กรุงเทพฯ คงไม่พอ! “เอพี” หาน่านน้ำใหม่ เปิดตัวบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ “หัวเมืองรอง” เป็นครั้งแรก

  • กลยุทธ์ เอพี ไทยแลนด์ ปี 2563 เตรียมเปิดตัว 37 โครงการ มูลค่า 47,150 ล้านบาท เทน้ำหนักแนวราบสูงขึ้น ลดการเปิดคอนโดมิเนียม เน้นเซ็กเมนต์ถนัดระดับกลางถึงกลางบน
  • ตั้งเป้ายอดขายทรงตัว 33,000 ล้านบาท โตเพียง 2% ส่วนเป้ารายได้ 40,550 ล้านบาท เติบโตสูง 25% เนื่องจากมีการโอนคอนโดฯ 4 โครงการ
  • มองหาโอกาสใหม่ในต่างจังหวัด วางแผนชิมลาง 4-5 โครงการแนวราบในหัวเมืองรองทุกภูมิภาคเพื่อทดลองตลาด ประเดิมโครงการแรกที่นครศรีธรรมราช

มุมมองของเอพีปีนี้ยังคงวางแผนแบบระมัดระวังตามสถานการณ์ปัจจัยลบรอบด้าน “วิทการ จันทวิมล” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ เอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป เปิดเผยแผนธุรกิจของบริษัทปี 2563 ว่า ปีนี้บริษัทจะเปิดตัวโครงการทั้งหมด 37 โครงการ มูลค่ารวม 47,150 ล้านบาท โดยลดสัดส่วนคอนโดมิเนียมลงจากปีที่ผ่านๆ มา วางแผนเปิดเพียง 4 โครงการ มูลค่ารวม 12,100 ล้านบาท ที่เหลือจะเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด

โดยโครงการแนวราบส่วนใหญ่ที่จะเปิดปีนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นบ้านเดี่ยวแบรนด์ Centro ราคา 5-10 ล้านบาท และแบรนด์ The City ราคา 10-13 ล้านบาท ส่วนทาวน์เฮาส์เกือบทั้งหมดเป็นแบรนด์ Pleno ราคาเริ่มต้นเกือบ 3 ล้านบาท เพราะต้องการเจาะเซ็กเมนต์กลางและกลางบนเป็นหลัก อันเป็นตลาดที่เอพีถนัดและลูกค้ามีกำลังซื้อ

สำหรับคอนโดฯ ที่จะเปิดเป็นแบรนด์ระดับกลางและกลางล่าง ได้แก่ Aspire เอราวัณ ไพรม์, Life ลาดพร้าว-จตุจักร, Life สุขุมวิท-พระราม 4 และ Life ราชปรารภ

 

เป้ายอดขายเสมอตัว รอรับโอนคอนโดฯ

“ปีนี้เปิดมา 2 เดือนแรก เราทำยอดขายแล้ว 4,300 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าที่คาดและดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะแนวราบเริ่มเปิดตัวแล้ว 11 โครงการ พบว่าตลาดยังมีดีมานด์สูง” วิทการกล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มตลาดจะดีขึ้น แต่เอพียังวางเป้ายอดพรีเซลแบบค่อนข้างเสมอตัว คืออยู่ที่ 33,000 ล้านบาท เติบโตเพียง 2% จากปีก่อน เพราะมีปัจจัยที่คาดไม่ถึงตั้งแต่ต้นปี เช่น ไวรัสโคโรนา มีผลกับเศรษฐกิจ

Life อโศก-พระราม 9 หนึ่งในคอนโดฯ ที่จะโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้

ส่วนเป้าหมายรายได้ วางไว้สูง 40,550 ล้านบาท (รวมรายได้โครงการร่วมทุนทั้งหมด) เติบโต 25% จากปีก่อน เนื่องจากปีนี้จะมีการโอนคอนโดฯ สร้างเสร็จใหม่ถึง 4 โครงการ มูลค่าแบ็กล็อก 16,560 ล้านบาท ได้แก่ Life ลาดพร้าว (ยอดขาย 93%), Life อโศก-พระราม 9 (ยอดขาย 93%), Aspire สุขุมวิท-อ่อนนุช (ยอดขาย 50%) และ Aspire อโศก-รัชดา (ยอดขาย 98%) รวมถึงมี 2 โครงการที่โอนต่อเนื่องมาจากปีก่อน

 

ชิมลางต่างจังหวัด หาโอกาสใหม่

ในแง่ทำเลการเปิดโครงการ ปีนี้ยังจะเป็นปีแรกที่เอพีไปเปิดตัวโครงการแนวราบในต่างจังหวัด จากที่ผ่านมา บริษัทเคยทำตลาดต่างจังหวัดเฉพาะคอนโดมิเนียม และพัฒนาเพียง 2 โครงการที่ จ.อุดรธานี และ จ.พิษณุโลก เมื่อ 5 ปีก่อน แต่ไม่เคยมีการเปิดโครงการแนวราบมาก่อน

“วิทการ จันทวิมล” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ เอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป

“เราไปเพื่อไปหาดีมานด์ใหม่ๆ เพิ่ม โดยจะมีการทดลองเปิด 4-5 โครงการ กระจายตามหัวเมืองรองภูมิภาคละ 1 โครงการ เพื่อดูโมเดลการพัฒนารูปแบบไหนที่จะเหมาะสมและภูมิภาคไหนที่เราทำได้” วิทการกล่าว “นอกจากผู้ซื้อกลุ่มใหม่แล้ว เรายังต้องไปเรียนรู้ผู้รับเหมาและซัพพลายเออร์ท้องถิ่นด้วย”

โดยสาเหตุที่เอพีเลือกเมืองรองมากกว่าหัวเมืองหลักหรือท่องเที่ยว เพราะเห็นว่ามีคู่แข่งน้อยกว่าแต่ยังมีดีมานด์ เช่น นครศรีธรรมราช จังหวัดแรกที่จะไปเปิดโครงการช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ แม้ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวแต่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อ

“หัวเมืองหลักคู่แข่งเยอะและอยู่มานาน เราอาจจะสู้ยาก จึงขอเริ่มที่เมืองรองก่อน ถ้าเราแข็งแกร่งพอก็อาจจะขยับไปเมืองหลักต่อ”

การไปบุกต่างจังหวัด เอพีจะเปิดตัวชื่อโครงการแบรนด์ใหม่ เพราะมองว่าจะเป็นโครงการที่มีสินค้าหลายแบบรวมกัน และอาจจะเปิดราคาเริ่มต้นที่ 1-2 ล้านบาทสำหรับทาวน์เฮาส์ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างซื้อที่ดินรวมแปลงในนครศรีธรรมราช และมองหาที่ดินในจังหวัดอื่นๆ