SBITO เปิดบริการใหม่ SBITrade USA เอาใจนักลงทุนไทยยุคดิจิทัล นำร่องซื้อ-ขายหุ้นสหรัฐฯ แบบเศษส่วนหุ้นครั้งแรกในวงการลงทุนไทยและเอเชีย

SBITO เปิดตัวบริการใหม่ SBITrade USA สอดรับนโยบายธปท. ให้นักลงทุนรายย่อยสามารถออกไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยผ่านโบรกเกอร์ที่เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ฯนำร่องลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯด้วยรูปแบบการซื้อขายเศษส่วนหุ้นครั้งแรกในวงการลงทุนไทยและเอเชีย เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนตามจำนวนเงินของนักลงทุนบนระบบออนไลน์เชื่อมต่อแพลตฟอร์มต่างประเทศ ส่งคำสั่งซื้อขายด้วยตนเอง ด้านCEO“ยูกิโกะ โรเบิร์ตส์” ย้ำจุดยืนบริษัทฯมุ่งส่งเสริมนักลงทุนไทยให้รู้จักการลงทุนที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลและมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์การลงทุนที่ดีที่สุดให้แก่นักลงทุนทั้งการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ

นางยูกิโกะ โรเบิร์ตส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด หรือ SBITOผู้ให้บริการธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์แบบออนไลน์ชั้นนำของไทย  (บริษัทสมาชิกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หมายเลขที่ 33)เปิดเผยว่า การปรับเกณฑ์ล่าสุดของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เอื้อด้านเงินทุนไหลออกและลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาท ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศของนักลงทุนรายย่อยให้ลงทุนเองได้ ดังนั้น เพื่อรองรับการออกไปลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และสร้างโอกาสการลงทุนให้กับนักลงทุนไทยในการลงทุนในตลาดต่างประเทศรวมทั้งช่วยให้การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศมีความสะดวกมากขึ้น บริษัทฯจึงได้เปิดบริการใหม่ SBITrade USA รูปแบบการลงทุนใหม่ครั้งแรก ของวงการธุรกิจหลักทรัพย์และการลงทุนไทยที่จะทำให้นักลงทุนเป็นเจ้าของหุ้นดังๆ ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาได้ง่าย

ล่าสุด SBITO จับมือกับไดร์ฟเวลธ์แอลแอลซี (DriveWealth LLC) บริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมด้านการซื้อขาย และลงทุนผ่านระบบดิจิทัลเทคโนโลยีของสหรัฐ และฟิวชั่นไอคิว (FusionIQ) ฟินเทคระดับแนวหน้าในด้านการออกแบบนวัตกรรมทางด้านการเงินและการลงทุนในสหรัฐ ออกแบบและพัฒนาการซื้อขายแบบเศษส่วนหุ้น (Fractional Shares) ครั้งแรกในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ของประเทศไทยและในเอเชีย ที่นักลงทุนจะสามารถซื้อขายเศษหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผ่านบริการSBITradeUSA ของ SBITO โดยลูกค้าของSBITO สามารถส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นด้วยตนเองผ่านหน้าเว็บไซต์www.sbito.co.thด้วยการระบุจำนวนเงินลงทุนที่ต้องการเป็นจำนวนเงินดอลลาร์สหรัฐ แทนการระบุคำสั่งซื้อด้วยจำนวนหุ้นที่ต้องการ ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบการซื้อหุ้นที่คุ้นเคย และ SBITrade USA จะทำการซื้อขายหุ้นที่นักลงทุนต้องการ ในราคาที่ดีที่สุดผ่านระบบ National Best Bid and Offer หรือ NBBO โดยจะซื้อหุ้นที่ต้องการในตลาดที่มีราคาเสนอขาย (Best Offer) ที่ต่ำที่สุดให้ ในทางตรงข้าม หากลูกค้าต้องการขายหุ้น ระบบจะไปหาตลาดที่มีคนเสนอซื้อที่ราคาที่สูงที่สุดให้ (Best Bid) ระบบนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาต่ำที่สุดและขายได้ราคาสูงที่สุด ทั้งนี้นักลงทุนจะได้รับ Email แจ้งเมื่อทำรายการสำเร็จและแจ้งยืนยันการซื้อขายจากบริษัทอย่างเป็นทางการในวันทำการถัดไป นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 21.30 น. – 04.00 น. (เวลาประเทศไทย)

