายมาเป็นทีมเดียวกันในที่สุด โดยใช้ชื่อช่อง Kan Atthakorn โดยขณะนั้น ซารต์ เองก็ทำงานหลายอย่างด้วยเช่น เป็นเซลล์ขายไอติม ทำบัญชี รวมทั้งขายประกัน

กว่าจะมาเป็น Bearhug 

เรียกได้ว่า กานต์ ต้องใช้เวลาค้นหาความฝันตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะก่อนหน้านั้นก็เคยทำช่อง The Nerd Creator เขาบอกว่ารู้สึกมีความสุขมากๆ ที่ได้บรรยาย ได้สอน ได้วิเคราะห์อะไรบางอย่างแล้วมาแชร์ให้คนอื่นฟัง “มันเป็นสิ่งที่ทำได้ทุกเวลา ทุกนาทีอยู่แล้ว เลยแฮปปี้มากๆ ที่ได้ทำแชนแนลนั้นขึ้นมา

แต่ปัจจุบันเลิกไปแล้ว เพราะมองว่าการสอนคนอื่น ทำให้ได้เจอลูกศิษย์ คนอื่นก็นับเป็นอาจารย์ แต่ความรู้สึกยังมองว่าตัวเองเด็กไป ที่จะแบกรับความคาดหวังของคนที่มาเข้ามาดูในแชนแนล จึงเก็บความฝันนี้ไว้ทำในวันที่รู้สึกว่าไม่ต้องการอะไรแล้ว คือทำเพื่อการกุศลแบบ 100% ดีกว่า

สำหรับช่อง Bearhug ที่เกิดจากการรวมตัวของ “กานต์และซารต์” พร้อมด้วยทีมงานในปี 2018 เนื้อหามีความหลากหลาย ทั้งการท่องเที่ยว เรื่อง Unseen ต่างๆ แน่นอนว่าต้องพาไปกินของอร่อยๆ

คลิปวิดีโอที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน และการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ของทีมงาน ทำให้ Bearhug กลายเป็นช่องยูทูบอันดับต้นๆ มีผู้ติดตามกว่า 3 ล้านคน (ส.ค. 2562)

Bearhug กับการค้นหาตัวเอง 

Bearhug คือ สิ่งที่ กานต์ กำลังค้นหาตัวเอง คอนเทนต์ที่ทำขึ้น เป็นการไหลไปตามที่หัวใจอยากพาไป “ผมมองว่าบางที การที่เราไหลไปตามหัวใจไปเรื่อยๆ มันอาจจะส่งผลต่อคนดูให้รับรู้และได้แรงบันดาลใจจากพวกเราด้วยก็ได้” เพราะมันคือความเป็นธรรมชาติ ซึ่งก็น่าจะเป็นสิ่งที่รายการทีวีส่วนใหญ่ไม่มี คลิปวิดีโอที่ทำออกมา หากกานต์ รู้สึกว่ามันปรุงแต่งดูแล้วมันไม่เป็นธรรมชาติ เขาจะลบมันออกทันที

“เราออกเดินทางมากขึ้น เพราะยิ่งออกเดินทาง ยิ่งพบปะผู้คน ทำให้เรายิ่งค้นพบตัวเองมากขึ้น อนาคตเราอาจจะหยุดทำช่องนี้แล้วตั้งช่องใหม่ขึ้นมาอีกก็ได้”

ด้วยความคิดเช่นนี้ จึงมักถูกถามเสมอว่า ไม่เสียดายยอดซับเหรอ? กานต์ ยอมรับตรงๆ ว่า แรกๆ ก็เสียดาย แต่อาจจะเสียดายมากกว่าถ้าไม่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำแล้วแก่เสียก่อน

พวกเรามองว่า ถ้าตัดปัจจัยเรื่องเงินทองออก การเปิดช่องใหม่จะทำให้เราไม่หลงตัวเอง และได้ผู้ติดตามในกลุ่มที่ช่องนั้นนำเสนอจริงๆ เราเลยไม่กลัวที่จะเริ่มใหม่ในสักวันหนึ่ง

แรงบันดาลใจในการนำเสนอช่อง Bearhug

ต้องบอกว่าจุดเริ่มต้นของ Bearhug มาจากการดูรายการทีวีญี่ปุ่น แล้วรู้สึกว่าเป็นรายการในประเทศที่ช่วยสร้างค่านิยม สร้างเศรษฐกิจได้จริง เห็นได้ว่าคนไทยชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นกันมาก ซึ่งก็มาจากการรับสื่อจากญี่ปุ่นนั่นเอง ไม่ต่างจากช่วงหนึ่งที่คนไทยนิยมรับสื่อจากฝรั่งมากๆ ก็หันมากินเบอร์เกอร์ ไก่ทอดตามฝรั่ง

