พัฒนาอสังหาฯ แบบ “วริษา ภาสกรนที” กำไรช้าไม่เป็นไร แต่ขอสร้างสิ่งที่อิมแพคกับเมือง

11 ปีที่วริษา ภาสกรนทีลูกสาวของตัน ภาสกรนที หรือตัน อิชิตันก้าวเข้ามาทำธุรกิจกับครอบครัวในกลุ่มกิจการอสังหาริมทรัพย์ และเมื่อ 2 ปีก่อนครั้งโครงการ T-ONE เริ่มพัฒนาก่อสร้าง ตันได้ประกาศมอบให้ลูกสาวเป็นผู้คุมธุรกิจนี้แทนตนเอง

ตัน ภาสกรนที นั้นนอกจากทำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มแล้วเขายังเป็นนักสะสมที่ดินตัวยง แม้หลายแปลงมีการขายออกเปลี่ยนมือไปแล้ว แต่อีกหลายแปลงของเขาตัดสินใจลงทุนพัฒนาเอง โดยปัจจุบันอสังหาฯ ในมือของภาสกรนทีมีทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่

  1. โรงแรม วิลล่า มาร็อค ปราณบุรี จำนวนห้องพัก 15 ห้อง
  2. โรงแรม ยู นิมมาน จำนวนห้องพัก 147 ห้อง
  3. คอมมูนิตี้ มอลล์ วัน นิมมาน พื้นที่ 13 ไร่
  4. อาคารสำนักงาน T-ONE ทองหล่อ พื้นที่ให้เช่า 22,500 ตร.ม.

ทุกที่ได้ถ่ายโอนให้วริษาดูแลควบคุมกิจการ พร้อมที่ดินอีกหลายแปลงกระจัดกระจายใน จ.เชียงใหม่ และ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งวริษาขอไม่ตอบชัดเจนว่ามีมากน้อยแค่ไหน

มองไปในอนาคต ธุรกิจอสังหาฯ คงไม่ใช่แหล่งเงินแหล่งใหม่ให้กับเครืออิชิตัน ด้วยแม่ทัพคนปัจจุบันมองกิจการนี้ว่าจะขับเคลื่อนด้วย “แพสชั่น” ไม่ได้วางเป้าหมายการเติบโตเชิงตัวเลข แต่ต้องการพัฒนาสิ่งที่เธอชื่นชอบ

โครงการวัน นิมมาน คอมมูนิตี้ มอลล์ ในพอร์ตของภาสกรนที (photo: facebook@onenimman)

“ความชอบของเราคือทำโครงการที่สร้างแลนด์สเคปสวยงามให้กับเมือง เราอยากทำอะไรที่ทิ้งไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้” วริษาเปิดใจ “หลายๆ โปรเจกต์ พูดจริงๆ ว่าถ้าดู feasibility (วิเคราะห์ผลตอบแทนทางธุรกิจ) เราทำไม่ได้เลยนะ แต่เราทำเพราะมันเป็นแพสชั่น อย่างโครงการวัน นิมมานเป็นที่ที่เราชอบมาก เราไม่ทำเหมือนพื้นที่ข้างเคียง มีที่ให้ทำกิจกรรม มีดนตรี มีเต้นสวิงแดนซ์ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เติมเต็มตัวเรา”

โครงการ วัน นิมมาน เป็นคอมมูนิตี้มอลล์กลิ่นอายยุโรปที่เปิดตัวเมื่อปีก่อน โดยเป็นพื้นที่เช่า 40 ปี ปัจจุบันมีทราฟฟิก 7,000 คนต่อวัน (ช่วงสุดสัปดาห์) และเป็นแลนด์มาร์กถ่ายรูปใหม่ของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งวริษาบอกว่า การลงทุนโครงการนี้จะคืนทุนช้ากว่าการออกแบบพัฒนาปกติที่มีร้านค้าเต็มแน่นทุกตารางนิ้ว แต่เธอยอมได้ที่จะได้กำไรช้า

อาคารสำนักงาน T-ONE ออกแบบเป็นตึกทรงบิดเกลียว

แนวคิดแบบเดียวกันถูกใช้กับโครงการ T-ONE ที่สร้างเสร็จให้ผู้เช่าเข้าตกแต่งต้นปีนี้ โครงการนี้ บริษัท ทีวัน บิวดิ้ง จำกัด ที่วริษานั่งตำแหน่งเอ็มดีลงทุนไป 3,000 ล้านบาท บนที่ดินเก่าที่ตันเก็บสะสมมานานนับสิบปี ปัจจุบันมีผู้เช่าเต็ม 100% ค่าเช่าเฉลี่ย 1,200 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน เป็นสำนักงานที่แพงที่สุดในทองหล่อ ราคาเทียบได้กับตึกอินเตอร์เชนจ์ อโศก หรือตึกดิ ออฟฟิศเซส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ และสูงกว่าราคาเฉลี่ยของสำนักงานเกรดเอทั้งกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ที่ 902 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน

วริษาเล่าว่า แต่เดิมพื้นที่โครงการ T-ONE จะสร้างเป็นคอนโดมิเนียม แต่เมื่อปรึกษากับ โจนส์ แลง ลาซาลล์ (JLL) ที่ปรึกษาพัฒนาโครงการ พบว่ามีดีมานด์สำนักงานเกรดเอบนทองหล่อซึ่งย่านนี้ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งวริษามองว่าการสร้างสำนักงานจะเกิด ‘อิมแพค’ กับพื้นที่ได้ดีกว่าสร้างคอนโดฯ แม้ว่าถ้าเลือกพัฒนาคอนโดฯ จะได้ทุนคืนเร็วขณะที่อาคารสำนักงานกว่าจะคืนทุนอาจต้องใช้เวลา 9-10 ปี

เมื่อถามถึงโครงการอนาคต วริษาบอกว่าบริษัทไม่ได้มีแผนชัดเจนว่าต้องพัฒนาโครงการใหม่ปีละกี่แห่ง “ขึ้นอยู่กับที่ดินที่ได้มามากกว่า” เธอกล่าว

แต่ก็แย้มว่าบริษัทกำลังเซ้งโครงการคอมมูนิตี้มอลล์แห่งหนึ่งบนถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 6 และกำลังรวมแปลงข้างเคียงเพื่อปรับโฉมห้างฯ แห่งนี้ใหม่

วริษา ภาสกรนที
วริษา ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวัน บิวดิ้ง จำกัด

วริษายังกล่าวถึงร้านอาหาร แซ่บอีลี่ ซึ่งเป็นธุรกิจแรกที่เธอจับว่า ปีหน้ากำลังจะเปิดเพิ่ม 2 สาขาที่ไอคอนสยามและเอ็มควอเทียร์ จากปัจจุบันมีอยู่ 6 สาขา ใช้เงินลงทุนสาขาละประมาณ 5-8 ล้านบาท สาขาใหม่นี้จะมาในแบรนด์ใหม่ด้วยคือ แซ่บอีลี่ เวรี่ยำ เน้นเมนูยำต่างๆ ตามเทรนด์ผู้บริโภคปัจจุบัน จากเดิมที่ร้านแซ่บอีลี่เน้นเมนูส้มตำเป็นหลัก

แต่จริงๆ ชอบงานอสังหาฯ มากกว่า มีแรงบันดาลใจกับธุรกิจนี้มากที่สุด

ลูกสาวเสี่ยตัน อิชิตันตบท้าย