“การร่วมมือครั้งนี้กับไดร์ฟเวลธ์ และ ฟิวชั่นไอคิว เป็นการย้ำถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของ SBITO ที่จะอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนรายย่อยชาวไทยได้เข้าถึงการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเริ่มจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุด มีสภาพคล่องดีที่สุด และเป็นตลาดหุ้นที่โปร่งใสที่สุดในโลกด้วยการลงทุนผ่านแพลทฟอร์มที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับการซื้อขายหุ้นนี้” นางยูกิโกะกล่าว

SBITradeUSA เปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยสามารถเป็นเจ้าของหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูงได้ง่ายเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตแก่นักลงทุน ยกตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนมีเงินลงทุน $50,000 และต้องการซื้อหุ้น A จำนวน 1% ของพอร์ตลงทุน ($500) แต่หุ้น A ราคา $1,000 ถ้านักลงทุนซื้อจำนวน 1 หุ้นจะคิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 2% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด ในขณะที่ การลงทุนแบบเศษส่วนหุ้น (Fractional Shares) ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อได้ ½ หุ้น ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของการลงทุนคือ 1%

“SBITrade USA เป็นการเสนอทางเลือกให้แก่นักลงทุนไทยในการลงทุนตามจำนวนเงินที่มี ซึ่งหากนักลงทุนสะสมเศษหุ้นอย่างสม่ำเสมอไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็จะได้หุ้นเต็มจำนวน” นางยูกิโกะกล่าว

สำหรับการเปิดบริการ SBITrade USA นี้  SBITO ได้นำร่องการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งมีตลาดสำคัญอย่าง ตลาดหุ้นนิวยอร์ค (NYSE) ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งแรกของสหรัฐฯ  ตลาดหุ้นแนสแด็ก (NASDAQ) ตลาดหุ้นสำคัญของบริษัทเทคโนโลยี อาทิ Microsoft, Apple, Cisco, Oracle, และ Dell เป็นต้นรวมไปถึงตลาดหุ้น  BATS Market ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของสหรัฐฯ โดยตลาดหลักทรัพย์ NYSE และ NASDAQ มีขนาดใหญ่อันดับหนึ่งและอันดับสองของโลก มีมูลค่ารวมกันประมาณ 40 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของตลาดหุ้นทั่วโลก เงินทั่วโลกจึงไหลเข้ามาลงทุนในตลาดนี้ ดังนั้น SBITrade USA จึงเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐฯ ได้ง่าย

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน และอดีตกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯเปิดเผยมุมองการลงในตลาดหุ้นสหรัฐฯช่วงนี้ว่า บรรยากาศการลงทุนมีความสัมพันธ์กับการเมืองมากขึ้น เนื่องจากว่าก่อนการเลือกตั้งในสหรัฐฯประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์น่าจะส่งสัญญาณเชิงบวกให้กับตลาดการเงิน และเชื่อว่าประธานาธิบดีทรัมป์ก็ไม่อยากให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยขณะที่กำลังดำรงตำแหน่ง เพราะฉะนั้นบรรยากาศทางการเมืองจึงเอื้อแก่บรรยากาศการลงทุน

“แม้ว่าในเชิงมูลค่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯอาจจะดูไม่ถูกนัก พื้นฐานของประเทศสหรัฐฯ ไม่ค่อยแข็งแกร่งจากภาระหนี้ที่สูงขึ้นรวมไปถึงการบริโภคในประเทศที่ยังชะลอตัว แต่เชื่อว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯพร้อมที่จะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯลดดอกเบี้ย รวมไปถึงเรื่องการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์นั้น ก็มีแนวโน้มที่จะเลื่อนการจัดเก็บภาษีดังกล่าวออกไป เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้บริโภคของสหรัฐได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่จะพุ่งขึ้น” นายปริญญ์กล่าว