เมื่อ ซารต์ ซึ่งเป็นหัวเรือหลักของช่อง ก็มี passion ด้านการตามล่าหาอาหารอร่อยด้วยสกิลที่สูงมากๆ ทุกอย่างก็พร้อมแล้ว “ทำไมเราไม่ทำสื่อเกี่ยวกับอาหารดีๆ สนุกๆ” จะได้มีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วย แม้บางคลิป Bearhug ไปกินอาหารกันที่ต่างประเทศก็จริง แต่คนดูแล้วรู้สึกหิว เขาก็ต้องออกไปหาของกินในประเทศอยู่ดี  

“เชื่อว่าวันนี้ผู้ชมน่าจะจดจำ Bearhug ได้ว่าเป็นอะไรที่เกี่ยวกับอาหาร เมื่อนึกถึงช่องอาหาร ต้องมีชื่อเราแน่ๆ เพราะกลุ่มคนดูมีอยู่ทั่วประเทศ ทุุกเพศ ทุกวัย และยังมีแฟนผู้ชมจากต่างประเทศอีกด้วย”  

เสน่ห์อะไรของ Bearhug ที่ทำให้แฟนคลับติดตาม 

จุดเด่นของช่อง Bearhug เป็นเรื่องการตัดต่อ “เราใส่ใจกับการตัดต่อ พอสมควร ช่วงที่ช่องปล่อยคลิปครบ 140 คลิป ต้องบอกว่าดราฟที่แก้กันหลังบ้านมีทั้งหมดกว่า 600 คลิป นั่นหมายความว่า ใน 1 คลิปมีการตัดต่อ แก้ไข เพิ่มเติม คลิปละ 4.28 ดราฟ ไม่ใช่ว่าทีมตัดไม่ดี แต่มีรายละเอียดเยอะมากและต้องเลือกว่าส่วนไหนควรตัดออกหรือควรเพิ่มเติม 

เสน่ห์ของช่อง Bearhug เนื้อหามันไม่ได้ย่ำอยู่กับที่ แต่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามความคิดที่โตขึ้น และโลกกว้างที่พบเจอ สไตล์ของ Bearhug ต่อให้ไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านเดิมกับปีที่แล้ว แต่วิธีการเล่าเรื่องก็ไม่เหมือนเดิมจากวิธีมองโลกที่เปลี่ยนไปของทีมงาน 

ปัจจุบันมี YouTube Creator เกิดขึ้นเยอะมาก วิธีคิดคอนเทนต์ในแต่ละคลิปของ Bearhug จึงต้องแตกต่างจากช่องอื่นๆ กานต์จะบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่า “ห้ามตัวเองดูคนอื่น” 

โอกาสของ YouTube Creator

ในฐานะ YouTube Creator ยุคแรกๆ ถือว่าได้โอกาสมากมาย ทั้งเงินทอง ชื่อเสียง ตามแบบฉบับของทุกคนที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก แต่สำหรับ กานต์ สิ่งสำคัญที่สุดคือ “การเปิดโอกาสให้ได้ทำงานร่วมกับ ซารต์”

“ต้องบอกว่า ซารต์ เป็นคนที่ลากผมไปในที่ที่ผมไม่อยากไป ไปเจอกับผู้คนมากมาย แล้วเราก็ได้พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว”

ด้วยนิสัยแบบ Aggressive Extrovert ของ “ซารต์” (คือเป็นคนที่กระตือรือร้นในการเดินทางท่องเที่ยว ชอบพบปะผู้คนใหม่ๆ และรักษาความสัมพันธ์กับคนได้เก่ง) เรียกว่าตรงข้ามกับ กานต์ ที่ออกแนว Introvert ถ้าอยู่คนเดียว คืออยู่หน้าคอมพ์ทั้งวัน หรือไม่ก็เข้าป่า  

เห็นความเปลี่ยนแปลง YouTube Creator อย่างไร

วันที่เริ่มต้นในปี 2014 หากบอกใครๆ ว่าเป็น YouTube Creator ณ วันนั้นเหมือนเป็นตัวประหลาด ทุกคนสงสัยว่าทำไม? อาชีพอะไร? ทำมาหากินยังไง? แต่มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีคนเข้าใจ เพราะ ณ วันที่เริ่มทำวันแรก กานต์ ก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเลย แค่สงสัยว่าทำไมฝรั่งเขามีกัน แล้วทำไมคนไทยไม่มี แค่นั้นเอง จึงเป็นสิ่งท้าทายให้ลองทำดูบ้าง เพราะอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร

มาถึงวันนี้ กลายเป็นว่าอาชีพ YoutTbe Creator เป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ใฝ่ฝันอยากจะเป็น ในสหรัฐฯ เด็กๆ บอกว่าอยากเป็น YouTuber มากกว่านักบินอวกาศไปเสียแล้ว  

