เอสซี แอสเสท สร้างศูนย์การเรียนรู้เด็กในแคมป์ก่อสร้างแห่งแรก กับโครงการ “บ้านคิดส์มิตรฉัน (Kids Mission) ภายใต้แนวคิด Zero waste ที่โครงการเนเบอร์ฮูด บางกะดี

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC Asset หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของประเทศ  ด้วยพันธกิจ For Good Mornings สร้างทุกเช้าที่ดี ให้ลูกค้าทุกคน พร้อมสร้างความปลอดภัยและบริการอย่างอบอุ่น เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสังคมจะเติบโตอย่างมีคุณภาพ จึงเป็นที่มาของโครงการบ้านคิดส์มิตรฉัน (Kids’ Mission) ศูนย์การเรียนรู้เด็กในแคมป์ก่อสร้างแห่งแรก ภายใต้แนวคิด Zero waste ที่นำวัสดุเหลือใช้จากงานก่อสร้างและงานขายจากโครงการต่างๆ  มาพัฒนาและสร้างสรรค์พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก  เพื่อส่งเสริมทักษะ การเรียนรู้ และพัฒนาคุณภาพชีวิต  สิ่งสำคัญ คือ จะช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุในระหว่างการปฏิบัติงาน โดยได้ก่อสร้างโครงการนำร่องที่บางกระดี จ.ปทุมธานี

โครงการบ้านคิดส์มิตรฉัน (Kids’ Mission) เป็นความร่วมมือระหว่างเอสซี แอสเสท กับผู้รับเหมา และพันธมิตรต่างๆ ทางธุรกิจ เพื่อก่อสร้างโครงการภายใต้แนวคิด Zero waste ที่นำวัสดุเหลือใช้จากงานก่อสร้างและงานขายจากโครงการต่างๆ โดยสามารถนำวัสดุมาใช้ซ้ำได้ถึง 50% เช่น แผ่นฉนวนกันความร้อน กรอบหน้าต่าง ประตูอะลูมิเนียม บ้านประตูที่นำมาทำเป็นผนัง เหล็กรูปพรรณ เฟอร์นิเจอร์อื่นๆ มาพัฒนาและสร้างสรรค์พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุในระหว่างการปฏิบัติงาน ลดข้อกังวลเรื่องลูกของแรงงาน ซึ่งจะนำไปสู่การมีสมาธิและความตั้งใจที่ดีในการทำงาน เพื่อสร้างผลงานที่ดีทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพงานก่อสร้างจนกลายเป็น Quality of EcoSystem และอีกหนึ่งพันธมิตรที่สำคัญ ได้แก่ มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ที่เข้ามาวางหลักสูตรและดูแลเด็กๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กในแคมป์ก่อสร้าง ส่งเสริมกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ ปรับพื้นฐานการเรียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐาน และส่งเสริมทักษะชีวิตทั้งทางด้านอารมณ์ จิตใจ และสังคม เพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กสามารถเข้ารับการศึกษาต่อในระดับประถมศึกษาได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยโครงการนำร่องที่บางกระดี จ.ปทุมธานี เป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ระยะเวลาของโครงการ 4-5 ปี มีคนงานประมาณกว่า 700 คน และมีเด็กๆ ลูกหลานคนงานที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 15 ปี จำนวน 40 คน ทั้งกัมพูชา ลาว พม่า มอญ และไทย ซึ่งโครงการบ้านคิดส์มิตรฉันนี้เปิดรับลูกหลานแรงงาน ตั้งแต่อายุ 3-15 ขวบ เปิดวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 16.30 น. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นางสาวสุดารัตน์ เจริญเกตุมงคล หัวหน้าสายงานบริหารลูกค้าและการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทุกโครงการของเอสซีฯ ล้วนเกิดขึ้นจากการ Co-creation หรือการสร้างคุณค่าร่วมกัน โดยเกิดจากการเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละจุดอย่างจริงจัง เพื่อผลักดันให้ทุกๆ โครงการสามารถพัฒนาจากความคิดสู่การปฏิบัติจริงเพื่อสร้างเช้าวันใหม่ที่ดีให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน แม้แต่ ‘คนงาน’ ที่หลายคนมองว่าเป็นเพียงกลไกเล็กๆ แต่เอสซีฯ เชื่อมั่นในฝีมือแรงงานที่มีพลังมหาศาลที่พร้อมจะเติบโตและสร้างบ้านที่มีคุณภาพไปด้วยกัน เอสซีฯ จึงต้องการที่จะเป็นส่วนช่วยดูแลลูกหลานเหล่านี้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านสังคม และหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุในระหว่างการปฏิบัติงาน โดยการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการเล่น เลี้ยง เรียนกัน… ฉันมิตร ให้กับเด็กๆ ที่จะเติบโตไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน เป็นอนาคตของชาติต่อไป ซึ่งผลพลอยได้ที่เกิดขึ้นก็คือ คนงานไม่เปลี่ยนงานบ่อย เพราะเอสซีและผู้รับเหมาดูแลคนงานและครอบครัวเป็นอย่างดี และเมื่อคนงานทำงานอย่างต่อเนื่องก็ย่อมส่งผลให้สามารถพัฒนาฝีมือแรงงานได้ดียิ่งขึ้น”

ส่วนในเรื่องการจัดการดูแลโครงการบ้านคิดส์มิตรฉัน เอสซี แอสเสทได้ร่วมมือกับมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการดูแลแรงงานไทยและต่างด้าว มีความเข้าใจด้านภาษา สังคม และวัฒนธรรมของชาติต่างๆ เป็นอย่างดี โดยในแต่ละวันจะมีคุณครู และเจ้าหน้าที่จำนวน 3 คนคอยดูแลและสอนเด็กๆ สามารถสื่อสารได้หลากหลายภาษา ทั้งพม่า กัมพูชา ไทย และอังกฤษได้เป็นอย่างดี เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับลูกหลานแรงงานเหล่านี้ ซึ่งที่บ้านคิดส์มิตรฉันจะมีอาหารว่างในช่วงเช้า-บ่ายให้ ตอนกลางวันเด็กๆ จะกลับไปกินข้าวกับพ่อแม่ที่บ้าน ในช่วงบ่ายสำหรับเด็กเล็กๆ จะหลับกลางวันประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนเด็กโตจะมีกิจกรรมเรียนรู้อื่นๆ โดยหลังจากที่เปิดโครงการบ้านคิดส์มิตรฉันมาได้กว่า 3 สัปดาห์ คนงานไว้วางใจและส่งบุตรหลานมาเข้าร่วมโครงการเยอะขึ้นทุกวัน จากปากต่อปากของเด็กๆ ที่ไปชักชวนเพื่อนๆ เองด้วย เด็กๆ ที่มาสนุกมาก เราเห็นได้จากรอยยิ้มและแววตาของน้องๆ เด็กบางคนมารอคุณครูกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า ซึ่งผลตอบรับที่เห็นได้อย่างเด่นชัดนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และทำให้ เอสซีI อยากที่จะพัฒนาโครงการดีๆ แบบนี้ที่แคมป์ก่อสร้างอื่นๆ ตามมาในอนาคต สุดารัตน์กล่าวเสริม