ออเจ้าบุกอินโด! ราชาวาลีทีวีซื้อลิขสิทธิ์ “บุพเพสันนิวาส” เปิดตลาดละครไทยในแดนอิเหนา

ราชาวาลีทีวี สถานีโทรทัศน์ชั้นนำของประเทศอินโดนีเซีย บรรลุข้อตกลงกับ บริษัท เจเคเอ็น โกล บอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ในการนำบุพเพสันนิวาส ละครของช่อง 3 ไปออกอากาศที่ช่องราชาวาลีทีวี หรือ RTV 

ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของละครจากประเทศไทยที่ได้ออกฉายทางโทรทัศน์ที่ประเทศอินโดนีเซีย ข้อตกลงนี้ถือเป็นครั้งแรกระหว่าง เจเคเอ็น และราชาวาลีทีวี นับเป็นอีกก้าวสำคัญของเจเคเอ็นในการนำคอนเทนต์ของประเทศไทยไปต่างแดน โดยประเทศอินโดนีเซียถือเป็น 1 ในตลาดที่มีความสำคัญอีกประเทศหนึ่ง ด้วยประชากรกว่า 250 ล้านคน จาก 56 ล้านครัวเรือน

ราชาวาลีทีวี หรือ RTV จะนำบุพเพสันนิวาสออกอากาศบนฟรีทีวี ซึ่งสามารถรับชมได้มากกว่า 200 เมืองทั้งประเทศ โดย RTV ยังสามารถรับชมได้ทางดาวเทียม เคเบิลทีวี รวมถึงดิจิทัลแพลตฟอร์มในประเทศ โดย RTV จะมีการทำการตลาด เพื่อโปรโมตบุพเพสันนิวาส ทั้งทางทีวีและบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม

“บุพเพสันนิวาส” เป็นผลงานของ บมจ.บีอีซีเวิลด์ หรือ ช่อง 3 ซึ่งผลิตโดย บจก.บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น เป็นละครที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยมากที่สุด ทั้งกระแสความนิยมในละครและนักแสดง อีกทั้งยังสร้างกระแสทางบวกต่อสังคมไทยอย่างกว้างขวาง อาทิ กระแสรักษ์ความเป็นไทย ที่สามารถกระตุ้นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยให้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ละครออกอากาศ โดยทางอินโดนีเซียจะมีการพากย์เป็นภาษาอินโดนีเซีย หรือภาษา Bahasa เพื่อผู้ชมชาวอิเหนาทุกคนจะได้อรรถรสในการรับชมมากขึ้น

สำหรับช่อง 3 แล้ว การที่ละครบุพเพสันนิวาสได้ออกอากาศที่อินโดนีเซียครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการขยายตลาดของคอนเทนต์ไปตลาดต่างประเทศ หลังจากการขายคอนเทนต์ละครไปยังประเทศเกาหลีเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งก็เป็นครั้งแรกของละครไทยในเกาหลี โดยมีเจเคเอ็นเป็นผู้ดำเนินการรวมถึงประเทศอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกาใต้  

อริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการได้แสดงความยินดีต่อข้อตกลงนี้ ซึ่งถือเป็นการเริ่มมิติใหม่ของละครไทยที่ได้ออกอากาศที่อินโดนีเซีย โดยเปิดเผยว่า “การที่บุพเพสันนิวาสเป็นละครไทยเรื่องแรกจากประเทศไทยที่ได้ออกอากาศบนโทรทัศน์ของอินโดนีเซีย ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวสำหรับ บีอีซี เวิลด์ พวกเราหวังว่าผู้ชมอินโดนีเซียจะรักละครไทยเหมือนกับอีกหลายๆ ประเทศ สำหรับบุพเพสันนิวาส ผมเชื่อว่าจะทำให้ผู้ชมในประเทศอินโดนีเซียได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น ทั้งเรื่องของวัฒนธรรม อาหาร การแต่งกาย และสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของไทย ผ่านละครเรื่องนี้ และ ผมหวังว่าจากก้าวแรกนี้ ต่อไปก็จะมีก้าวต่อๆ ไปกับการทำงานร่วมกับ ราชาวาลีทีวี ในอินโดนีเซียอีกด้วย”