ปรากฏการณ์ TikTok จากแอปที่คนหาว่าสก๊อย สู่แพลตฟอร์มที่ทุกคนต้องเล่นยาม “กักตัว”

TikTok กลายเป็นปรากฏการณ์ไวรัลในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อคนไทยและคนทั่วโลกต้องอยู่ในสภาวะกักตัว และ Work from Home จากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 อะไรเป็นตัวจุดประกายให้อยู่ดีๆ TikTok ก็เป็นที่นิยมขึ้นมา?

อดีตคนมองว่าเป็นแอปสก๊อย?

TikTok เป็นแอปพลิเคชันสัญชาติจีน ก่อตั้งในปี 2012 โดย ByteDance หลักการทำงานก็ง่ายๆ เป็นแอปพลิเคชันสร้างวิดีโอสั้นความยาว 15-60 วินาที แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 15 วินาที คอนเทนต์ส่วนใหญ่จะมีหลากหลายทั้ง Cover เพลง, เต้น, ลิปซิงค์เพลงต่างๆ

ในประเทศไทยเริ่มได้รับความนิยมเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา แต่ต้องบอกว่าภาพลักษณ์ของ TikTok ในไทยไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เพราะหลายคนมองว่ามีแต่เด็กๆ เล่น อีกทั้งยังมีช่วงหนึ่งที่มีไวรัลแปลกๆ อย่าง “โรตีดิบ” ยิ่งทำให้คนมอง TikTok ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร

แต่ TikTok เองก็เร่งสร้างแบรนด์ในประเทศไทย และมีทีมบริหารที่เป็นคนไทยมาเสริมทัพเพื่อทำตลาดในไทย ทำให้ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ใช้ติด Top 3 ของอาเซียนไปแล้ว

กลยุทธ์หลักของ TikTok คือการพยายามสร้างแบรนด์ผ่าน Influencer ต่างๆ เป็นการช่วยดารา นักร้อง หรือครีเอเตอร์มาสร้างแอคเคาท์ พร้อมกับโปรโมต เพื่อเป็นการสร้างความมัน่ใจว่ามีคนดังใช้งานแอปพลิเคชันนี้

จากอดีตที่ภาพลักษณ์ไม่ค่อยดี แต่ตอนนี้คนเริ่มเปิดใจให้กับ TikTok มากขึ้น เพราะ “ไวรัล” ต่างๆ อีกทั้งเมื่อยามกักตัวของคนทั่วโลก ทำให้ทุกคนย่อมหากิจกรรมให้กับตนเองเพื่อคลายเครียด ทางออกจึงกลายเป็นว่า TikTok สามารถเข้ามาตอบโจทย์คนทั่วโลกได้ในเวลานี้

สารพัด Challenge ร้อง เต้น เล่นตลก

หนึ่งในหมากเด็ดของ TikTok ก็คือการมีลูกเล่นต่างๆ มากมาย มีเอฟเฟกต์ใส่ให้วิดีโอดูส่วนผ่อง หน้าเนียน รวมถึงลูกเล่นตลกๆ ก็มีไม่แพ้กัน จากที่สังเกตจากคนรอบตัวแล้ว คนไทยจะชอบฟิลเตอร์ “5 คน” เหมือนเต้นแล้วมีแดนเซอร์ประกอบอยู่

อีกหนึ่งสิ่งที่เพิ่มความสนุกให้ TikTok คือ Challenge ต่างๆ ทำให้แพลตฟอร์มกลายเป็นคอมมูนิตี้ที่รวมคนที่ชื่นชอบแบบเดียวกัน สไตล์เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นร้อง ลิปซิงค์เพลง หรือเต้น เล่นตลกก็มี

 

Challenge ที่ร้อนแรงล่าสุดคงหนีไม่พ้น #jlosuperbowlchallenge ที่นำเอาบางช่วงของโชว์ของ Jenifer Lopez ในงาน Superbowl ที่ผ่านมา มาทำเป็น Challenge สั้นๆ พบว่ามีทั้งคนดัง ดาราต่างเล่น Challenge นี้กันมากมาย

