ยกเลิกให้สิทธิลดภาษีซื้อ LTF แล้วยังน่าลงทุนต่ออีกหรือไม่?

บทความโดย : THE RICHEST MAN

ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีถือเป็นช่วงเวลาของมนุษย์เงินเดือนหรือคนที่มีรายได้ต้องหาเครื่องมือมาช่วยบริหารจัดภาษีเงินได้ที่สามารถเลือกใช้ได้หลายแบบ แต่ในบทความนี้ขอไฮไลท์ที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund) หรือหลายคนรู้จักกันในชื่อกองทุน LTF  เพื่อนำมาช่วยลดหย่อนภาษี

เพราะจะเป็นโอกาสสุดท้ายของคนที่ซื้อ LTF ภายในสิ้นปีนี้ที่ยังได้โปรโมชั่นของแถมคือ สิทธินำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ หลังจากรัฐบาลออกมาประกาศชัดเจนว่าไม่ต่ออายุให้นำ LTF นำมาลดภาษีได้อีกต่อไป 

หมายความว่า กองทุน LTF ยังมีขายต่อไปได้ต่อเรื่อยๆ แต่คนซื้อ LTF ตั้งแต่ วันที่ 1 .. 2563 เป็นต้นไปจะถูกยกเลิกของแถมเป็นสิทธิลดหย่อนภาษีทันที

มาทำความรู้กองทุน LTF คืออะไร ?

LTF เป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนเน้นหุ้นที่อยู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สัดส่วนไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินกองทุน โดยกองทุนแต่ละกองอาจจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน เช่น เน้นเลือกลงทุนในหุ้น SET50 หรือเลือกเป็นหุ้นตามกลุ่มอุตสากรรม หรืออาจเป็นหุ้นที่ผู้จัดการกองทุนเป็นผู้เลือกให้ขึ้นกับรายละเอียดของนโยบายการลงทุนของกองทุนนั้นๆ ที่กำหนดไว้

เงินปันผลก็เป็นอีกโอกาสของผู้ซื้อ LTF ด้วย แต่ขึ้นกับนโยบายของกองทุนด้วยเช่นกันซึ่งจะมีการกำหนดเงื่อนไขไว้ว่ากองทุนนั้นๆ จะจ่ายหรือไม่จ่ายซึ่งจะแจ้งให้ทราบตั้งแต่ก่อนลงทุน

LTF เหมาะกับใคร?

LTF เหมาะกับทุกที่ต้องการได้ผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในตลาดหุ้นในระยะยาว และได้สิทธลดหย่อนภาษีได้(หากซื้อภายในสิ้นปีนี้ซึ่งจะมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพมาช่วยคัดกรองเลือกหุ้นดีๆ และช่วยเฝ้าติดตามแทนเราที่ไม่ต้องมานั่งตาลายเลือกหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอนนี้ที่มีมากกว่า 700 ตัว เพราะหากเราต้องมาเลือกหุ้นเป็นตัวๆเอง หากไม่มีเวลาติดตามดูหุ้นที่ซื้อเอง ด้วยภาระหน้าที่การงานก็มีความเสี่ยงสูงที่จะขาดทุนได้สูง

LTF ให้ผลตอบแทนดีแค่ไหน?

ผลตอบแทนของ LTF หากจะดูผลตอบแทนเฉลี่ยให้เห็นภาพแบบง่ายๆ แล้วสามารถเทียบเคียงกับผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยได้เพราะ LTF นั้นมีนโยบายลงทุนให้หุ้นไทยเป็นหลักซึ่งมีโอกาสเติบโตที่ดีในระยะยาว โดยข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) รายงานว่าในช่วง 10 ปีย้อนหลังระหว่างปี 2551-2560 การลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดที่ 11.61% เมื่อเปรียบกับสินทรัพย์อื่นๆ ได้แก่ เงินฝากประจำ 1 ปีที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.73% ทองคำให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.50% และตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5.15% แต่ผลตอบแทนของ LFT แต่ละกองที่ซื้อนั้น อาจมากหรือน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นได้บ้างขึ้นตัวที่คัดเลือกเข้ามาในกองทุน โดยจะเห็นได้ว่ามีการลงทุนในตลาดหุ้นประเภทเดียวเท่านั้นที่ในช่วง 10 ปีย้อนหลังที่สามารถให้ผลตอบแทนเกิน 10% ถือว่าตอบโจทย์ของการออมเงินลงทุนระยะยาวได้เป็นอย่างดี

