มองเศรษฐกิจไทย ผ่านมุม “โรงรับจำนำ” Easy Money ตั้งเป้าใหม่สู่สถาบันสินเชื่อ

เศรษฐกิจจะเเย่หรือจะดี “โรงจำนำ” ก็เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดได้ หากช่วงไหนผู้ประกอบการธุรกิจมาจำนำมาก เเสดงว่าเศรษฐกิจคึกคัก เพราะพ่อค้าเเม่ขายต้องการเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นมากขึ้น เเต่หากช่วงไหน “พนักงานเงินเดือน” มาจำนำเยอะ ก็มองได้ว่าเศรษฐกิจกำลังซบเซาเเล้ว 

เศรษฐกิจเปลี่ยนไป ธุรกิจ “โรงรับจำนำ” ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยเช่นกัน ล่าสุด “Easy Money” (อีซี่มันนี่) โรงรับจำนำเอกชนรายใหญ่ของไทย ประกาศจะพัฒนาไปเป็น “สถาบันสินเชื่อทางเลือก” โดดชูจุดเเข็งอยู่ที่ความรวดเร็ว สะดวก ได้เงินง่ายเเละดอกเบี้ยถูกกว่าสินเชื่อบัตรเครดิตทั่วไป 

สิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งธนสิน จำกัด เจ้าของ “Easy Money” กล่าวว่า เรามองว่าคนไทยต้องการสินเชื่อตลอดเวลา โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs เเละสตาร์ทอัพ ที่มีไอเดียเเละมีศักยภาพสูง เเต่คนเหล่านี้บางทีไม่มีเครดิตกับสถาบันการเงิน ไปขอสินเชื่อต้องใช้เวลา เเต่หากเป็นสินเชื่อจากธุรกิจรับจำนำก็เเค่นำทรัพย์สินมีค่าที่สะสมไว้ มาฝากไว้ก่อนเเล้วพอหมุนเงินได้ก็มาไถ่ถอนออกไปเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นการเเก้ปัญหายามฉุกเฉินด้วยการพึ่งพาตนเอง  

“กลุ่มลูกค้าของ Easy Money เเบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ พนักงานเงินเดือนเเละผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ซึ่งมีอัตราการเติบโตในปี 2562 อยู่ที่พนักงานเงินเดือน 75% SMEs 25% ส่วนปี 2561 สัดส่วนพนักงานเงินเดือน 77% เเละ SMEs 23%” 

สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็น “พนักงานเงินเดือน” เป็นกลุ่มที่เน้นนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ชอบเก็บออมทรัพย์สินในรูปแบบของเครื่องประดับเเละทองคำ โดยพฤติกรรมการไถ่ถอนทรัพย์จะเป็นไปตามฤดูกาล เช่นช่วงปลายเดือนธันวาคม ที่มีโบนัสออก ช่วงตรุษจีนเเละเทศกาลสงกรานต์ จะมีการมาไถ่ถอนมาก ขณะช่วงใกล้เปิดเทอมก็จะมีการนำมาจำนำมากเป็นพิเศษ เพื่อนำเงินไปใช้การในศึกษาของบุตรหลาน 

ส่วนกลุ่มลูกค้า “SMEs” จะเเตกต่างกับพนักงานเงินเดือน เพราะต้องการนำเงินไปหมุนเวียนในธุรกิจ ต่อยอดการลงทุน เเละสต็อกสินค้า หรือใช้เสริมสภาพคล่องในช่วงที่รายรับรายจ่ายไม่สมดุลกัน 

“ถ้ามีพ่อค้าเเม่ค้านำทรัพย์สินมาจำนำมากๆ เเสดงว่าช่วงนั้นเป็นโอกาสการค้าขายที่คึกคัก เศรษฐกิจดี จึงต้องการเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น พอมีรายได้เข้ามาก็รีบมาไถ่ถอน อันนี้จึงเป็นอีกปัจจัยที่เป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจได้ว่าดีหรือซบเซา” สิทธิวิชญ์ระบุ 

สิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งธนสิน จำกัด

ทรัพย์หลุด ชี้เศรษฐกิจดี – ไม่ดี 

“ตัวเลขที่บ่งบอกว่าเศรษฐกิจซบเซาได้มากที่สุดคือ ตัวเลขทรัพย์หลุดหรือทรัพย์สินที่หลุดจำนำนั่นเอง เพราะเเสดงว่าประชาชนไม่มีรายได้เพียงพอที่จะมาไถ่ถอนหรือส่งต่อดอกเบี้ย จากสถิติของปี 2562 พบว่าตัวเลขทรัพย์หลุดใกล้เคียงกับปี 2561 ซึ่งลดลงเพียง 0.1% เเสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะทรงตัว” 

โดยเขาอธิบายเพิ่มว่า อัตราทรัพย์หลุดของ Easy Money เฉลี่ยอยู่ที่ 5% (ปี 2562 คือ 4.9% ส่วนปี 2561 คือ 5%) หมายความว่าถ้ามีคนนำของมาจำนำ 100 คน จะมีทรัพย์หลุด 5 คน เป็นต้น 

“ตลอด 15 ปีที่ผ่านมามีช่วงปีที่ธุรกิจโรงรับจำนำ Easy Money เจอปัญหาบ้าง เช่นปี 2555 ที่ราคาทองลงมาก ทำให้ลูกค้าหลายคนทิ้งตั๋วจำนำไป” 

 

คนไทยจำนำอะไรมากที่สุด ? 

