รู้จัก Magellan Project ของ “เถาเป่า” หาสินค้า SME ไทย ใช้เน็ตไอดอล ลุยขายตลาดจีน

ยุคที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกันด้วยอินเทอร์เน็ต คือโอกาสทองของผู้ประกอบการรายเล็กที่จะผลักดันธุรกิจสู่ตลาดโลก เเละเเน่นนอนว่า “ตลาดจีน” คือเบอร์หนึ่งที่ใครๆ ก็อยากเจาะเข้าไปให้ได้ ด้วยกำลังซื้อมหาศาลเเละประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน 

จากข้อมูลของ eMarketer บริษัทวิจัยด้านการตลาดพบว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 3.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มีการเติบโตกว่า 20.7 % ซึ่งสัดส่วนการซื้อขายของออนไลน์มีอยู่ 14.1% ของยอดการค้าปลีกทั่วโลก เเละเฟื่องฟูอย่างมากในภูมิภาคเอเชียเเปซิฟิก ลาตินอเมริกา เเละเเอฟริกา 

โดยเฉพาะ “ประเทศจีน” มีมูลค่ากว่า 1.93 ล้านเหรียญ คิดเป็นกว่า 54.7% ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั่วโลก นับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของโลกออนไลน์…ที่ไม่มีใครมองข้าม 

หลายคนรู้จัก “เถาเป่า” หรือ “Taobao” ในฐานะที่เป็น E- Market place หัวหอกของ “อาลีบาบา” ที่ตอนนี้ขึ้นเเท่นเป็นเเพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์บนมือถือรายใหญ่ที่สุดของจีน (วัดจากยอดขายช่วง 12 เดือนจนถึง 31 มีนาคม 2019) 

โดยมียอดซื้อขายออนไลน์ (GMV) เกิน 1 เเสนล้านหยวน มีเเบรนด์เข้าร่วมกว่า 1.2 เเสนเเบรนด์ จำนวนผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคน โดยวางเป้าเพิ่มเป็น 120 ล้านคนในประเทศจีน ภายในปีนี้ 

Photo : Taobao.com

“เถาเป่า โกลบอล” ก่อตั้งขึ้นในปี 2003 เป็นเเพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ขายออนไลน์ต่างชาตินำสินค้าเข้ามาขายให้ชาวจีน เเละถือช่องทางการขายสินค้าระหว่างประเทศที่มุ่งเน้นเฉพาะสินค้า C2C รายเเรกของจีนด้วย 

ล่าสุดวันนี้เถาเป่าได้ประกาศโครงการใหม่เเห่งปี 2020 ที่มีชื่อว่า “Magellan Project” (เเมคเจลเเลน โปรเจกต์) เปิดตัวในไทยเป็นประเทศเเรก เราจะมารู้จักกันว่าเถาเป่ามีกลยุทธ์อย่างไรเเละ SME ไทยต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง 

Magellan Project คืออะไร

“เหยา เหว่ย” ผู้อำนวยการเถาเป่า โกลบอล บอกว่า โปรเจกต์นี้ตั้งชื่อตาม Ferdinand Magellan นักสำรวจชาวโปรตุเกสซึ่งเดินทางรอบโลกได้สำเร็จเป็นคนเเรกในประวัติศาสตร์ เหมือนเป้าหมายของเถาเป่าที่จะเติบโตไปทั่วโลก เพื่อเฟ้นหาเเบรนด์นอกประเทศจีนที่ “จิ๋วเเต่เเจ๋ว” เป็นผลิตภัณฑ์จากเเบรนด์เเปลกใหม่จากผู้ผลิตรายย่อยโดยตรง ช่วยให้ SME ที่มีศักยภาพได้มีโอกาสเติบโตในตลาดอีคอมเมิร์ซจีน 

“เป็นได้ทุกสิ่งทุกอย่าง” นี่คือเป้าหมายของเถาเป่า โกลบอลในปี 2020

เหยา เหว่ย ผู้อำนวยการเถาเป่า โกลบอล

ทำไมเลือกเปิดตัวที่ไทยเป็นประเทศเเรก 

“เราตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนเเบรนด์สินค้าไทยบนเเพลตฟอร์มเถาเป่าให้ได้อย่างน้อย 25% ภายในสิ้นปีนี้ โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มสินค้า SME เช่น หมอนเเละที่นอนยางพารา ผลไม้อบเเห้ง เเละเครื่องสำอาง” ผู้บริหารเถาเป่ากล่าว 

“ผู้ซื้อของเถาเป่า ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่เกิดตั้งเเต่ปี 1995 ขึ้นไป มีความเป็นตัวของตัวเองสูงเเละชื่นชอบเเบรนด์ใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร” 

เขากล่าวถึงเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันว่า ที่ผ่านมาคนรุ่นใหม่ในจีนต่างมองหาผลิตภัณฑ์ที่น่าใช้เเละมีคุณภาพเพิ่มขึ้น เเละสินค้าไทยตอบโจทย์นี้ได้ดี เเต่ยังมีเเบรนด์ไทยที่น่าสนใจเเต่กลับไม่เป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากนัก ซึ่ง Magellan Project จะเข้ามาช่วยโปรโมทในจุดนี้ โดยวางเป้าสินค้าไทยไว้ 100 เเบรนด์ในระยะเเรก

สำหรับกลุ่มสินค้าไทยที่มีวางจำหน่ายมากที่สุดบนเถาเป่า ได้เเก่ 1) เครื่องนอน 2) ความงาม เเละ 3) อาหาร จากบายเออร์กว่า 400 คนในประเทศไทย 

