“ไมเนอร์” เปิดผลประกอบการปี 62 ฟาดรายได้ 1.29 แสนล้าน กำไรหมื่นล้าน โต 137%

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“MINT”) ประกาศผลประกอบการปี 2562 รายได้รวม 129,061 ล้านบาท กำไรสุทธิ 10,698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137% จากปี 2561 ซึ่งมีกำไรสุทธิตามงบการเงินจำนวน 4,508 ล้านบาท

โดยการเติบโตของกำไรสุทธิอย่างมีนัยสำคัญดังกล่าวเป็นผลมาจากการรวมงบการเงินของเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และกำไรจากการขายสินทรัพย์ สำหรับไตรมาส 4 ปี 2562 MINT มี กำไรสุทธิตามงบการเงินจำนวน 3,768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 569% จากในไตรมาส 4 ปี 2561 ซึ่งมีกำไรสุทธิตามงบการเงินจำนวน 563 ล้านบาท

โดยการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากผลการดำเนินงานที่ดีของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกำไรจากการขายโรงแรม 3 แห่งในประเทศมัลดีฟส์ในไตรมาส 4 ปี 2562 ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามกลยุทธ์การหมุนเวียนสินทรัพย์ของ MINT ทั้งนี้ หากไม่นับรวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว MINT มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเติบโต 23% ในปี 2562 และ 53% ในไตรมาส 4 ปี 2562

ธุรกิจโรงแรม

ไมเนอร์ โฮเทลส์ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 2,619 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 2562 เพิ่มขึ้น 66% จากไตรมาส 4 ปี 2561 ซึ่งมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 1,580 ล้านบาท การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากกำไรอย่างมีนัยสำคัญจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจโรงแรมของไมเนอร์ โฮเทลส์

ส่วน อนันตรา เวเคชั่น คลับ มีผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 ปี 2562 ไมเนอร์ โฮเทลส์มีโรงแรมเพิ่มขึ้น 27 แห่ง (3,582 ห้อง) ในปี 2562

ธุรกิจอาหาร

ไมเนอร์ ฟู้ด มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 258 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 2562 ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 273 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 2561 ไมเนอร์ ฟู้ดยังคงลงทุนในการพัฒนาความสามารถทางด้านดิจิทัล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและรับมือกับตลาดที่ชะลอตัวในอนาคต

กลุ่มธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยยกระดับความร่วมมือกับผู้ให้บริการจัดส่งอาหารรายอื่นเพื่อช่วยเสริมแพลตฟอร์มการจัดส่งอาหารของบริษัทเอง ควบคู่ไปกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายต่อร้านเดิมมีแนวโน้มที่ดีขึ้นมาก

การพลิกฟื้นผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2562 รวมถึงการรวมงบการเงินของบอนชอนตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน ช่วยลดผลกระทบจากผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวลงในตลาดอื่นๆ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของไมเนอร์ ฟู้ดมีสัญญาณการฟื้นตัว ด้วยการลดลงของกำไรสุทธิในอัตราที่ช้าลงในไตรมาส 4 ปี 2562 เมื่อเทียบกับไตรมาสอื่นในปี 2562

ปัจจุบัน ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล มี 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่

  • ธุรกิจโรงแรม โดยมีโรงแรมและเซอร์วิส สวีท ทั้งสิ้น 535 แห่ง ภายใต้แบรนด์ อนันตรา, อวานี, โอ๊คส์, ทิโวลี, เอ็นเอช คอลเลคชั่น, เอ็นเอช โฮเทลส์, นาว, เอเลวาน่า, แมริออท, โฟร์ซีซั่นส์, เซ็นต์ รีจิส, เรดิสัน บลู และโรงแรมในกลุ่มไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ใน 57 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา คาบสมุทรอินเดีย ยุโรป อเมริกาใต้ และอเมริกาเหนือ
  • ธุรกิจร้านอาหาร มีร้านอาหารกว่า 2,300 สาขา ใน 26 ประเทศ ภายใต้แบรนด์ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, เดอะ คอฟฟี่ คลับ, ริเวอร์ไซด์, เบนิฮานา, ไทย เอ็กซ์เพรส, บอนชอน, สเวนเซ่นส์, ซิซซ์เลอร์, แดรี่ ควีน และเบอร์เกอร์ คิง
  • ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ อเนลโล่, โบเดิ้ม, บอสสินี่, บรูคส์ บราเธอร์ส, ชาร์ล แอนด์ คีธ, เอสปรี, เอแตม, โจเซฟ โจเซฟ, โอวีเอส, แรทลีย์, สโกมาดิ, สวิลลิ่ง เจ. เอ. เฮ็งเคิลส์ และไมเนอร์ สมาร์ท คิดส์