นอกจากนี้ในด้านการคุ้มครองนักลงทุนที่ลงทุนแบบเศษส่วนหุ้น Fractional Shares ในสหรัฐฯ ผ่าน SBITO ยังได้รับความคุ้มครองจาก Securities Investor Protection Corporation (SIPC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไม่หวังผลกำไร จัดตั้งโดยสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เมื่อปีพ.ศ. 2513 มีบทบาทในการคุ้มครองนักลงทุนโดยจะส่งคืนหุ้นและพันธบัตรที่เหมือนหลักทรัพย์รวมถึงเงินสดจำนวนหนึ่งให้กับนักลงทุนในกรณีบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่นักลงทุนใช้บริการประสบปัญหาล้มเลิกและเป็นหนี้นักลงทุน SIPC นี้ มีบทบาทคล้ายกองทุนคุ้มครองผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ (Securities Investor Protection Fund หรือ SIPF) ที่จัดตั้งโดยตลาดหลักทรัพย์ของไทยเพื่อคุ้มครองนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย  นักลงทุนที่สนใจจึงมั่นใจได้ว่าการลงทุนตลาดสหรัฐกับ SBITrade USA ของ SBITO จะรับความคุ้มครองเช่นกัน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัดกล่าวเพิ่มเติมว่า บริการSBITradeUSAนี้เป็นการย้ำจุดยืนของบริษัทฯที่มุ่งส่งเสริมนักลงทุนไทยให้รู้จักการลงทุนที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลและมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์การลงทุนที่ดีที่สุดให้แก่นักลงทุนไทยทั้งการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มการลงทุนที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนไทย เป็นทางเลือกที่จะเพิ่มโอกาสทำกำไรและถือเป็นการกระจายความเสี่ยงของนักลงทุน และในอนาคต บริษัทฯ จะมีการเปิดไปสู่ตลาดหุ้นอื่นๆ ที่น่าสนใจ รวมไปถึงการออกบริการใหม่ๆที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้างสังคมการลงทุนดิจิทัลที่ยั่งยืนให้กับนักลงทุนไทยและตลาดทุนไทย

ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจบริการ SBITrade USA สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02-022-1499 หรือ เว็บไซต์ www.sbito.co.th

เกี่ยวกับ บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด หรือ SBITO

SBITO ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินกิจการจากกระทรวงการคลังและสำนักงาน ก.ล.ต.ให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และได้เข้าเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์หมายเลขที่ 33 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 และเปิดให้ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมเป็นต้นมา ซึ่งจะมุ่งดำเนินธุรกิจผ่านระบบออนไลน์อย่างแท้จริงให้แก่นักลงทุนไทย ทางเว็บไซต์ www.sbito.co.th ส่วนตลาดซื้อขายล่วงหน้าได้เริ่มให้บริการเมื่อ 28 มีนาคม 2559

บริษัทหลักทรัพย์  เอสบีไอ ไทย ออนไลน์  จำกัด ก่อตั้งเมื่อเดือนตุลาคม 2557 โดยจะครบห้าปีที่ทำธุรกิจในประเทศไทยในปี 2563 บริษัทฯ เป็นหนึ่งในบริษัทในกลุ่มบริษัท SBI (SBI Group Companies) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้นำในการให้บริการการซื้อขายหลักทรัพย์ ตราสารอนุพันธ์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดในญี่ปุ่นมากเป็นอันดับหนึ่ง  สำหรับในประเทศไทยนั้น SBITO ถือเป็นผู้ให้บริการชั้นนำในด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ด้วยพฤติกรรมของคนไทยที่หันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนการบริหารเงิน ตลอดจนเทคโนโลยีที่สะดวกมากขึ้น ทำให้อัตราการเติบโตของนักลงทุนของ SBITO มีการเติบโตสูงมากขึ้นทุกปีอย่างไรก็ตามด้วยเป้าหมายที่จะต้องเป็นผู้นำในด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต SBITOจึงมีเป้าหมายในการพัฒนารูปแบบการบริการให้หลากหลายมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนรวมทั้งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงนักลงทุนกลุ่มใหม่ๆ