“ความสัมพันธ์ของไทยเเละจีนเป็นมิตรต่อกันมานาน คนทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิดกันเเละสิ่งสำคัญคือการท่องเที่ยวไทยถือเป็นระดับท็อปของโลก เเละเป็นที่ชื่นชอบของชาวจีนอย่างมาก จึงเป็นโอกาสที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของไทยจะเขาถึงตลาดออนไลน์จีนมากขึ้น เเละต้องการสร้างความร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่นในประเทศต่างๆ เพื่อเฟ้นหาผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการรายย่อยที่โดดเด่น ให้สามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างเเพร่หลาย”

ขณะที่เป้าหมายอื่นๆ ที่เถาเป่าวางเเผนจะเข้าไปทำตลาด นอกเหนือจากไทย ได้เเก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ยุโรป เเละอเมริกาเหนือ

เหล่าบายเออร์ของเถาเป่าจากประเทศไทย ซึ่งเป็นเน็ตไอดอลที่มีชื่อเสียง

ขยายบายเออร์ บูม Live Streaming โปรโมตผ่านเน็ตไอดอลจีน 

ผู้บริหารเถาเป่า อธิบายถึง กลยุทธ์ของ Magellan Project ว่าจะช่วยสร้างธุรกิจในจีนให้กับ SME ทั่วโลกผ่านบายเออร์เเละกลุ่มผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ที่เข้าถึงผู้ติดตามชาวจีน เเละช่วยโปรโมตสินค้าผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเเละ Live Streaming นอกจากนี้ยังมีการใช้ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้ามาเป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ตลาดดิจิทัลด้วย 

สำหรับกลุ่มบายเออร์ (ผู้นำเข้า) ของเถาเป่าที่มีอยู่กว่า 10,000 คนนั้นจะเน้นไปที่กลุ่มคนดังในโลกออนไลน์ เป็นคนชอบเที่ยวต่างประเทศเเละมีไลฟ์สไตล์ที่น่าติดตาม ซึ่งจะคอยสรรหาสินค้านอกประเทศไปขายบนเถาเป่า เเละเเนะนำสินค้าให้ผู้ติดตามในจีน 

“สมัยก่อนเรามักทุ่มงบโปรโมตไปกับโฆษณาทางทีวี เเต่ปัจจุบันคือการใช้ Live Straming โดยเหล่าคนดัง เน็ตไอดอล เเละอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) เเสดงให้เห็นอิทธิพลต่อการเลือกซื้อของจากคนดังในโลกออนไลน์” ผู้บริหารเถาเป่ากล่าว 

ยกตัวอย่าง Mr.TC ผู้เคยทำงานกับเเบรนด์ดังอย่าง Hermès เเละตัดสินใจลาออกเพื่อเดินทางท่องเที่ยว จากนั้นเริ่มเป็นเเฟชั่นบายเออร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก โดยหลายปีที่ผ่านมาเขาทุ่มเทกับการนำเเบรนด์เเฟชั่นไทยที่เเปลกใหม่เข้าไปตีตลาดจีน

ขณะที่บายเออร์ที่น่าสนใจอีกรายคือ Ali Global Buyer หลังเรียนจบเธอได้ท่องเที่ยวไปทั่วโลก ก่อนจะมาเป็นบายเออร์มืออาชีพ โดยเธอมีความสนใจในหมอนยางพาราในไทยอย่างมาก รวมไปถึงชุดชั้นในสตรีของไทยที่ราคาไม่สูงเเละใส่สบาย ซึ่งสินค้าทุกอย่างต้องผ่านการทดสอบจากทีมงานของเธอก่อนจึงนำเสนอขายให้ลูกค้าชาวจีนต่อไป หัวใจหลักของเธอที่จะก้าวขึ้นสู่บายเออร์ระดับท็อปของไทยคือ “สินค้าใช้ได้ดี ราคาไม่เเพง” เพื่อเป็นทางเลือกผู้บริโภค

โดยเถาเป่าได้ร่วมมือกับสมาคม Thailand Zonet Buyers Development Alliance ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกบายเออร์ในไทยมากกว่า 100 คน ซึ่งนำเสนอแบรนด์ไทยที่น่าสนใจไปยังลูกค้าของเถาเป่าในจีนให้มากขึ้น รวมทั้งช่วยผลักดันการส่งออกของไทยผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น แคมเปญการตลาด การอบรมบายเออร์ และการจับคู่บายเออร์กับแบรนด์ เป็นต้น

ด้าน สมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีการเติบโตของอีคอมเมิร์ซเเบบก้าวกระโดด จึงเป็นโอกาสดีที่ SME ไทยจะเปลี่ยนจากเเบบดั้งเดิมมาค้าขายออนไลน์เเบบไร้พรมเเดน ซึ่งรู้สึกยินดีที่อาลีบาบาซึ่งจะมาช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจไทยสามารถเติบโตในยุคดิจิทัล 

“การที่เถาเป่า โกลบอลได้เลือกไทยเป็นตลาดสำคัญในการเปิดตัวโครงการนี้จะช่วยทำให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักในตลาดโลกมากขึ้น รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน Magellan Project จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันความนิยมของสินค้าไทยในตลาดซื้อขายออนไลน์จีนให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

สินค้าเเบบไหนที่ “เถาเป่า” อยากได้

  • ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในจีน หาซื้อยาก มีโอกาสจะประสบความสำเร็จสูง
  • หมวดหมู่สินค้าที่กำลังเติบโต เช่น เครื่องสำอาง กระเป๋า เคสมือถือเเละเครื่องประดับ
  • สินค้าที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่น 
  • เป็นที่รู้จักในสื่อ คนดังหรือสถาบันที่มีชื่อเสียง 
  • เป็นคลัสเตอร์ที่เป็นที่รู้จัก มีอัตราการซื้อสูงในจีน 
  • มีศักยภาพที่จะเติบโตได้ในตลาดออนไลน์