“เป๊ปซี่” เปิดศึก “หวยน้ำดำ” อัดยาเเรง “ชิงโชค” ใหญ่ คืนชีพเซเว่นอัพ

หน้าร้อนเป็นช่วงเเห่งการเเข่งขันอันดุเดือดของ “ตลาดน้ำอัดลม” ที่จะอัดเเคปเปญกระตุ้นยอดขาย เปิดตัวสินค้าใหม่เเละโปรโมทสร้างการรับรู้ต่างๆ

“ยิ่งร้อนก็ยิ่งขายดี” คนหาอะไรดื่มเพื่อความสดชื่นมากขึ้น เป็นผลให้ผู้ผลิตน้ำอัดลมที่ทำตลาดในไทยเติบโตกันถ้วนหน้าทั้ง 3 เจ้าใหญ่อย่างเป๊ปซี่ โค้กเเละเอส ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 56,000 ล้านบาท ในปี 2019 เพิ่มขึ้น 12% จากที่ปีก่อนหน้าอยู่ที่ราว 50,900 ล้านบาท ส่วนแบ่งของตลาดน้ำอัดลมไทยแยกตามประเภท ได้แก่ น้ำอัดลมสีดำ 71% น้ำอัดลมสี 23% และน้ำอัดลมไม่มีสี 6%

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Nielson ระบุว่า ส่วนเเบ่งการตลาดน้ำอัดลมทั้งหมดในไทยของปี 2019 “โค้ก” ยังคงอยู่อันดับ 1 ที่ 35% ตามมาด้วย เป๊ปซี่อยู่ที่ 25.4 % เเละเเฟนต้าที่ 15.6% ส่วนเฉพาะประเภทไม่คืนขวด (PET, กระป๋อง) นั้นเป๊ปซี่ครองตลาดที่ 45%

ปีนี้ฝั่ง “เป๊ปซี่” ประกาศจะทุุ่มงบการตลาดกว่า 400 ล้าน (เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปี 2019 ที่ใช้ไปราว 250 ล้าน) จัดเเคมเปญชิงโชคครั้งใหญ่ที่สุดตั้งเเต่เคยทำมา เพื่อกระตุ้นยอดขายสินค้าที่กำลังจะวางขาย หลังปรับโฉมใหม่อย่าง “มิรินด้า” เเละฟื้นคืนชีพ “เซเว่น อัพ” เพื่อเอา “น้ำสีเเละน้ำใส” มาช่วยเสริมความเเกร่งของ “น้ำดำ” ที่เป็นตัวหลักอย่างเป๊ปซี่

อัดยาเเรง “ชิงโชคใต้ฝา” ครั้งใหญ่ที่สุด 

ในปีที่ผ่านๆ มา ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคมีการจัดเเคมเปญชิงโชคอยู่บ้าง เเต่ปีนี้นับว่ามีมูลค่ารางวัลรวมสูงที่สุดกว่า 40ล้าน กับ “เป๊ปซี่ ซัมเมอร์ซ่า”  ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.- 24 เม.ย. 2020 โดยการส่งรหัสใต้ฝาหรือรหัสที่หูกระป๋องของเป๊ปซี่ มิรินด้า และเซเว่น-อัพ ขนาดใดก็ได้เข้าร่วมชิงรางวัล พร้อมนำ “เดอะทอยส์” นักร้องขวัญใจวัยทีนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์

โดยจะเเจกทองคำมูลค่า 10 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัล, รถยนต์ BMW X1 มูลค่า 1.99 ล้านบาท จำนวน 8 รางวัล, โทรศัพท์มือถือ Samsung S series รุ่นใหม่ล่าสุด มูลค่า 31,900 บาท 270 รางวัล และบัตรกำนัล KFC มูลค่า 500 บาท จำนวน 20,000 รางวัล

การทุ่มงบหนักของ เป๊ปซี่โคครั้งนี้ ก็เป็นการรุกตลาดเพื่อสร้างสีสัน กระตุ้นตลาดเครื่องดื่มในช่วงหน้าร้อนให้กลับมาคึกคัก รวมถึงปั้นยอดขายสินค้าที่จะออกมาใหม่อย่าง “มิรินด้า-เซเว่นอัพ” นั่นเอง

“เเคมเปญใหญ่นี้ คิดล่วงหน้ามาเป็นปี ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่เศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวหรือผลกระทบจากไวรัสโคโรนา” จรณชัย ศัลยพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค กล่าว

ด้าน ศิเรมอร ศุภจรรยา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SPBT ผู้ผลิตเครื่องดื่มเเบรนด์ เป๊ปซี่ มิรินด้า เซเว่น-อัพ ชาลิปตัน เกเตอเรด น้ำดื่มอควาฟิน่า และกู๊ดมู้ด เปิดเผยว่า “ในปี 2019 เป๊ปซี่โคเติบโตได้กว่า 15.5% นับว่าโตมากที่สุดในตลาดน้ำอัดลม โดยในส่วนเป๊ปซี่ เติบโตราว 16 % ตามมาด้วยมิรินด้า เติบโต 8% เเละเซเว่น-อัพ เติบโต 5 %” 

เจาะใจคนรุ่นใหม่ Gen Z และคนรักสุขภาพ

ผู้บริหารเป๊ปซี่โค บอกว่า การฟื้นแบรนด์ “มิรินด้า” เเละ “เซเว่น-อัพ” กลับมาทำตลาดอีกครั้งนั้น มีที่มาที่ไปจากเทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในการบริโภคเครื่องดื่ม โดยเฉพาะน้ำอัดลม

