เพื่อนใหม่แคนนอน

แม้จะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของแบรนด์บริษัทข้ามชาติอย่างแคนนอน กับการแถลงผลประกอบการและนโยบายประจำปี ปี 2553 นี้วางเป้าหมายการเติบโตเพิ่มขึ้น 16% หรือ 8,000 บาท จากปี 52 มียอดขาย 6,883 ล้านบาท โดยกล้องดิจิตอลที่เป็นตัวยืนในตลาดแล้ว ปีนี้ เครื่องถ่ายเอกสารดิจิตอลยังคงเป็นตัวชูโรง ซึ่งมีเครื่องรุ่นใหม่ทยอยวางตลาด 23 รุ่น และกลุ่มสินค้า Consumer Imaging and Information สำหรับลูกค้าสำนักงานขนาดย่อมและบ้าน เน้นใช้กลยุทธ์ Social Networking ในการเข้าถึงลูกค้า

ในอีกด้านหนึ่ง แคนนอนยังได้เดินเกมรุกด้วยกลยุทธ์เปิด “หาเพื่อน” ใหม่ โดยเฉพาะพันธมิตรที่เป็น Cool Brand ทั้งหลาย

วาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริหารของแคนนอนประเทศไทย บอกว่า เป็นนโยบายใหม่ที่แคนนอนทั่วโลกจะ “หาเพื่อน” จับมือกับแบรนด์อื่นๆ ทั้งที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันและในต่างธุรกิจมากขึ้น ซึ่งปีที่ผ่านไปก็จับมือกับ Apple iPhone พัฒนา App ให้สามารถใช้ไอโฟนหรือไอโฟนหรือไอพ็อดทัชสั่งการเครื่องพิมพ์ของแคนนอนได้ และผลตอบรับเป็นยอดดาวน์โหลดแอพระดับหนึ่ง สะท้อนว่าลูกค้าแคนนอนไม่น้อยที่มีไอโฟนและชอบที่จะใช้สองอย่างนี้ด้วยกัน

เรื่องนี้บ่งบอกเทรนด์ทั่วโลกว่าผู้บริโภคยุคนี้ใช้อุปกรณ์แกดเจ็ตต่างๆ ร่วมกันไปมา สินค้าไหนที่ทำงานร่วมกับสินค้าต่างๆ ของแบรนด์อื่นๆ ได้ดีกว่าก็ได้เปรียบขึ้น ซึ่งแคนนอนระบุว่า จะไม่หยุดไว้แค่การจับมือกับแอปเปิล เพราะในปีนี้จะมีข่าวการจับมือกับแบรนด์อื่นๆ เพิ่มเติมอีกหลายราย

นอกจากกลยุทธ์จับมือกับ “Cool Brand” ในระดับโลกแล้ว ในไทยแคนนอนก็ยังมีกลยุทธ์ในการบุกตลาดนี้โดยเฉพาะ คือ การสร้างสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นร้านอัดพิมพ์รูปภูธรทั้งรายเดิมและขยายหารายใหม่ๆ ให้มากที่สุด

แคนนอนหมายตาจะให้ร้านรายย่อยจำนวนมากเหล่านี้ใช้โปรดักต์ของแคนนอนทั้งหมดในการพิมพ์รูปจากกล้องดิจิตอลจนออกมาเป็นอัลบั้ม และด้วยความที่มีสำนักงานในกรุงเทพฯ เท่านั้น แคนนอนจึงใช้นโยบายการขายต่างกันระหว่างในกรุงกับภูธร โดยในกรุงเทพฯ จะใช้ทีมขายตรง ในต่างจังหวัดขายผ่านดีลเลอร์ ซึ่งปีนี้จะเน้นการเพิ่มจำนวนดีลเลอร์ในต่างจังหวัดเป็นสำคัญ

ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นทั้งลูกค้าเครื่องพิมพ์รูป เป็นตัวแทนจำหน่ายกล้อง และเป็น “แนวหน้า” สัมผัสลูกค้าโดยตรง ทั้งรู้จักพฤติกรรมและมีอิทธิพลให้คำแนะนำต่างๆ กับลูกค้าตั้งแต่การเลือกกล้องไปถึงการพิมพ์รูปออกมาให้ได้ตรงความต้องการ เรียกว่าควบบทบาทเป็นทั้ง Customer, Channel และ Influencer ไปพร้อมๆ กัน แคนนอนจึงหมายมั่นปั้นมือจะยึดไว้ให้ได้มากที่สุดในปีนี้

ตลาดรวมกล้องดิจิตอล 2552 ราว 12,000 ล้านบาท
ชนิด Compact 8,000 ล้านบาท
DSLR 4,000 ล้านบาท
ที่มา : เจ๊บเซ่น แอนด์ เจ๊สเซ่น มาร์เก็ตติ้ง

ส่วนแบ่งตลาดแคนอนปี 2552
กล้องดิจิตอล DSLR 61%
กล้อมคอมแพค 19%
กล้องวิดีโอดิจิตอล 6.5%