“ทีวีโฮมช้อปปิ้ง” ครึ่งปีหลังยอดร่วง! ผลพวง 7 ช่องทีวีดิจิทัล “ลาจอ” หันพึ่งทีวีดาวเทียม-ออนไลน์

สื่อทีวีดิจิทัล ถือเป็นหนึ่งในช่องทางนำเสนอสินค้าของธุรกิจโฮมช้อปปิ้งและไดเร็คเซล การปิดฉากทีวีดิจิทัล 7 ช่อง จึงสะเทือนตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งครึ่งปีหลังอยู่ในอาการติดลบ

ธุรกิจ “ทีวีโฮมช้อปปิ้ง” รายการแนะนำสินค้า มีการนำเสนอ 2 รูปแบบ คือ “โฮม ช้อปปิ้ง” เป็นช่องรายการ 24 ชั่วโมง ทั้งช่องทีวีดาวเทียมและช่องทางออนไลน์ ส่วน “ทีวี ช้อปปิ้ง” คือ การเช่าเวลาหรือซื้อเวลาโฆษณาทางสถานีทีวี เพื่อออกอากาศรายการแนะนำสินค้าเป็นช่วงๆ ปัจจุบัน “ทีวีดิจิทัล” ถือเป็นหนึ่งในช่องทางหลังรายการแนะนำสินค้าของธุรกิจไดเร็คเซล

ครึ่งปีหลังทีวีโฮมช้อปปิ้งยอดร่วง

สมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง (ประเทศไทย) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก “ทรูซีเล็คท์-ช้อปแชนแนล-โอช้อปปิ้ง-ทีวีดีช้อป-ไฮช้อปปิ้ง-ทีวีไดเร็ค” รายงานธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้ง 6 เดือนแรก ปี 2562 มีมูลค่า 7,351 ล้านบาท เติบโต 12.11% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลังคาดตลาด “ติดลบ” 5.62% หรือมีมูลค่า 6,983 ล้านบาท จากปัจจัยเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคและปัจจัยผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลคืนช่องยุติออกอากาศ 7 ช่อง ทำให้ช่องทางนำเสนอรายการของทีวีช้อปปิ้งหายไป

แต่หากย้อนไปช่วง 5 ปีนี้ ธุรกิจทีวีโฮม ช้อปปิ้ง เติบโตมาต่อเนื่อง ปี 2558 มีมูลค่า 8,444 ล้านบาท เติบโต 17.5% ปี 2559 มูลค่า 9,840 ล้านบาท เติบโต 14.2% ปี 2560 มูลค่า 11,670 ล้านบาท เติบโต 15.7% ปี 2561 มูลค่า 13,820 ล้านบาท เติบโต 15.5%

ทรงพล ชัญมาตรกิจ นายกสมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง (ประเทศไทย) กล่าวว่าการเติบโตของธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้ง ช่วงที่ผ่านมามีปัจจัยจากมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะเจ้าของช่องทีวีดิจิทัล ช่อง 8 (อาร์เอส) เวิร์คพอยท์ทีวี โมโน อมรินทร์ทีวี และผู้ประกอบการทีวีช่องอื่นๆ ที่เริ่มเข้ามาทำธุรกิจนี้

ทรงพล ชัญมาตรกิจ

ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ประกอบการโฮมช้อปปิ้งเอง ก็ได้เข้ามาเช่าเวลาและซื้อเวลาออกอากาศรายการแนะนำสินค้าในช่องทีวิดิจิทัลด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นสื่อที่เข้าถึงครัวเรือนไทยทั่วประเทศ ผู้ชมกลุ่มหลักอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกับธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้ง ดังนั้นการยุติออกอากาศทีวีดิจิทัล 7 ช่อง ซึ่งมีรายการทีวีโฮมช้อปปิ้งออกอากาศอยู่ด้วย จึงส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดครึ่งปีหลัง ให้อยู่ในภาวะ “ติดลบ” และทำให้ยอดขายทั้งปีของภาพรวมธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้ง ปี 2562 อยู่ที่ 14,334 ล้านบาท เติบโต 11% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี

การทำธุรกิจยุคนี้ คาดเดาตลาดได้ยาก ธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งไตรมาสแรกปีนี้ ยังเติบโตได้ดี พอไตรมาส 2 กสทช. เปิดให้ทีวีดิจิทัลคืนช่อง ตลาดเริ่มชะลอตัว และครึ่งปีหลังถึงกับติดลบ

เช่าเวลาช่องใหม่-ทีวีดาวเทียม-รุกออนไลน์

ในภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัวทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาถดถอยเช่นกัน ปัจจุบันเม็ดเงินโฆษณาทีวีมาจาก เอเยนซีที่ดูแลลูกค้ากลุ่มอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ มีสัดส่วนราว 60% ลูกค้าซื้อตรงกับสถานีทีวี 30% และกลุ่มทีวีโฮมช้อปปิ้ง 10%

พบว่าเม็ดเงินโฆษณาจากเอเยนซี่ผ่านทีวีลดลง เพราะหันไปใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นธุรกิจโฮมช้อปปิ้งจึงมีโอกาสไปเช่าเวลาและซื้อเวลาโฆษณาในช่องทีวีดิจิทัลที่ยังเหลืออยู่ รวมทั้งหันไปขยายช่องทางทำตลาดผ่านช่องทีวีดาวเทียม ซึ่งในปีที่ผ่านมามีสัดส่วนการรับชมอยู่ที่ 53.26% รวมทั้งช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และมาร์เก็ตเพลสต่างๆ

ปัจจุบันธุรกิจโฮมช้อปปิ้งในไทย มีสัดส่วนเพียง 0.1% ของมูลค่าค้าปลีกไทย ขณะที่เกาหลีอยู่ที่ 5% นั่นเท่ากับโอกาสเติบโตได้อีกมาก.