แค่เดลิเวอรี่ถึงบ้านยังน้อยไป Walmart เปิดบริการให้พนักงานไปเติมสินค้าในตู้เย็นให้เลย!

Walmart เปิดตัวบริการ InHome Delivery ที่ลูกค้าสามารถสั่งให้พนักงานนำสินค้ามาเติมให้ที่ตู้เย็นโดยตรงแม้จะไม่ได้อยู่บ้าน ต้องสมัครสมาชิกบริการจัดส่ง InHome เริ่มต้นที่ 19.95 เหรียญสหรัฐต่อเดือน และต้องซื้อสินค้าอย่างน้อย 30 เหรียญต่อครั้ง

ดูเหมือนว่าตลาดค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาจะต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดกันยกใหญ่ อย่างร้านซูเปอร์มาร์เก็ตก็ต้องปรับตัวเช่นกัน Walmart จึงต้องเปิดบริการใหม่ที่เอาใจคนรักสะดวกสบายอย่างเต็มที่ ปรับตัวเข้าหาลูกค้า ในวันที่เดินเข้าร้านน้อยลง

แต่คนที่ใช้บริการนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยแต่อย่างใด เพราะ Walmart ใช้เทคโนโลยี Smart-lock ที่ควบคุมจากโทรศัพท์มือถือ ขณะที่พนักงานจะติดตั้งกล้องบันทึกภาพตลอดกระบวนการจัดเรียงสินค้าในตู้เย็น ซึ่งลูกค้าสามารถชมไลฟ์สตรีมวิดีโอได้จากทุกที่ทุกเวลา

ต้องเร็ว และสบายที่สุด

ขั้นตอนบริการ InHome Delivery ของ Walmart สะท้อนความเคลื่อนไหวสำคัญในวงการเดลิเวอรี่ ที่ต้องแข่งขันกันแย่งชิงลูกค้าด้วยการนำเสนอความเร็วและความสะดวกสบายสูงสุด

ลูกค้ามากกว่า 1 ล้านคนสามารถเลือกวิธีการจัดส่งสินค้าแบบใหม่ หลังจากที่พนักงานของ Walmart เป็นผู้รวบรวมสินค้า และของใช้ในบ้านที่ลูกค้าสั่งซื้อออนไลน์

จากนั้นพนักงานจะส่งสินค้าไปถึงในห้องครัวหรือส่วนอื่นของบ้านลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทำให้บ้านเปิดล็อกได้ด้วยรหัสสำหรับป้อนครั้งเดียว จุดนี้เจ้าของบ้านจะสามารถดูการจัดส่งสินค้าผ่านสมาร์ทโฟนของตัวเองได้ โดยที่พนักงานของ Walmart จะไลฟ์สดระหว่างการจัดส่ง ซึ่งหากลูกค้าไม่กดเปิดประตู บ้านของลูกค้าก็จะไม่ปลดล็อก

ต้องเสียค่าเทคโนโลยีเสียหน่อย

แม้จะมีโปรโมชั่นให้บริการฟรีเดือนแรก แต่เงื่อนไขหลักของบริการ Walmart InHome Delivery คือลูกค้าจะต้องสมัครสมาชิกบริการจัดส่ง InHome เริ่มต้นที่ 19.95 เหรียญสหรัฐต่อเดือน (ราว 600 บาท) และผู้ซื้อจะต้องซื้อสินค้ามูลค่าอย่างน้อย 30 เหรียญต่อครั้ง สามารถสั่งซื้อการจัดส่งได้บ่อยเท่าที่ต้องการแบบไม่จำกัดความถี่ ขณะที่ระบบล็อกบ้านอัจฉริยะหรือ smart-lock ราคา 49.95 เหรียญสหรัฐ (ราว 1,500 บาท) ติดตั้งฟรี

walmart

Bart Stein รองประธานอาวุโสของ Walmart บอกว่า “บริการ InHome เป็นก้าวไปอีกขั้นเพื่อให้ลูกค้าของ Walmart สามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องไปที่ร้านหรืออยู่บ้านเพื่อรับสินค้า ซึ่งจะส่งผลให้ Walmart สามารถขยายธุรกิจได้อีกทางในวันที่ลูกค้าเดินทางเข้าร้าน Walmart น้อยลง”

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Walmart คือการออกแถลงการณ์ว่าจะหยุดขายบุหรี่ไฟฟ้า หลังจากพบเหตุผู้สูบมีอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับการสูบจนทำให้ต้องสอบสวนสินค้าเพิ่มเติม

ค้าปลีกอเมริกันปรับตัว

ในช่วงเวลาที่ลูกค้าช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น ผู้ค้าปลีกอเมริกันต่างพยายามปรับตัวให้โดดเด่นกว่าด้วยการจัดส่งสินค้าได้เร็วกว่าคู่แข่ง ขณะที่แบรนด์ค้าปลีกหลายแห่งมีแผนปิดร้านสาขาต่อเนื่องจนถึงปีหน้า

นอกจาก Walmart แบรนด์เก่าแก่อย่าง Walgreens จะกลายเป็นร้านแรกในประเทศที่เริ่มจัดส่งสินค้าด้วยโดรน ขยายผลจากการเริ่มต้นโครงการนำร่องในเมือง Christiansburg ช่วงเดือนนี้ ชัดเจนว่าการแข่งขันเรื่องเดลิเวอรี่ในสหรัฐฯ นั้นรุนแรงขึ้น ไม่เฉพาะคู่ฟัดรายหลักอย่าง Walmart และอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon

Amazon นั้นประกาศว่าจะสามารถเริ่มใช้โดรนขับขี่ด้วยตัวเองเพื่อส่งสินค้าได้ภายในไม่กี่เดือนนับจากนี้ พร้อมระบุว่าได้เริ่มทดสอบหุ่นยนต์จัดส่งตั้งแต่ต้นปีนี้ นอกจากนี้ยังมีบริการตู้เก็บสินค้าที่ลูกค้าสามารถรับสินค้าที่สั่งซื้อไว้ได้ โดยตู้จะถูกตั้งไว้ในสถานที่สาธารณะตั้งแต่โรงแรม ไปจนถึงธนาคารในพื้นที่ชุมชน

แม้ Walmart จะเพิ่งเปิดตัวบริการนี้เมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา แต่วันนี้ Walmart สามารถขยายบริการจนพร้อมรองรับลูกค้าในสหรัฐฯ เกิน 1 ล้านรายในพื้นที่แคนซัสซิตี้, พิตต์สเบิร์ก และเวโรบีช รัฐฟลอริดา เป็นการเปิดบริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่อังคารที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ก้าวใหม่ของ Walmart ถือว่ายังตามหลัง Amazon ที่เปิดให้บริการเดลิเวอรี่แบบในบ้านหรือ in-home delivery มาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว และได้ขยายบริการอื่นในเครือออกไปอีกหลากหลาย เช่น บริการส่งสินค้าถึงในรถ (in-car delivery) และล่าสุดคือส่งสินค้าถึงในโรงรถ (in-garage delivery)

ทั้งหมดนี้แปลว่าวงการเดลิเวอรี่จะมีสีสันอีกมากแน่นอน

ที่มา : The Verge, Business Insider, USA Today