LTF ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่

สิทธิในการลดหย่อนภาษีถึง 15% ของรายได้และไม่เกิน 500,000 บาท โดยคนที่มีฐานภาษีสูงจะได้ประโยชน์จากการซื้อ LTF มากกว่าคนที่มีฐานภาษีต่ำกว่า เช่น หากฐานภาษีของเราอยู่ที่ 30% ถ้าซื้อ LTF จำนวน 1,000 บาท เราจะนำเงินส่วนนี้มาหักจากรายได้พึงประเมิน 1,000 บาทคำนวณแล้วเราจะประหยัดภาษีได้ 1,000 x 30% = 300 บาท (เหมือนซื้อ LTF ราคา 1,000 บาท ที่ต้นทุน 700 บาท) แต่ถ้าหากฐานภาษีของเราอยู่ที่แค่ 10% คำนวณแล้วเราจะประหยัดภาษีได้ 1,000 x10% = 100 บาท (เหมือนซื้อ LTF ราคา 1,000 บาท ที่ต้นทุน 900 บาท)

เงื่อนไข LTF เป็นอย่างไร

ผู้ซื้อกองทุน LTF ไม่มีข้อจำกัดจำนวนเงินสูงสุด แต่กฎหมายกำหนดให้สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี เช่น มีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีรวมทั้งปี 1,000,000 บาท จะสามารถลงทุนในกองทุนรวม LTF ได้สูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท x 15% = 150,000 บาท ถ้าซื้อเกินสิทธิ เงินส่วนที่เกินจะนำมาใช้เป็นค่าลดหย่อนภาษีไม่ได้ แถมยังต้องถือต่อไปจนครบระยะเวลา คืออย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน

เลือกลงทุน LTF กองไหนดี

ทุก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ).ที่มีกองทุน LTF วางขายถือว่ามีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญการลงทุนโดยเฉพาะมาช่วยดูแลเงินที่เราฝากไว้ไปลงทุนต่อแทนเรา สิ่งสำคัญที่ควรศึกษาให้ดีก่อนซื้อ LTF คือ การอ่านจากหนังสือชี้ชวนที่มีข้อมูลสำคัญที่จะบอกถึงรายละเอียดนโยบายการลงทุนหรือเงื่อนไขสำคัญที่ต้องรู้ สามารถหาอ่านได้จากเว็บไซต์ของกองทุนนั้น รวมถึงสามารถเช็คฝีมือการบรหารกองทุนนั้นๆที่เราจะนำเงินไปใส่ลงทุนว่าผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปี 3 ปี หรือ 5 ปี ถ้าเป็นกองทุนที่จ่ายปันผลก็ต้องดูว่าจ่ายปันผลเท่าไหร่ สม่ำเสมอหรือไม่ แต่อย่าลืมว่าผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นเครื่องการันตีผลการดำเนินการในอนาคต

ดังนั้นจากนี้จะเข้าสู่ช่วงเวลาถอยหลังกับการซื้อ LFT กับโค้งสุดท้ายที่จะได้ของแถมเป็นสิทธิลดหย่อนภาษีแล้ว แต่ถึงแม้ในตั้งแต่ 1 ..ปีหน้า หากซื้อ LTF จะเลิกแจกของแถมแล้ว แต่ยังต้องบอกว่า LTF ยังเป็นทางเลือกการลงทุนที่ยังน่าสนใจไม่น้อย หากดูตัวเลขผลตอบแทนเฉลี่ยที่ได้รับในอดีตกับโอกาสการเติบโตของหุ้นในอนาคต เพราะอย่าลืมว่าเป้าหมายของการซื้อ LTF จริงๆ แล้วคือ การบริหารจัดการเงินออมเพื่อสร้างตอบแทนที่ดีในระยะยาว ส่วนสิทธิลดหย่อนภาษีเหมือนของแถมที่หมดโปรโมชั่นลง หากได้มาก็ดี แต่ถ้าไม่ได้เป้าหมายหลักเพื่อสร้างเงินออมของเราให้เพิ่มขึ้นก็ยังต้องมีต่อไป.