ไวรัล “เจน นุ่น โบว์” แจ้งเกิดเพลงเก่า

อีกหนึ่งไวรัลที่กำลังมาแรงในขณะต้องยกให้ “เจน นุ่น โบว์” กลายเป็นเพลงที่ไวรัลบนโซเชียลอย่างมากในตอนนี้ จริงๆ แล้วมาจากเพลง SUPER วาเลนไทน์ ของวงซูปเปอร์วาเลนไทน์ เพลงนี้ได้มีมา 10 ปีแล้ว แต่ได้มีคนตัดบางช่วงมาใส่ใน TikTok จนกลายเป็นเพลงฮิตชั่วข้ามคืน

สิ่งที่ทำให้ TikTok กลายเป็นแอปยอดนิยมของคนไทยในช่วงขณะนี้ นั่นเป็นเพราะมีฟีเจอร์ที่ถูกจริตคนไทยที่แอปอื่นยังไม่มี แม้อินสตาแกรมจะมี Stories ที่ถ่ายคลิปสั้นๆ แต่ก็ไม่มีฟีเจอร​์ หรือเอฟเฟกต์ให้เล่นมากมาย

ยิ่งในช่วงกักตัวอยู่บ้านหลายคนต้องมีอาการเบื่อ การที่มีฟีเจอร์เข้ามาตอบโจทย์ทำให้การอยู่บ้านมีสีสันมากขึ้น เลยทำให้ TikTok เป็นที่นิยมมากในตอนนี้

สรุป 6 ปัจจัย ทำให้ TikTok เติบโตเร็ว

ตอนนี้ TikTok หนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยมีผู้ใช้งานกว่า 800 ล้านคนทั่วโลก มียอดดาวน์โหลดกว่า 1,500 ล้านครั้ง และในเดือนมกราคมที่ผ่านมา TikTok มียอดดาวน์โหลดเป็นอันดับ 1 ของโลกด้วยยอด 104.7 ล้านครั้ง

HOT ขนาดที่ YouTube และ Facebook ต่างก็กำลังทำฟีเจอร์ ‘เลียนแบบ’ อะไรเป็นส่วนผสมที่ทำให้ TikTok เป็นที่นิยมและเติบโตได้ขนาดนี้ ไปหาคำตอบกัน

  1. แตกต่างตั้งแต่เริ่ม

สิ่งที่ช่วยให้ TikTok โดดเด่นท่ามกลางการแข่งขัน คือ มันเป็นแพลตฟอร์ม ‘ความบันเทิง’ มากกว่าแพลตฟอร์ม ‘ไลฟ์สไตล์’ เหมือนกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในตลาด และสิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจคือทุกคนสามารถเป็นผู้ให้บริการเนื้อหาได้เพราะความเรียบง่ายในการใช้แอป นั่นเป็นเหตุผลที่ดึงดูดเหล่าครีเอเตอร์หน้าใหม่จำนวนมากจากทั่วโลก

2. ง่ายและเรียล

ด้วยความที่ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผู้ใช้สร้างวิดีโอสั้น ๆ เพียง 15 วินาที ดังนั้น การสร้างสรรค์จึงง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมาก เน้นความเรียล และด้วยเวลาที่สั้นก็ง่ายสำหรับผู้ชมด้วย เพราะไม่ต้องใช้เวลานานในการรับชม โดยจากข้อมูลพบว่าในปีที่ผ่านมามีจำนวนการดูวิดีโอมากกว่า 1 ล้านครั้งทุกวันตลอดหนึ่งปี และในแต่ละวันมีการใช้งาน TikTok เฉลี่ยที่ 52 นาที/คน/วัน และ 90% ของผู้ใช้ทั้งหมดใช้งานแอปทุกวัน