ผู้บริหาร Easy Money เปิดเผยว่า ทรัพย์สินที่คนไทยนำมาจำนำมากที่สุด ได้เเก่ ทองคำ (ราว 70-80%) รองลงมาคือ เพชรเเละเครื่องประดับ ตามมาด้วย นาฬิกา สินค้าเเบรนด์เนมเเละอุปกรณ์ไอที ตามลำดับ 

“ความเปลี่ยนเเปลงของยุคนี้คือคนรุ่นใหม่มีการนำสินค้าเเบรนด์เนมมาจำนำ เราจะได้เห็น หมีกุชชี่ กระเป๋าเเอร์เมสหรือชาเเนลเยอะขึ้นมาก เเละหลังจากระเเสละครบุพเพสันนิวาสก็มีการนำของโบราณ เงินพดด้วงเเละธนบัตรเก่ามาจำนำเยอะขึ้น” 

ขณะที่ยอดเงินเฉลี่ยของกลุ่มพนักงานเงินเดือนที่นำของมาจำนำคือ 20,000 บาทต่อคน เเละกลุ่ม SMEs อยู่ที่ 1 เเสนบาทต่อคน ในจำนวนนี้มีลูกค้าจากภาคกลางมากที่สุด 

ทั้งนี้ ตามกฎหมายกำหนดให้ตั๋วจำนำมีอายุ 4 เดือนบวกระยะเวลาไถ่ถอนอีก 30 วัน (รวม 5 เดือน) โดยมีอัตราดอกเบี้ยเพดานอยู่ที่ 1.25% ต่อเดือน 

ธุรกิจโรงรับจำนำโต ปั้นสินเชื่อ ขยายสาขา

“ช่วงที่ผ่านมาเรามีการเติบโตราว 20% ปีนี้จึงวางเป้าจะขยายสาขาให้ได้ 60 สาขา พัฒนาบริการ เเละก้าวขึ้นมาเป็นสถาบันสินเชื่อทางเลือกที่เข้าถึงง่าย น่าใช้เหมือนเดินไปธนาคารพาณิชย์ โดยจะยังคงเป็นร้านสเเตนอโลน เพราะห้างไปเปิดในห้างจะไม่ได้เวลาตามกฎหมายกำหนดที่ 8.00 – 18.00 น. อีกทั้งยังต้องมีพื้นที่จัดเก็บสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเเละอื่นๆ นอกจากนี้ยังจะมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีให้ใช้งานสะดวก เเละจัดระบบการขายทรัพย์หลุดทางออนไลน์ให้เป็นระบบยิ่งขึ้น” 

สำหรับ Easy Money ดำเนินกิจการมานานกว่า 15 ปี จากสาขาเเรกที่ “เมืองรังสิต” เมื่อปี 2548 ปัจจุบันมีอยู่ 50 สาขา มีร้าน Easy Money Shop 2 ร้าน ใน 28 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีการลงทุนประมาณ 40-50 ล้านบาทต่อสาขา 

ทั้งนี้ Easy Money ยืนยันยังไม่พร้อมที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยขอเวลาศึกษารายละเอียดก่อน

“ความยากของธุรกิจโรงรับจำนำคือการประเมินความเสี่ยง ประเมินราคา ซึ่งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ เพื่อใม่ให้เกิดความผิดพลาด เเม้คนอื่นจะมองว่าเป็น “เสือนอนกิน” มีความเสี่ยงน้อย เเต่ก็เคยมีคนนำของปลอม ของเก๊มาจำนำ โดยคนกลุ่มนี้มักจะมาช่วงเที่ยงหรือบ่าย เพราะใช้โอกาสที่คนเยอะ พนักงานยุ่ง ซึ่งจะเร่งรีบกว่าปกติ คนเหล่านี้จะคอยพูดเร่งพนักงานด้วย จึงต้องตั้งข้อสังเกตว่ามีความผิดปกติ”

ขณะที่ภาพรวมของธุรกิจโรงรับจำนำ สิทธิวิชญ์ คาดว่าจะอยู่ที่ราวเเสนล้านบาท ซึ่งรวมไปถึงธุรกิจขายฝากที่ทำในร้านทองเเละร้านรับซื้อของเก่าต่างๆ ด้วย เติบโตราว 10% ต่อปี

“เเนวโน้มธุรกิจโรงจำนำปี 2563 ยังมีความท้าทายอยู่มาก โดยมองว่าเศรษฐกิจน่าจะยังทรงตัว”