AIS ฟาดรายได้ปี 62 รวม 1.83 แสนล้าน กำไรพุ่ง 31,051 ล้านบาท

AIS ประกาศผลประกอบการ ปี 2562 มีรายได้รวม 183,432 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8% จากปีก่อน กำไรสุทธิ 31,051ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.6% จากปีก่อน

ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งด้านรายได้มากที่สุดกว่า 48% และมีจำนวนผู้ใช้บริการมากที่สุดกว่า 45% หรืออยู่ที่ 42 ล้านราย โดยมีฐานลูกค้าเติบโตขึ้นกว่า 844,600 ราย

ด้านธุรกิจเน็ตบ้าน “เอไอเอส ไฟเบอร์” มีจำนวนผู้ใช้งานเติบโต 42% เป็นการเติบโตมากกว่าอุตสาหกรรม ด้วยฐานลูกค้ามากกว่า 1 ล้านราย สร้างรายได้เติบโต 29%

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า

“ปี 2562 ที่ผ่านมา เป็นปีที่เอไอเอสก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เรามุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลและเทคโนโลยี รวมถึงทรัพยากรต่างๆ ให้ก้าวล้ำอยู่เสมอ โดยภาพรวมผลประกอบการ ปี 2562 เอไอเอส มีรายได้รวม 183,432 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8% จากปีก่อน”

ฐานลูกค้า 42 ล้านราย

  • เติบโตขึ้นกว่า 844,600 ราย
  • มีสัดส่วนลูกค้าระบบรายเดือนเติบโตขึ้นจาก 20% ณ สิ้นปี 2561 มาอยู่ที่ 22% ณ สิ้นปี 2562
  • มีลูกค้าที่ใช้งาน 4G เพิ่มขึ้นเป็น 71% เทียบกับ 59% จากปีก่อน
  • ปริมาณดาต้าเฉลี่ย 12.7 กิกะไบต์ต่อเดือน เพิ่มขึ้น 17% เทียบกับปีก่อน
  • ปัจจุบันเอไอเอสมีสถานีฐานมากที่สุดกว่า 158,000 สถานีฐาน

เอไอเอส ไฟเบอร์ ลูกค้าทะลุ 1 ล้านราย

ขณะที่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ ยังคงเติบโตมากกว่าตลาด ตลอดทั้งปี 2562 มีลูกค้าเพิ่มขึ้น 42% หรือกว่า 307,100 ราย จากปี 2562 ส่งผลให้ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 1 ล้านราย เสริมให้รายได้เติบโต 29% มาอยู่ที่ 5,722 ล้านบาท จากการทำตลาดต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ Fixed-Mobile Convergence ที่ผสานกันระหว่าง 3 บริการหลัก ทั้งอินเทอร์เน็ตมือถือ, อินเทอร์เน็ตบ้าน, คอนเทนต์ผ่าน AIS PLAYBOX ทางทีวี หรือผ่านแอป AIS PLAY ทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าที่มีคุณภาพ

โดยภาพรวมจากรายได้ที่เติบโตและการบริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เอไอเอสมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อม (EBITDA) เพิ่มขึ้น 6.3% มาอยู่ที่ 78,463 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเติบโตมาอยู่ที่ 31,051 ล้านบาท เติบโต 4.6% เทียบกับปีก่อน โดยเอไอเอสจะจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการครึ่งปีหลังที่ 3.56 บาทต่อหุ้น หรือประมาณ 70% ของกำไรสุทธิ ในวันที่ 22 เมษายน 2562