3. ไม่น่าเบื่อ

ด้วย ‘เพลง’ ที่มีทั้งสากลและโลคอล รวมถึงคลิปเสียงต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมี ‘เอฟเฟกต์’ และ ‘สติกเกอร์’ ทำให้ผู้ใช้เองสามารถแสดงออกด้วยวิธีที่สร้างสรรค์ได้อย่างหลากหลายมาก ๆ โดยเฉพาะคอนเทนต์สายฮา ที่ดูจะกลายเป็น “มีม” และ Viral ได้ง่าย ขณะที่หน้าฟีดเองก็นำ Machine Learning มาใช้ เพื่อแสดงคอนเทนต์ให้ตรงตามความสนใจของผู้ใช้

4. Challenge ที่ถี่ยิบ

นอกจากคอนเทนต์ที่ไม่น่าเบื่อแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญมากของ TikTok ก็คือ Challenge ที่ทำให้เกิด Viral ยิ่งในช่วงกักตัวเพราะการระบาดของ COVID-19 ทำให้เกิดไวรัลดังๆ แทบจะเกิดใหม่ทุกวัน เพราะเหล่าคนดังที่ไม่สามารถออกไปทำงานได้ต่างก็มาเล่นแก้เบื่อ

อย่างในเดือนมีนาคมก็มีนี้ #เมื่อ #ลิ้นพันกัน #สายป่าน หรืออย่างชาเลนจ์ที่เกี่ยวกับ COVID-19 ที่ TikTok ได้ร่วมกับ WHO อย่าง #ล้างมือ40วิ = #safehands ที่มียอดวิวรวมสูงถึง 1,700 ล้านวิว

5. มาไว-ไปไว-เกิดไว

TikTok เป็นกระแสที่มาเร็วไปเร็วจริง แต่ก็ถือว่า ‘เพียงพอ’ แล้วที่จะแจ้งเกิด Influencers หน้าใหม่ ๆ หรือทำให้เพลงที่เคยดัง หรือไม่ดัง ก็สามารถปังได้เมื่อใช้ TikTok อย่างก่อนหน้านี้ก็มีเพลง ‘วิบวับ’ ที่เป็นเพลงฮิตเพลงใหม่ หรือเพลง ‘ซูปเปอร์วาเลนไทน์’ ที่เป็นเพลงเก่าเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ก็กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง หรือ YouTuber บางคนที่มียอดติดตามหลักหมื่น แต่เข้ามาใช้ TikTok เพียง 6 เดือนสามารถเพิ่มผู้ติดตามเป็น 1 ล้านคน

6. ผู้ใช้ไม่ใช่เด็กอีกต่อไป

ปัจจุบัน TikTok มีให้บริการใน 155 ประเทศและใน 75 ภาษา ขณะที่ 41% ของผู้ทั่วโลกมีอายุระหว่าง 16 และ 24 ปี ดังนั้นจะเห็นว่าเกือบครึ่งมีแต่ ‘วัยรุ่น’ แต่ในช่วงเวลา 18 เดือนที่ผ่านมา การใช้งาน TikTok ของวัย ‘ผู้ใหญ่’ ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นถึง 5.5 เท่า ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่เองก็ให้ความสนใจ TikTok มากขึ้นเรื่อยๆ

กล่าวได้ว่า TikTok เป็นอะไรที่มากกว่าและมีจุดประสงค์ที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ อย่าง Facebook, YouTube, Instagram หรือ Snapchat เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่มุ่งเน้นที่ ‘ผู้สร้างเนื้อหา’ เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ทั้ง Facebook และ YouTube เองต่างก็ออกฟีเจอร์ที่เหมือนกับ TikTok เพื่อหวังมากอบโกยความสำเร็จนี้บ้าง จากนี้คงต้องติดตามดูว่า TikTok เองจะยังสามารถสร้าการเติบโตได้ไหม หรือจะพลาดท้าเสียทีให้กับ 2 แพลตฟอร์มใหญ่ของโลกที่ประกาศสงครามเต็มที่

อ่านเพิ่มเติม