สำหรับ 2 เทรนด์หลักที่บริษัทจะมุ่งจับตลาดให้ได้คือ กลุ่มคน Gen Z อายุระหว่าง 10-21 ปีเเละกลุ่มคนรักสุขภาพ ที่ต้องการเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล ไม่มีคาเฟอีน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มเรื่อยๆ ในผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย

โดย Gen Z เป็นกลุ่มคนที่พร้อมเปิดใจยอมรับความแปลกใหม่ โตมากับเทคโนโลยี กล้าแสดงออก มีความมั่นใจ ในประเทศไทยมีคน Gen Z จำนวนกว่า 13 ล้านคน คิดเป็น 19% ของประชากร

อีกกลุ่มคือคนที่รักสุขภาพ แต่ก็ยังอยากบริโภคน้ำอัดลมอยู่ จึงต้องหาสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ เช่น เครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล ปราศจากไขมัน รวมถึงมีการเติมวิตามิน แร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จากการสำรวจตลาดพบว่า ลูกค้ายอมจ่ายเเพงขึ้น หากมีการ “ตัดผลเสีย” เเละ “เติมคุณค่า”

ปรับโฉมใหม่ “มิรินด้า” ทั่วโลก

ช่วงกลางปีนี้เราจะได้เห็นมิรินด้าในภาพลักษณ์ใหม่ตามตลาดโลกที่ดูเด็กลงมาก มีความเป็นวัยรุ่นที่ดูสดใสมากขึ้นเพื่อเอาใจชาว Gen Z เเละจะขยายฐานลูกค้าด้วยสินค้าใหม่ “มิรินด้า กลิ่นกรีนครีม” เพราะเห็นว่าตลาดน้ำสี โดยเฉพาะ “น้ำเขียว” มีโอกาสเติบโตได้สูง

พร้อมมุ่งเน้นการสื่อสารการตลาดไปที่ช่องทางออนไลน์ โดยจะโปรโมทผ่านสื่อโซเชียลที่คนรุ่นใหม่คุ้นเคยเเละใช้กันเยอะอย่าง TikTok , Twitter , Fackbook เเละ Instagram อย่างไรก็ตามยังคงมีการโปรโมทตามสื่อในร้านค้าเเละสื่อนอกบ้านด้วย

คืนชีพ “เซเว่น-อัพ”  

ที่ผ่านมาเซเว่น-อัพ เเม้จะมีวางขายอยู่ตลอด เเต่ก็ค่อนข้างเงียบเหงาไร้กิจกรรมทางการตลาด เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างสไปร์ท ปีนี้ถึงเวลาเป๊บซี่โค จะฟื้นคืนชีพให้เซเว่น-อัพ

โดยก่อนหน้านี้มีการทำวิจัยผู้บริโภค พบว่าพวกเขาชื่นชอบน้ำอัดลมน้ำใสเพราะรู้สึกมีความเป็นธรรมชาติและดูมีสุขภาพ จึงทำให้บริษัทอยากที่จะยกระดับ เซเว่น-อัพให้กลายเป็นเครื่องดื่มเพื่อคนรักสุขภาพ จึงต่อยอดออกสินค้าใหม่ “เซเว่น-อัพ ฟรี” ไม่มีน้ำตาล ไม่เจือสี ไม่คาเฟอีน

ซึ่งจะเป็นการ “ลองตลาด” ทั่วโลก โดยได้นำ “ไฟโด ดิโด” (Fido Dido) ตัวการ์ตูนที่เคยเป็นมาสคอตของเเบรนด์ เซเว่น-อัพ ในยุค 80-90 มาสร้างสีสันบนแพ็คเกจจิ้งใหม่ให้เเฟนๆ ได้เก็บสะสมกันซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดี

 

จัดเทศกาลดนตรี เน้นเพิ่มฐานภาคอีสาน 

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ยังเดินหน้าเป็นผู้สนับสนุนหลักในเทศกาลดนตรีเพื่อโปรโมทเเบรนด์ในวงกว้าง ซึ่งในช่วงสงกรานต์ปีนี้ มีการร่วมใน 4 งานซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ได้เเก่

  • Pepsi Presents S2O Songkran Music Festival กรุงเทพ ที่มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 60,000 คน สนับสนุนเป็นปีที่ 6 แล้ว
  • UD Town Songkran Festival จ.อุดรธานี หนึ่งในเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1.2 แสนคน สนับสนุนเป็นปีที่ 4 แล้ว
  • Pepsi Music Presents Songkran Korat มันส์ สุด มาก ณ เซ็นทรัลพลาซา จ.นครราชสีมา สนับสนุนเป็นปีที่ 6
  • Volo Festival เทศกาลดนตรี Hip Hop กลางสวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน โดยปีนี้เป็นปีแรกที่ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคเข้าสนับสนุน

“เรายังเน้นไปที่ภาคอีสาน ซึ่งเป็นฐานลูกค้าใหญ่ที่สุดของเป๊ปซี่ เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ”  

ขณะที่ความกังวลจากการเเพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ที่นักท่องเที่ยวจะลดลงมากเเละความเสี่ยงจากการชุมนุมนั้นมีผลต่อการจัดเทศกาลดนตรีในปีนี้หรือไม่ จรณชัยตอบว่า ทางเป๊ปซี่โคติดตามสถานการณ์วันต่อวัน เพื่อเตรียมรับมือในด้านต่างๆ เเต่ยืนยันว่าจะเป็นสปอนเซอร์หลักในการจัดงานต่อไป อย่างไรก็ตามการดำเนินงานนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้จัดงาน