วันนี้งบโฆษณาก็มาทางออนไลน์มากขึ้น สินค้าและแบรนด์ต่างๆ เองก็อยากมาลองลงทุนในวิดีโอคอนเทนต์ด้วยเหมือนกัน ปัจจุบันมีลูกค้าหลายรายที่ bearhug ประเดิมทำโฆษณาออนไลน์ให้ และก็ติดใจมาใช้บริการเรื่อยๆ จึงมองว่า YouTube เป็นช่องทางของคนมีไอเดียเจ๋งๆ และสามารถทำเป็นอาชีพได้แบบสบายๆ แถมได้ทำอะไรที่่ถนัดและชื่นชอบไปในเวลาเดียวกัน 

YouTube Creator ที่ดีมีคุณภาพต้องเป็นแบบไหน 

สำหรับ กานต์ บอกว่าชอบดู YouTube Creator ที่ให้คุณค่าบางอย่างกับคนดู ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิง ความรู้ หรือได้นำความรักของตัวเองมาเป็นคอนเทนต์ ที่สร้างแรงบันดาลใจได้ ส่วนมากคอนเทนต์ที่เป็นแบบนี้จะยั่งยืน มาถึงวันนี้ Creator หน้าใหม่ เชื่อว่าหลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าต้องทำคอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ยากที่สุดในชีวิตของ Bearhug คือการที่ต้องรู้ว่า “เราควรจะไม่ทำอะไรบ้าง” ต่างหาก

รายได้หลักของ Bearhug มาจากไหนบ้าง

ช่องทางการหารายได้ของ Bearhug มาจากยอดวิวและสปอนเซอร์ แต่ช่วงหลังรายได้จากสปอนเซอร์น้อยลง เพราะ Bearhug ไม่ใช่ทีมที่เกิดมาเพื่อทำโฆษณาตั้งแต่แรก ทำให้ความยืดหยุ่นในการรับงานจึงน้อยกว่าคนอื่นๆ  

บันไดอีกขั้นกับธุรกิจ “ชานมไข่มุก”

จากจุดเริ่มต้นเส้นทาง YouTube Creator วันนี้ Bearhug ได้ก้าวสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ “ชานมไข่มุก” Bear House กานต์ เล่าว่าเกิดจากจุดที่สมองมันเรียกร้องตลอดเวลาว่าให้ทำได้แล้ว เป็นความรู้สึกเหมือนมีฟ้าร้องในใจตลอดเวลาทั้งๆ ที่ชีวิตก็ดีอยู่แล้ว แต่เชื่อว่า บางที ตัวตนข้างในก็พยายามบีบให้ได้ทำบางสิ่งที่จะพาไปสู่ขั้นบันไดต่อไปของชีวิตเหมือนกัน

“ซารต์ เป็นหัวเรือหลักการเปิดธุรกิจร้านชานมไข่มุก Bear House เพราะฝันอยากทำร้านของหวาน แต่เราเริ่มต้นจากชานมไข่มุก เพราะกินทุกวัน และหลงใหลมันมากๆ ตอนไปเที่ยวไต้หวัน”

ตอนแรกเริ่มจากการติดต่อซื้อแฟรนไชส์ชานมไข่มุกที่ไต้หวัน แต่คุยไปคุยมาแล้วรู้สึกว่ามีข้อกำหนดเยอะมาก จึงลงมือทำกันเองน่าจะดีกว่า เพราะเป็นคนที่ชอบทำอะไร ที่กำหนดชีวิตตัวเองได้และสร้างความยั่งยืนได้

แนวคิด คือการเริ่มต้นทำไข่มุกสไตล์คนไทยขึ้นมาเอง เริ่มตั้งแต่การศึกษาวิธีทำไข่มุก เข้าครัว พัฒนาสูตรเอง ลองผิดลองถูก จนได้ “ไข่มุกสูตรพิเศษที่คิดค้นเอง เรียกว่า ไข่มุกโมจิ” เริ่มเปิดสาขาแรกย่านสยามสแควร์ ริมถนนอังรีดูนังต์  

รายได้จากชานมไข่มุก ไม่ใช่สิ่งที่ผลักพวกเราให้วิ่งต่อ แต่เป็นอะไรก็ไม่รู้ข้างในตัวเรานี่แหละ รู้ตัวอีกทีก็ตกหลุมรักไปซะแล้ว ความรู้สึกเหมือนเริ่มเป็น YouTube Creator ใหม่ๆ

แม้จะเป็นเจ้าของธุรกิจแต่ยังแบ่งเวลาทำหน้าที่ YouTube Creator ต่อไป เพราะความผูกพันตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้ Bearhug คือชีวิตของ “กานต์กับซารต์” ไปแล้ว.